“ดีแทค” ใจดี ให้พนักงานหยุดสามเดือนเต็มๆ แต่ยังได้เงินเดือนปกติ – พร้อมเตรียมขึ้นแท่นผู้นำอันดับ 1 ด้านดิจิทัล

หากพูดถึงโครงการที่ช่วยส่งเสริม สนับสนุนให้เกิดสตาร์ทอัพชั้นนำระดับประเทศ ระดับอาเซียน และมุ่งสู่เวทีสตาร์ทอัพระดับโลก แน่นอนว่า “ดีแทค แอคเซอเลอเรท” ต้องติดอันดับต้นๆ ของโครงการที่ดีที่สุดในการสร้างสตาร์ทอัพ ด้วยผลงานที่การันตรีถึงความสำเร็จ อาทิ รางวัล BlackBox Connect  จากซิลิคอนวัลเล่ย์ สหรัฐอเมริกา การงานแสดงผลงานของเหล่าสตาร์ทอัพระดับโลกที่กรุงลิสบอน โปรตุเกส พร้อมทั้งสามารถขยายตลาดสตาร์ทอัพไปสู่ต่างประเทศ

 

ดีแทค แอคเซเลอเรทอยู่ภายใต้การดูแลของ คุณสมโภชน์ จันทร์สมบูรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายนวัตกรรมธุรกิจ และดีแทค แอคเซอเลอเรท บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค

คุณสมโภชน์เล่าให้ฟังว่า  ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา โครงการดีแทค แอคเซอเลอเรท มองหานวัตกรรมใหม่ (seeking for innovation) เข้ามา ปัจจุบันในโครงการของเรามีสมาชิก ในโครงการ 21 ทีมและกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เช่น Take Me Tour, Skootar และอีกมากมาย ซึ่งตอนนี้มูลค่าแตะไปที่ 1,700,000,000 บาท แล้ว เรามีส่วนส่งเสริมเศรษฐกิจไทย เป็นนักรบพันธุ์แท้ นักรบเศรษฐกิจพันธุ์ใหม่ที่จะคอนทินิวให้กับ GDP

อย่างโค้งสุดท้ายของเราอย่างปีนี้ มีคนสมัครเข้ามาทั้งหมด 580 กว่าทีม คัดจากทั้งหมดเหลือเพียงแค่ 10 กว่าทีม และ10 ทีมนี้สามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีแนวโน้มไปต่างประเทศ อย่างมาเลเซีย หรือพม่า หรืออย่างในบังกลาเทศ ปากีสถานก็มี นั่นคือภาพรวมที่เกิดขึ้นในสตาร์ทอัพบ้านเราและผมคิดว่าในอีกไม่เกินสองสามปีข้างหน้า เราคงได้เห็นอะไรแบบสตาร์ทอัพไทยไปในระดับโลกได้

 

ซึ่งดีแทคเองมีการสนับสนุนการทำสตาร์ทอัพ ทั้งภายในและภายนอกองค์กรตลอดมา เรามีสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างเยอะ70% -80% ในโครงการเราสามารถเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ และไปต่อได้มีการขยับขยายธุรกิจ เติบโตอย่างยั่งยืน

12-1

ด้วยเหตุผลนี้เราเห็นว่าโมเดลที่เราทำกับสตาร์ทอัพเป็นโมเดลภายนอกองค์กร ทำไมเราไม่เอามาใช้กับพนักงานของดีแทค หรือเทเลนอร์ กรุ๊ปทั่วโลก คือเป็นเหตุผลที่เกิดโครงการ Ignite Incubator

เราให้พนักงาน ดีแทค หรือเทเลนอร์ทั่วโลก สามารถหยุดงานสามเดือนเต็มๆ และได้รับเงินเดือนเต็มด้วย เพื่อที่ออกมาทำสตาร์ทอัพ ทำตามความฝันของตัวเอง สิ่งที่คิดว่าน่าเป็นปัญหา ในชีวิตประจำวันที่อยากจะแก้ไข หรือเป็น pain point ของลูกค้าทั้ง 200 กว่าล้านคนทั่วโลก

โดยทั้ง 13 ประเทศที่เทเลนอร์มีหน่วยธุรกิจ มีคนสมัครเข้ามาไม่ต่ำกว่า 600 ไอเดีย เราเลือกทั้งหมด 8 ไอเดีย แล้วก็มาอยู่บูธแคมป์ที่นอร์เวย์ แล้วก็ที่กรุงเทพ  แล้วเราก็บ่มเพาะเขาหลักสูตรเดียวกับที่เราใช้กับดีแทค แอคเซอเลอเรท อาจจะปรับนิดหน่อยให้เขาเติบโตได้ คุณสมโภชน์กล่าว

ด้าน  คุณยศ พัชรมงคลพันธุ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สายงานธุรกิจโพสต์เพด หนึ่งในผู้เข้าร่วม Ignite incubator เล่าให้ฟังว่า  จากความสำเร็จของโครงการ “ดีแทค แอคเซอเลอเรท” ที่เปิดโอกาสให้กับบุคคลภายนอกเข้ามาทำโครงการสตาร์ทอัพนั้นประสบความสำเร็จต่อเนื่องมาหลายปี ทางบริษัทจึงเล็งเห็นความสำคัญ และอยากให้พนักงานมีส่วนร่วมในการสร้างดีเอ็นเอผู้ประกอบการ เพื่อให้พนักงานกล้าคิด กล้าแสดงออก และคิดนอกกรอบในการทำโครงการใหม่ๆ ซึ่งเชื่อว่าโครงการที่พนักงานคิดอาจนำไปต่อยอดเป็นธุรกิจใหม่ของดีแทคได้

11

‘Ignite Incubator’ มาจากผู้ถือหุ้นรายสำคัญของดีแทค หรือเทเลนอร์กรุ๊ปที่มีหน่วยธุรกิจอยู่ใน 13 ประเทศทั่วโลก ได้คิดค้นโครงการให้พนักงานเสนอไอเดียขึ้นมา ซึ่งมีทั้งหมด 500 ทีม คัดมาเหลือ 30 ทีม จาก 30 ทีมก็คัดเลือกอีกครั้งจนได้ผู้ชนะ 8 ทีม ซึ่ง Dealstogo ก็เป็น 1 ใน 8 ทีม และได้รับโอกาสเข้าอบรมในโครงการสตาร์ทอัพของ Ignite Incubator เพื่อพัฒนาเป็นแอปพลิเคชั่น และหากสำเร็จก็จะเปิดให้ผู้บริโภคได้ใช้จริง

หากจะให้นิยามเพื่อให้เข้าใจง่าย Ignite Incubator ก็เหมือนสตาร์ทอัพดีๆ แต่เป็นสตาร์ทอัพในหมู่พนักงาน ที่พนักงานทำเอง โดยมี ดีแทค หรือเทเลนอร์ ช่วยสนับสนุน ซึ่งเราสร้างผลิตภัณฑ์ขึ้นมาจริง และนำเอาผลิตภัณฑ์นั้นไปเสนอให้กับลูกค้า ซึ่งลูกค้าก็สามารถได้รับประโยชน์จากโครงการสตาร์ทอัพนี้

ดีแทคไม่เพียงแค่ส่งเสริม พัฒนาสตาร์ทอัพจากบุคคลภายนอกสู่เวทีระดับโลกภายใต้ดีแทค แอคเซอเลอเรท เท่านั้น แต่ยังสร้างสตาร์ทอัพภายในองค์กร เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ตอบโจทย์ของผู้บริโภค พร้อมก้าวเข้าสู่ความเป็นผู้นำขององค์กรอันดับหนึ่งในยุคดิจิทัลในอนาคต

 

ที่มา มติชนออนไลน์