ม.ร.ว.สุมนชาติ สวัสดิกุล เล่าถึงพระประสูติกาล “สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร” 28 ก.ค.2495

คัดจากหนังสือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร กรมศิลปากรจัดพิมพ์เนื่องในพระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร วันที่ 28 ธันวาคม พุทธศักราช 2515

สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ประสูติ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน ในพระราชวังดุสิต เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2495 เวลา 17 นาฬิกา 45 นาที ตรงกับวันจันทร์ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 9 ปีมะโรง จัตวาศก อธิกวาร จุลศักราช 1314

ม.ร.ว.สุมนชาติ สวัสดิกุล ได้เล่าถึงพระประสูติกาลไว้ดังนี้

วันที่ 28 กรกฎาคม 2495 วันนี้ครึ้มฟ้าครึ้มฝนตั้งแต่เช้า ฝนไม่ได้ตกมานานพวกชาวไร่ชาวนาเห็นเค้าฝนต่างก็พากันชื่นชมยินดี เพราะตั้งแต่เข้าพรรษามาไม่ค่อยจะมีฝนเลย แห้งแล้งไปทั่วเกือบทุกตำบลในประเทศนี้ ชาวบ้านพากันสนใจในเรื่องฝน เมื่อไรจะตกสักทีจะได้ชุ่มชื่นกันบ้าง

วันนี้ตรงกับวันจันทร์ ราวๆ 9 นาฬิกาเศษได้ยินเสียงลือกันว่าสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีจะประสูติเพราะประชวรพระครรภ์แล้ว ที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต อันเป็นที่ประทับมีการเคลื่อนไหวเล็กน้อย และพอสายเข้าก็มีผู้คนเข้าออกกันมากเข้า ราชสักขีที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งไว้ก็ไปประชุมพร้อมกัน คณะนายแพทย์ก็รออยู่อย่างพร้อมเพรียง ข่าวนี้ลือออกมาถึงอาณาประชาราษฎร และเพราะเหตุที่ปากคนยาวกว่าปากกา ข่าวที่ลือออกมาจึงเป็นว่า สมเด็จพระนางเจ้าฯ ประสูติพระราชโอรสแล้ว

img_5161-745x1024

ที่ลือกันเช่นนั้น ก็เพราะมติมหาชนชาวไทยมุ่งหมายอยากจะให้ทรงมีพระราชโอรสพระราชกุมารเป็นยอดปรารถนาของชาวไทย ชาวไทยทั้งหลายได้รอมาแต่เดือนเมษายนปีก่อนขณะประสูติสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ใหญ่ ณ นครโลซานน์ ประเทศสวิสส์ และก็ได้คอยต่อมาจนถึงวันนี้ คอยด้วยความหวังที่จะได้สยามมกุฎราชกุมาร

พอข่าวลือแพร่ออกไป ณ บริเวณพระบรมรูปทรงม้าหน้าพระราชวังดุสิตก็แออัดไปด้วยฝูงชน ทหารลากปืนใหญ่ที่เตรียมไว้ออกมาตั้ง ณ สนามเสือป่า ทหารเรือเตรียมเปิดผ้าคลุมปืนเรือที่จอดรอเวลาอยู่ในแม่น้ำเจ้าพระยา พร้อมที่จะยิงสลุตถวายคำนับได้ทันทีที่มีข่าวว่า สมเด็จฯ เจ้าฟ้าที่ประสูติใหม่เป็นพระราชกุมาร ทั้งทหารบก ทหารเรือ นอนเวรประจำปืนอยู่หลายเวลาแล้ว ชาวประโคมดุริยางค์ก็เช่นเดียวกัน ผลัดกันมาประจำที่ พร้อมที่จะประโคมได้ทุกขณะ เมื่อตอนเช้าวันนี้หน่วยต่างๆ พร้อมที่จะปฏิบัติงานตามราชประเพณีได้ทันที แตรวงทหารบกก็ขนกันมา ปี่พาทย์แตรสังข์ก็ครบครัน วิทยุกระจายเสียงของรัฐบาลก็เริ่มป่าวข่าว เตรียมการประสูติ ผู้คนก็ไหลไปสู่หน้าลานพระที่นั่งอนันตสมาคมไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเคร่งครัดครั้นแล้วก็ต้องรอรากันไปเพราะยังไม่ประสูติ

img_5158-2-768x543

วิทยุกระจายเสียงของรัฐบาลได้นัดหมายกับประชาชนในการที่จะแจ้งข่าวการประสูติอย่างละเอียด พร้อมที่จะถ่ายทอดเสียงจากภายในพระราชฐานให้ประชาชนได้ทราบ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของชาติไทยที่แจ้งข่าวการประสูติด้วยวิธีนี้

สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงประชวรถี่เข้า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวประทับอยู่ในบริเวณอันใกล้ชิด ทรงสนพระราชหฤทัยยิ่งกว่าผู้ใดอื่นทั้งสิ้น ทรงเตรียมเครื่องอัดเสียงและถ่ายรูปสำหรับการนี้อย่างพร้อมมูล

นายแพทย์ได้ตรวจพระอาการและเฝ้าถวายรายงานอยู่ทุกระยะ ดวงใจทุกๆ ดวงต่างก็มุ่งอยู่ที่ความประสงค์อันเดียวกันคืออยากให้ประสูติเป็นราชโอรส ซึ่งจะทรงดำรงตำแหน่งสยามมกุฎราชกุมาร เป็นความมุ่งหมาย ทุกคนมีธุระ ทุกคนอยากจะทำอะไรที่เกี่ยวกับการประสูติครั้งนี้ด้วย ราษฎรที่ปรารถนาจะแสดงความจงรักภักดีก็มาประชุมกันอยู่ที่หน้าพระลาน พวกที่มีรถยนต์เป็นพาหนะก็แล่นเทียวไปเทียวมาอยู่ในบริเวณนั้น เพื่อจะฟังข่าวการประสูติให้ใกล้ชิด เพื่อรอฟังเสียงปืนใหญ่ เพื่อดูให้เห็นชัดว่าทหารจะยิงปืน หรือเพียงแต่จะได้ยินเสียงชาวในประโคมดุริยางค์เท่านั้น

ดวงใจทุกดวงหวั่นไหว เพราะไม่ทราบแน่ว่าจะเป็นพระราชกุมารหรือพระราชกุมารี ถ้าเป็นพระราชกุมารีจะเป็นอย่างไร ใจทุกๆ ดวงเฝ้าคิด สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีเล่าทรงรู้สึกเป็นอย่างไร รอกันอยู่ตั้งแต่เช้าจนเที่ยงแล้วก็ยังไม่ประสูติ สมเด็จพระราชชนนีสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา และเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ พระญาติพระวงศ์ต่างก็เสด็จไปรอคอยการประสูติครั้งนี้อย่างพรักพร้อม

พอได้ข่าวเช่นนั้นต่างก็ต้องรอกันไปอีกพักหนึ่ง ปืนใหญ่ทั้งบกเรือซึ่งพร้อมที่จะยิงต่างก็เอาผ้าใบคลุมปิดเข้าที่ ฝูงคนที่ยืนออกันก็พากันกระจายไป “ยังไม่ประสูติ ยังไม่ประสูติ” เสียงบ่นกันพึมพำไปหมด เขาจะเอาอะไรจะเอาดังใจ และถ้าประสูติออกมาเป็นพระราชธิดาไม่สมใจเขาจะเป็นอย่างไร

img_5160-704x1024

พอตกเย็นผู้คนก็มาคับคั่งกันอีก บริเวณเขาดินวนาผู้คนหนาแน่นดูราวกะวันอาทิตย์ เขามาทำไมกัน มาดูเพื่อให้ใกล้ที่สุดที่จะใกล้ได้ ในวังวิ่งวุ่นกันอีกพักหนึ่ง ตอนนี้คงใกล้ประสูติแน่ วิทยุกระจายเสียงป่าวข่าวอันน่าตื่นเต้นต่อไป และพอเวลาใกล้ประสูติเข้าจริงๆ คนที่รออยู่ก็เตรียมตัวเกือบไม่ทัน

สมเด็จพระนางเจ้าทรงประชวรถี่ขึ้นๆ เป็นระยะๆ ทุกๆ 5 นาทีที่ทุกดวงใจปรารถนา ในพระที่นั่งพวกข้าหลวงมหาดเล็กวิ่งกันอยู่สับสน ดูพอประทับยังพระที่ นายแพทย์ผู้ถวายการประสูติก็เข้าประจำที่ สักครู่ก็ประสูติพระราชกุมาร เวลา 17 นาฬิกา กับ 45 นาที ในนาทีเดียวกันนั้นเอง ฝนที่แล้งมาตลอดฤดูก็เริ่มโปรยละอองลงมาดูคล้ายๆ ฟ้าก็รู้เห็นเป็นใจกับการประสูติครั้งนี้

อารามดีใจสมประสงค์ของดวงใจทุกๆ ดวง นายแพทย์ที่ถวายการประสูติซึ่งพร้อมที่จะบอกกล่าวแก่ที่ประชุม ณ พระที่นั่งอัมพรสถานว่า “พระราชโอรส” หรือ “พระราชธิดา” กล่าวออกมาด้วยเสียงอันตื่นเต้นกังวานว่า “ผู้ชาย” แทนที่จะว่า “พระราชโอรส”

img_5137-667x1024

ฝนโปรยอยู่ตลอดเวลา แตรสังข์ดุริยางค์เริ่มประโคม ทหารบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี ปืนใหญ่ทั้งบกและเรือยิงกันอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น เสียงไชโยโห่ร้องก็ดังอยู่สนั่นหวั่นไหว สมใจประชาชนแล้ว เราอยากได้พระราชโอรส เราอยากได้สยามมกุฎราชกุมารเราก็ได้ดังใจนึกพระราชาในระบอบประชาธิปไตย พระราชาของประชาชน แม้แต่การประสูติของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็ต้องตามมติของมหาชน ดวงใจทุกๆ ดวงมีความสุข ดวงใจทุกๆ ดวงรวมกันอยู่ที่พระมหากษัตริย์ไทย ดวงใจทุกๆ ดวงพร้อมกันตั้งจิตอธิษฐาน ขอให้ทุกๆ พระองค์จงทรงพระเจริญ ขอให้สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอพระองค์น้อยจงทรงพระเกษมสำราญ

ข่าวการประสูติ ได้แพร่ไปทั่วประเทศและทั่วโลก ความปลื้มปิติมีอยู่ทั่ว แม้ผู้กระจายข่าวโฆษณาของรัฐบาลก็ยินดีจนปรากฏความละล่ำละลักออกมาว่า วันประสูตินั้นเป็น “วันที่ 28 กรกฎาคม พุทธศักราช 2491″ แทนที่จะเป็น 2495”

ครั้นเมื่อทรงเจริญพระชนมายุได้ 1 เดือน กับ 18 วัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ประกอบพระราชพิธีสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ ในวันที่ 14 และวันที่ 15 สิงหาคม พุทธศักราช 2495 พระราชพิธีประกอบที่ห้องประชุมในพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต มีทั้งพิธีพราหมณ์ พิธีสงฆ์ และถวายแห่กล่อม ในพระราชพิธีนี้ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ได้ทรงมีพระลิขิตไปถวายพระพรไชยมงคล ในพระนามแห่งคณะสงฆ์ไทย เนื่องในอภิลักขิตสมัยมหามงคลสมโภชเดือนและขึ้นพระอู่ แด่สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าวชิราลงกรณด้วย

%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%a1%e0%b8%99%e0%b8%8a%e0%b8%b2%e0%b8%95%e0%b8%b4-%e0%b8%aa%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%a5-%e0%b8%a1-%e0%b8%a3-%e0%b8%a7-690x1024

ม.ร.ว. สุมนชาติ สวัสดิกุล (ภาพจากร้านหนังสือเก่านายขรรค์)