หมอมนูญ ชี้ ห้าง-ศูนย์การค้า เสี่ยงแพร่โควิด มากกว่าตลาดร้านริมทาง 10 เท่า

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC ถึงมาตรการในการควบคุมโควิด ซึ่งเปรียบเทียบระหว่าง ห้าง กับ ตลาด ว่า อะไรกันแน่ที่มีความเสี่ยงมากกว่ากัน โดยข้อความระบุว่า

นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์เฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ และประธานชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย

มาตรการควบคุมโรคโควิด-19 ด้วยการสั่งปิดสถานที่ต่างๆ ต้องคำนึงถึงความเสี่ยงในการติดเชื้อในสถานที่นั้นๆ ไม่ใช่สั่งปิดพร้อมกันหมด ตอนนี้เศรษฐกิจไทยบอบช้ำเกินกว่าจะเจอล็อกดาวน์รอบ 2 คนไทยสามารถทำกิจกรรมในที่กลางแจ้ง (outdoor) ได้ทุกฤดูกาล ต่างจากประเทศเมืองหนาว การห้ามลูกค้าเข้าไปซื้อของในสถานที่เปิด ไม่ได้ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ เช่น ตลาดสด ตลาดนัด ซื้อของจากร้านหาบเร่ แผงลอยข้างถนน ห้ามนั่งรับประทานอาหารในที่โล่ง นอกอาคาร นอกบ้านหลัง 3 ทุ่ม ส่งผลกระทบต่อผู้มีอาชีพขายอาหาร คนหาเช้ากินค่ำ ลูกจ้าง คนทำงานต้องตกงาน เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

ขณะที่ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ ร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งเป็นสถานที่ปิด (indoor) ติดตั้งเครื่องปรับอากาศ อากาศถ่ายเทไม่ดี มีความเสี่ยงในการแพร่กระจาย การติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากกว่าในที่กลางแจ้ง 10 เท่า กลับให้เปิดทำการได้ตามเวลาปกติ

เราสามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในตลาดสด ตลาดนัด ด้วยการปรับปรุงโครงสร้างสถานที่ให้มีการถ่ายเทระบายอากาศมากขึ้น เปิดหลังคาบางจุด เว้นระยะห่างของแม่ค้าแต่ละซุ้ม ทำทางเดินให้กว้างขึ้น ไม่ให้แออัดมากเกินไป คนขายของและลูกค้าทุกคนต้องใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา รัฐควรผ่อนผันให้สถานที่นอกอาคาร ในที่กลางแจ้ง เปิดบริการเหมือนปกติ เพื่อให้คนได้ทำงาน มีรายได้เลี้ยงตัวเองและครอบครัว

ข้อมูลและรูปภาพ จาก เฟซบุ๊ก หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC