รับกระแสหน้าหนาว ธุรกิจหมวกไหมพรมแฟนซีถักมือ ทำเงินสะพัด ส่งขายไกลถึงเมืองนอก

ข่าวโดย มติชนออนไลน์ 

ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้สภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง มีอุณหภูมิลดต่อเนื่องอย่างรวดเร็ว โดยตรวจวัดล่าสุดมีอุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุด ปี่ประมาณ 14 -15 องศาเซลเซียส  ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของชาวบ้านในพื้นที่ ประสบปัญหาภัยหนาว โดยเฉพาะชาวบ้านที่อยู่ติดกับเทือกเขา รวมถึงริมแม่น้ำโขง ตรงกันข้ามบรรดาผู้ประกอบการต่างพากันพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ในการสร้างรายได้จากการจำหน่ายเครื่องนุ่งห่มกันหนาวอย่างครอบครัวของ  คุณป้า ทวีพร  โกพลรัตน์ อายุ 54 ปี ชาวบ้านชาว อ.เรณูนคร จ.นครพนม  เดิมยึดอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้านถักหมวกไหมพรมขายมาแต่อดีต  จนกระทั่งได้ออกแนวคิด พร้อมกับลูกสาว คือ นางสาวสาวิณี  โกพลรัตน์  อายุ 31 ปี  ในการต่อยอดพัฒนาอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้านถักหมวกไหมพรม สร้างรายได้

โดยได้มีการทำการตลาดพัฒนาฝีมือจากการถักหมวกไหมพรม ในรูปแบบที่มีขายตามท้องตลาดทั่วไป ออกมาเป็น หมวกไหมพรมกันหนาว ที่มีลวดลาย สีสัน แฟนซี เป็นตัวการ์ตูนต่างๆ  จำนวนมากกว่า 50 รูปแบบ  รวมไปถึงได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ มีรองเท้าเด็ก เสื้อผ้ากันหนาวเด็ก ผ้าพันคอ  หรือตามลูกค้าสั่ง เพื่อเป็นการดึงดูด สร้างความสนใจให้กับลูกค้า ทุกเพศทุกวัย  หันมาเลือกซื้อไปสวมใส่ ไม่เพียงจะได้รับความอบอุ่น ยังได้มีความสวยงาม  เป็นที่ต้องการของลูกค้า ซื้อไปสวมใส่ ในช่วงสภาพอากาศหนาวเย็น เพราะไม่เพียงมีความสวยงาม ยังมีราคาไม่แพง มีราคาตั้งแต่ใบละ 50 -150 บาท ตามขนาดและลวดลายสีสัน  กลายเป็นอาชีพภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่สร้างรายได้เป็นอย่างดีช่วงหน้าหนาว นอกจากนี้ยังได้มีการต่อยอดในการสร้างอาชีพให้กับชาวบ้าน เพื่อเพิ่มฐานการผลิต ด้วยการนำไปส่งเสริมฝึกอาชีพให้ชาวบ้านในพื้นที่ สร้างรายได้เสริมจากการถักหมวกไหมพรม นำมาส่งขายได้ค่าแรงงานใบละ 20 -30 บาท โดยไม่ต้องลงทุน เพราะมีการลงทุนนำวัตถุดิบไปให้ถัก บางรายขยันสามารถสร้างรายได้ วันละ 400 -500 บาท

201611301559041-20111216140823-768x511

นางสาวสาวิณี กล่าวถึงที่มาว่า  เดิมทีเป็นอาชีพทำในครอบครัว เนื่องจากคุณแม่มีความชอบถักหมวกไหมพรม เริ่มจากทำใช้ในครอบครัว และมองว่าน่าจะทำขายได้เพราะเป็นงานฝีมือจากภูมิปัญญาชาวบ้าน จนมีการถักมาขายหน้าร้าน เพราะบ้านขายของชำ จากนั้นพอขายได้ จึงเริ่มพัฒนามีการออกแบบ ถักในรูปแบบต่างๆ ให้หลากหลายมากขึ้น ทั้งหมวก ผ้าพันคอ เสื้อเด็ก  เริ่มจากฝึกฝนทำกันในครอบครัว และญาติใกล้ชิด จนกระทั่งมีตลาดรองรับมากขึ้น มีคนมาสั่งซื้อไปขายในช่วงหน้าหนาว จึงออกแนวคิดกับคุณแม่ในการพัฒนาต่อยอดให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายและมาตรฐานมากขึ้น จนกลายเป็นธุรกิจครอบครัวในชื่อ ร้านทรัพย์ทวีพูน เพราะที่บ้านค้าขายทั่วไปอยู่แล้ว จึงได้มีการสั่งวัตถุดิบไหมพรม มาผลิตถักหมวกไหมพรมจริงจังในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา  โดยสร้างฐานการผลิตกด้วยการส่งเสริมอาชีพให้กับชาวบ้านใกล้เคียง ที่ไม่มีอาชีพ  ก่อนเข้าไปฝึกสอนถักหมวกไหมพรม เพราะฝึกไม่ยาก จนเกิดความชำนาญ และมีการพัฒนาฝีมือมาต่อเนื่อง ซึ่งชาวบ้านมีแค่ฝีมือไม่ต้องลงทุน ทางร้านจะเอาพรมไปให้ พอเสร็จจะนำมาส่งให้คิดค่าแรงเป็นชิ้นแล้วแต่ความยากง่าย ใบละ 20 -30 บาท บางรายขยันได้วันละ 400 -500 บาท กลายเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ในชุมชนด้วย

 

นางสาวสาวิณีกล่าวอีกว่า ปัจจุบันยอมรับว่าการตลาดตอบรับดี ยิ่งช่วงไหนหนาวมีออเดอร์สั่งซื้อทั่วประเทศ มีทั้งขายส่งและขายย่อย  โดยได้มีการพัฒนาฝีมือจากต้นแบบภูมิปัญญาชาวบ้าน เป็นหมวกถักไหมพรมแบบเรียบง่าย สีล้วนที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไป พัฒนาให้มีการออกแบบลวดลาย ออกมาให้หลากลายรูปแบบมากขึ้น เน้นสีสัน ความสวยงาม รวมถึงการออกแบบเป็นตัวการ์ตูน ต่างๆ  กำลังได้รับความนิยม เพราะนอกจากจะสร้างความอบอุ่นแล้ว ยังมีความสวยงาม ยิ่งเด็ก เยาวชน วัยรุ่น ชอบนำไปสวมใส่หน้าหนาว อีกทั้งราคาไม่แพงใบละ ประมาณ 50 – 150 บาท แล้วแต่รูปแบบสีสันความสวยงาม ที่สำคัญยังเป็นงานฝีมือ ที่เน้นการถักด้วยมือเท่านั้น หรือสามารถสั่งถักในรูปแบบต่างๆ ได้ตามความชอบ  ถือเป็นงานฝีมือที่กลายเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เป็นอย่างดี รวมถึงสร้างงานให้กับชาวบ้านมีรายได้เสริมด้วย ส่วนต้นทุนถือว่าไม่สูงได้กำไรดี ประมาณชิ้นละ 30 – 40 เปอร์เซ็นต์ และยังสามารถเก็บไว้ขายข้ามปีได้ หากใครสนใจซื้อ หรือต้องการเยี่ยมชมศึกษา นำไปสร้างอาชีพเสริม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ โทรศัพท์ 089-569-4843 หรือทาง www.facebook.com/suptaweepoon และ ID Line : sawinee-fon

 

ที่มา มติชนออนไลน์