ของขวัญปีใหม่จากลุงตู่ เราเที่ยวด้วยกัน เปิดเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์

ของขวัญปีใหม่จากลุงตู่ เราเที่ยวด้วยกัน เปิดเพิ่มอีก 1 ล้านสิทธิ์

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ประชาชนที่ทำการจองห้องพักผ่านโครงการ เราเที่ยวด้วยกัน ก่อนช่วงปีใหม่ เกิดความกังวลใจในการเดินทาง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ได้รับทราบปัญหาและได้เข้าหารือกับทางสมาคมโรงแรม มีความเห็นว่า เปิดให้เลื่อนการเดินทางได้ 6-12 เดือนได้

 ประชาชาติธุรกิจ รายงานข่าว พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง เห็นชอบเพิ่มจำนวนการลงทะเบียน โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน อีก 1 ล้านสิทธิ์ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ประชาชน และจะเปิดให้ลงทะเบียนรอบใหม่ ในวันที่ 28 ธันวาคม 2563 ซึ่งเลื่อนเวลามาจากวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา

โดยขั้นตอนการสมัครเข้าร่วมโครงการ สำหรับประชาชน มีดังนี้

  1. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่านเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
  2. รอรับ SMS แจ้งผลการลงทะเบียนสำเร็จ
  3. ดาวน์โหลด + ติดตั้ง และยืนยันตัวตนบนแอพพลิเคชั่น “เป๋าตัง” ซึ่งเป็นแอพหลักในการใช้จ่าย
  4. จองห้องพักกับโรงแรม พร้อมชำระเงินส่วนประชาชน (ร้อยละ 60) ผ่านเว็บไซต์ของโรงแรมหรือโทรสำรองห้องพักกับเจ้าหน้าที่โรงแรม หรือ Online Travel Agency (OTA) ที่เข้าร่วมโครงการ
  5. ได้รับ voucher สำหรับ check-in โรงแรม
  6. จองตั๋วเครื่องบินตามช่องทางปกติ และชำระเงินเต็มจำนวน (กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน)
  7. Check-in เข้าพักตามวันที่กำหนด (ในระหว่างการเข้าพักจะได้รับคูปองอาหาร/ท่องเที่ยวเป็นรายวันสำหรับใช้จ่ายในร้านอาหาร/สถานที่ท่องเที่ยวที่ร่วมโครงการ)
  8. Check-out ออกจากที่พัก
  9. เข้าเว็บไซต์ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com เพื่อกรอกข้อมูลสำหรับใช้สิทธิ์ค่าตั๋วเครื่องบิน (กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน)
  10. ได้รับเงินคืนค่าตั๋วเครื่องบินตามเงื่อนไข (กรณีเดินทางโดยเครื่องบิน ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ และปฏิบัติตามเงื่อนไขของโครงการ)

*กรณีเดินทางโดยเครื่องบินซึ่งจะลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ เมื่อ check out แล้ว เท่านั้น

ขั้นตอนการลงทะเบียนและรับสิทธิ์

  1. ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com
  2. อ่านและกดยอมรับเงื่อนไขการเข้าร่วมโครงการ

เงื่อนไขการลงทะเบียนสำหรับประชาชน

  1. มีบัตรประจำตัวประชาชนและเป็นบุคคลสัญชาติไทย
  2. อายุตั้งแต่ 18 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน
  3. กรอกข้อมูล และยืนยันรหัส OTP ที่ได้รับ
  4. รอ SMS แจ้งผลการลงทะเบียน (ภายใน 3 วัน) หลังจากยืนยันการลงทะเบียน
  5. ดาวน์โหลด ติดตั้ง และยืนยันตัวตนบน App เป๋าตัง (สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยมี G-Wallet) เพื่อเตรียมการใช้จ่ายสำหรับโครงการ

เงื่อนไขอัพเดตล่าสุด เราเที่ยวด้วยกัน

  1. ปรับปรุงขอบเขตการใช้สิทธิ์จำนวนการจองห้องพักจากเดิมประชาชนจองที่พักได้ไม่เกิน 10 คืน (Room night) ต่อ 1 สิทธิ์ เพิ่มเป็น 15 คืนต่อ 1 สิทธิ์
  2. ขยายช่วงเวลาการจองที่พัก จากเวลา 06.00 – 21.00 น. เป็นเวลา 06.00 – 24.00 น.
  3. เพิ่มจำนวนห้องพักในโครงการจากเดิม 5 ล้านคืน เป็น 6 ล้านคืน (จำนวนห้องที่เพิ่มมาจะสนับสนุนเฉพาะ E-voucher แต่ไม่อุดหนุนเรื่องค่าที่พัก)
  4. ขยายระยะเวลาการใช้สิทธิ์โครงการถึง 30 เมษายน 2564
  5. เพิ่มโรงแรมที่ไม่มีใบอนุญาต แต่มีหมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีและมีการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้สามารถเข้าร่วมโครงการได้
  6. อนุมัติให้ธุรกิจและบริการที่เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว สามารถใช้ระบบคูปองออนไลน์ (E-Voucher) ได้ ประกอบด้วย ธุรกิจการขนส่งภาคท่องเที่ยว ธุรกิจสปาหรือนวดเพื่อสุขภาพ
  7. ปรับปรุงเกณฑ์สนับสนุนค่าบัตรโดยสารเครื่องบินจากเดิมรัฐสนับสนุนร้อยละ 40 แต่สูงสุดไม่เกิน 2,000 บาทต่อ 1 สิทธิ์ เป็นสูงสุดไม่เกิน 3,000 บาทต่อ 1 สิทธิ์ เฉพาะการเดินทางไปท่องเที่ยวในจังหวัดที่ภาคท่องเที่ยวพึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติสูง ประกอบด้วย ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี สงขลา เชียงใหม่ และเชียงราย
  8. กำหนดหลักเกณฑ์การลาสำหรับข้าราชการ พนักงาน ลูกจ้าง และพนักงานรัฐวิสาหกิจ สามารถลาพักร้อนในวันธรรมดาเพิ่มได้ 2 วัน โดยไม่ถือเป็นวันลาเมื่อใช้สิทธิ์ในโครงการเราเที่ยวด้วยกัน

เงื่อนไขสำหรับโรงแรม เราเที่ยวด้วยกัน

กลุ่มที่ 1 ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม

กลุ่มที่ 2 ยังไม่ได้รับใบอนุญาตประกอบธุรกิจโรงแรม แต่ได้รับการผ่อนผันตามประกาศหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ตามมาตรา 44 ซึ่งมีผลผ่อนผันถึงวันที่ 18 สิงหาคม 2564 สามารถเข้าร่วมโครงการได้

กลุ่มที่ 3 อนุมัติในหลักการ แต่ต้องหารือรายละเอียดกับกระทรวงการคลังต่อไป คือ โรงแรมที่จดทะเบียนถูกต้องตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และอยู่ในระบบฐานภาษีของกรมสรรพากร โดยเฉพาะจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มถูกต้อง จะได้รับพิจารณาเข้าร่วมโครงการได้ แต่ต้องรอหารือกับกระทรวงการคลังเพื่อกำหนดหลักเกณฑ์รายละเอียดต่อไป