เผยแพร่ |
---|
ชีวิตหลังล็อกดาวน์ แรงงานพม่า อยู่กันแออัด ถูกตีตรา เป็นผู้นำเชื้อเข้าประเทศ
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกใหม่ ซึ่งมีจุดเริ่มต้นมาจาก ตลาดกุ้ง จ.สมุทรสาคร ทำให้มีการล็อกดาวน์พื้นที่บริเวณชุมชนดังกล่าว ซึ่งมีแรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่จำนวนมาก
โดย คุณสมพงค์ สระแก้ว ผอ.มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ได้โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า จากสถานการณ์ มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ทำให้มีการล็อกดาวน์ในพื้นที่บริเวณชุมชนตลาดกลางกุ้ง มหาชัย ซึ่งมีพี่น้องแรงงานพักอาศัยและทำงานอยู่ 2,000-3,000 กว่าคน ได้ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของแรงงานต่างด้าว ประเด็นเร่งด่วนที่จะทำให้ผู้ที่ถูกกักตัว สามารถพักอาศัยและดำรงชีวิตอย่างต่อเนื่องเป็นปกติได้ คือ เรื่องอาหาร ปัจจัย 4 และสิ่งจำเป็นทั้งหลายทั้งผู้ชายผู้หญิงและเด็ก จึงมีความจำเป็นที่จะต้องระดมทรัพยากร งบประมาณ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯ เท่าที่มี เพื่อทำถุงยังชีพ ที่ตอบสนองกับวิถีชีวิต และวัฒนธรรมการบริโภคของแรงงานต่างด้าว

ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง ผอ.มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) เผยว่า ตัวเลขจริงๆ ของแรงงานต่างด้าวที่อาศัยอยู่ในชุมชนตลาดกุ้งมีราวๆ 4,000 คน และมีจำนวนหนึ่งเป็นผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการพักอาศัยอยู่ด้วย เพราะใช้โมเดลเดียวกับสิงคโปร์ คือ อยู่รวมกันไปก่อน ร่างกายยังแข็งแรงไม่แสดงอาการ ถ้าป่วยค่อยแยกออกมา ในจำนวนแรงงานต่างด้าวประมาณ 4,000 คน เป็นวัยของคนทำงานอายุ 18-40 ปี ประมาณ 3,000 กว่าคน ผู้สูงอายุ 50 ปีขึ้นไป เกือบ 100 คน และมีเด็กแรกเกิด เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี มากกว่า 100 คน นอกจากนั้น ยังมีแม่ตั้งครรภ์ไม่ต่ำกว่า 20 คน
“หอพักที่แรงงานต่างด้าวอาศัยอยู่ เป็นของเอกชนเปิดให้เช่าในราคาเดือนละ 1,500-3,000 บาท บวกค่าน้ำค่าไฟรวมๆ แล้วเดือนละ 3,000-4,000 บาท ส่วนใหญ่อยู่กันเป็นครอบครัว 3-4 คน บางส่วนประหยัดค่าใช้จ่ายจึงพักรวมกันในเครือญาติห้องละ 5-6 คน ทำให้ห้องแออัด ต้องออกมาสร้างเพิงกางมุ้งอยู่ด้านหน้าห้องตรงทางเดิน เขาอยู่แบบนี้กันมานานแล้ว สภาพแวดล้อม และระบบสาธารณสุขไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีทั้งขยะ และน้ำเสียรอบชุมชนซึ่งมาจากการชะล้างกุ้งในตลาด กลิ่นไม่ต้องพูดถึง เวลานอนก็ไม่มีอากาศถ่ายเท บางทีจุดไฟกันยุงควันก็ลอยอยู่ในห้อง และใช้วิธีการเดินหรือปั่นจักรยานไปทำงาน”

คุณสมพงค์ เผยว่า หลังจากล็อกดาวน์ ความแออัดยังเหมือนเดิม เท่าที่ถามแรงงาน ยังเดินไปพูดคุยกับเพื่อนข้างห้องปกติ แต่อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด อาหารการกินยังมีอยู่ ไม่อัตคัดมาก แต่เป็นห่วงเรื่องอาหารเสริมของเด็ก ของจำเป็นสำหรับผู้หญิง เช่น ผ้าอนามัย ฯลฯ ยาสามัญประจำบ้าน รวมถึงอุปกรณ์ป้องกัน หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์เจล
“ขณะนี้มีภาคธุรกิจ เจ้าของแพกุ้งที่มีลูกน้องอยู่ข้างในช่วยดูแล ส่งของมาให้ และมูลนิธิต่างๆ ก็หาข้าวสารอาหารแห้งให้ แต่ที่ผมเปิดระดมทรัพยากร เพราะหากเกิดอะไรขึ้นมาแล้วจะไม่ทัน กันไว้ก่อนดีกว่า และต้องหาของที่เหมาะกับวิถีชีวิตการกินของเขาด้วย เช่น ปลาแห้ง ถั่ว น้ำมันพืช กะปิ พริกแห้ง ฯลฯ อีกบทบาทหน้าที่ของมูลนิธิเราคือ เข้าไปช่วยเรื่องการคัดกรอง เป็นล่าม และจะวางแผนเข้าไปช่วยเหลือเรื่องปัจจัย 4 เพิ่มเติม”

“แรงงานต่างด้าวถูกตีตราว่าเป็นผู้นำเชื้อเข้ามา ยิ่งตรวจแล้วเจอยิ่งตอกย้ำ แต่จริงๆ แล้วเชื้อไม่เลือกใคร เพราะในตลาดกุ้งไม่ได้มีเฉพาะแรงงานต่างด้าว ยังมีคนไทยที่ทำงานอยู่ด้วย ทั้งคนขับรถบรรทุก คนส่งของ คนซื้อของ ซึ่งมาจากต่างจังหวัด มาซื้อบ่อยๆ มีหลายทางมาก ต้องให้ความเป็นธรรมกับพวกเขาด้วย” คุณสมพงค์ เผย
ภาพจาก คุณสมพงค์ สระแก้ว ผอ.มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN)