เปิด 2 เรื่องที่ SMEs ต้องรู้ ก่อนปักหมุด ขายสินค้าในจีน

interior of a storage warehouse with shelves full of goods and forklifts in action. 3d image render.

เปิด 2 เรื่องที่ SMEs ต้องรู้ ก่อนปักหมุด ขายสินค้าในจีน

จีนนับเป็นประเทศที่เจ้าของกิจการต่างๆ ทั้งสินค้าและบริการทั่วโลก เล็งเห็นถึงอานุภาพกำลังซื้อที่มีอยู่มากมายมหาศาล จึงมีนักธุรกิจและผู้ประกอบการไม่น้อย ที่สนใจอยากนำสินค้าและบริการของตนเข้าไปตีตลาดกวาดรายได้

แต่ก็ใช่ว่าคนที่ไปบุกตลาดจีนแล้ว จะประสบความสำเร็จกันทุกคน ซึ่งปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ SMEs ไทย ตีตลาดจีนไม่ได้ คือสินค้าหรือบริการนั้นๆ ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักหรือยังไม่มีประสบการณ์ในการทำการตลาดในจีนนั่นเอง

ทั้งนี้ เว็บไซต์ ธนาคารกสิกร ได้เผยแพร่ข้อมูลน่าสนใจ หาก SMEs ไทยสนใจนำสินค้าหรือบริการเข้าไปจำหน่ายในจีน ควรเริ่มต้นจาก 2 ข้อนี้

1) การหาพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายในจีน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกต่อการเข้าสู่ตลาด การชำระเงิน การจัดส่งสินค้า รวมถึงการให้บริการหลังการขาย โดยสามารถทำได้ด้วยการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในจีน ซึ่งในกรณีนี้ SMEs ไทยควรจะมีความชำนาญด้านภาษาจีนแมนดารินดีในระดับหนึ่ง หรือติดต่อกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ (www.ditp.go.th)

โดยคุณสมบัติของพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายในจีนควรจะมีความชำนาญหรือประสบการณ์ในตลาด อุตสาหกรรม หรือแม้แต่ตัวสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ SMEs ไทยต้องการนำไปจำหน่ายและควรสอบถามให้แน่ชัดว่า ไม่ได้เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกันหรือสามารถทดแทนกันได้อยู่ก่อนแล้ว รวมถึงมีความสัมพันธ์ (Guanxi) ทางธุรกิจกับผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ในจีนที่แนบแน่น และมีเครือข่ายกระจายสินค้าในเมืองหรือมณฑลที่ SMEs ไทยต้องการเจาะตลาด

2) เริ่มกระบวนการทางด้านเอกสาร ที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกสินค้าหรือการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในจีนกับทางตัวแทนจำหน่าย อาทิ กระบวนการจดทะเบียน CFDA (China Food and Drug Administration) (หรือ อย. ของจีน) ในกรณีที่เป็นสินค้าประเภทเครื่องสำอาง สุดท้ายนี้ ยังคงย้ำเตือนให้ผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่มีตราสินค้าเป็นของตนเองต้องทำการจดทะเบียนตราสินค้า (Trademark)