ฟังอีกมุม ร้านอาหาร ไม่เข้าร่วมคนละครึ่ง ชี้กลัวกระทบการบริการ

ฟังอีกมุม ร้านอาหาร ไม่เข้าร่วมคนละครึ่ง ชี้กลัวกระทบการบริการ
ฟังอีกมุม ร้านอาหาร ไม่เข้าร่วมคนละครึ่ง ชี้กลัวกระทบการบริการ

ฟังอีกมุม ร้านอาหาร ไม่เข้าร่วมคนละครึ่ง ชี้กลัวกระทบการบริการ

จากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ โครงการคนละครึ่ง โดยล่าสุด รัฐบาล ได้ไฟเขียวขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 2 ซึ่งจะเปิดให้ลงทะเบียนในวันที่ 16 ธันวาคม 2563 

ผู้สื่อข่าว สอบถามไปยัง ร้านค้าที่ไม่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เจ้าของร้านอาหารแห่งหนึ่ง เผยว่า แรกเริ่มมีธนาคารเข้ามาติดต่อที่ร้าน แจ้งเรื่องโครงการ อย่างแรกให้ร้านไปเปิดบัญชีกรุงไทย แต่ยังหาเวลาไม่ได้ ด้วยระยะเวลาที่ผ่านไป บวกกับการศึกษาเพิ่มเติม เห็นว่า ร้านอาหารที่เข้าร่วมจริงๆ เป็นร้านอาหารตามตลาดนัด เป็นอาหารทานเล่นเสียส่วนใหญ่ เช่น ลูกชิ้นปิ้ง น้ำดื่ม ฯลฯ กับร้านอาหารราคาสูง ที่นานๆ กินที แต่อาหารจานหลัก เช่น หมู ไก่ เนื้อ ผัก มักไม่เข้าร่วม

อ่านเพิ่มเติม คนละครึ่งเฟส 2 เพิ่มปุ่มในแอพฯ เป๋าตัง ให้เฟสแรกกดยืนยันก่อน 

“เราเข้าใจนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐ ให้คนฐานรากใช้จ่ายมากขึ้น แต่กลุ่มลูกค้าที่ใช้โครงการนี้จริงๆ กลับกลายเป็นพนักงานออฟฟิศ หรือกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อ คนระดับกลางที่มีอาชีพ มีเงินเดือน”

ส่วนของร้าน เจ้าของร้านอาหารบอกว่า สาเหตุที่ไม่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เพราะ 1. กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาในร้าน 100 คน มีไม่ถึง 10 คนที่ถามหาคนละครึ่ง 2. กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่วันจันทร์- ศุกร์ 80% คือ พนักงาน ซึ่งขายดีช่วงเที่ยง ส่วน 20% คือ ขาจร และวันเสาร์-อาทิตย์ มีลูกค้าหลากหลายกลุ่ม ขายดีช่วงเช้า และบ่าย

“ช่วงเที่ยง เป็นเวลาที่เราต้องเก็บลูกค้าให้ได้มากที่สุด กลุ่มออฟฟิศมีเวลาแค่หนึ่งชั่วโมง ลูกค้าจะเข้ามาพร้อมกันทีเดียว ซึ่งร้านสามารถรองรับลูกค้าได้ประมาณ 60-70 คน ขายอาหารฮาลาล เช่น ข้าวหมกไก่ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ซุปเนื้อ ฯลฯ เป็นอาหารที่ลูกค้าตั้งใจแวะมาทาน เพราะเป็นอาหารเฉพาะ น้อยมากที่จะถามหาคนละครึ่ง คนละครึ่งจึงไม่จำเป็นสำหรับลูกค้าของเรา”

เจ้าของร้านอาหาร เผยต่อว่า สิ่งที่กระทบกับยอดขายไม่ใช่เพราะ ไม่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง แต่เกิดจากพฤติกรรมของลูกค้าที่ทานอาหารน้อยลง จากปกติทานข้าวหมกไก่ คู่กับซุปเนื้อ โรตี ตอนนี้เหลือแค่ข้าวคนละจาน 

“คิดเหมือนกันว่าถ้าร่วมโครงการ ยอดขายอาจจะดีกว่านี้ แต่ก็คิดว่า ไม่เหมาะกับร้านเราจริงๆ เพราะ 1. ลูกค้าออฟฟิศ มีเวลาจำกัดในการทานอาหาร เราต้องเก็บโต๊ะให้เร็วที่สุดเพื่อรับลูกค้าชุดที่สอง ซึ่งลูกค้ามองแล้วว่า มาร้านเราต้องได้อาหารเร็ว ทันเวลาเข้างาน 2. กลัวว่าเข้าคนละครึ่งแล้ว อาหารไม่เพียงพอสำหรับลูกค้า ทำให้ลูกค้าเสียความรู้สึก 3. ช่วงเที่ยงลูกค้าจะเข้าพร้อมกัน จึงกลัวว่าจะกระทบกับลูกค้าที่ไม่ใช้สิทธิ เพราะต้องมายืนรอสแกนจ่ายเงินลูกค้าที่ใช้สิทธิ ซึ่งเราไม่อยากให้กระทบการบริการ” เจ้าของร้านอาหาร สรุป