ผู้ประกอบการรู้ไว้ 5 ช่องทางขายของออนไลน์ หากเลือกใช้เป็น ยอดขายปังแน่

Bangkok, Thailand - September 4, 2017 : woman using iPhone of show display app Social media screen. The phone is a daily necessity.

ผู้ประกอบการรู้ไว้ 5 ช่องทางขายของออนไลน์ หากเลือกใช้เป็น ยอดขายปังแน่

ปัจจุบัน เทคนิคการใช้คอนเทนต์ เพื่อเป็นเครื่องมือในการทำการตลาดออนไลน์ ถือเป็นสิ่งที่ทรงพลังและมักใช้ในการสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สามารถตอบโจทย์ ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ และอาจนำไปสู่การขายได้ด้วย

แพลตฟอร์มออนไลน์ที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย อย่าง Twitter, Facebook, Instagram, Youtube และ Search Engine ถือเป็นช่องทางการขายของออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการควรศึกษาข้อมูลและสามารถนำไปปรับใช้กับการขายได้ โดย เว็บไซต์ ธนาคารกรุงเทพ ได้เผยแพร่ Trend Content Marketing บนแพลตฟอร์มทั้ง 5 ที่มีประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการยุคใหม่ ไว้ดังนี้

  1. Twitter จะกลายเป็นแหล่งข่าวสำคัญ

ในปี 2020 ประเทศไทยมีผู้ใช้งาน Twitter (ทวิตเตอร์) ทั้งหมด 6,545,000 บัญชี มากเป็นอันดับที่ 15 ของโลก จึงเหมาะที่จะใช้เป็นแพลตฟอร์มในการกระจายข่าวสารสำคัญแบบอิงกระแส ทั้งระดับโลกและประเทศ ทั้งการเงิน กีฬา ภาพยนตร์ เกม ฯลฯ

ซึ่งการใช้งานที่เหมาะสมของทวิตเตอร์คือ การทวีต (โพสต์) ข้อความความยาวไม่เกิน 280 คำ แต่การเขียนข้อความที่ความยาวเท่าเดิมคือ 140 คำ จะทำให้คนเห็นข้อความได้มากกว่า ส่วนพื้นที่ที่เหลือ ให้ใส่แฮชแท็ก (#) ที่เกี่ยวข้องไว้แทน นอกจากนี้ ทวิตเตอร์ยังเป็นตัวช่วยทำ SEO ให้แบรนด์ได้ง่ายขึ้น เพราะมีการร่วมงานกันกับ Google จึงมีโอกาสที่บัญชีของเราจะติดอันดับต้นๆ ของการสืบค้นผ่าน Google Search และมีในส่วนของฟีเจอร์ Video และ Live เข้ามาทำให้สามารถสร้าง Content ที่หลากหลายมากขึ้น

  1. Facebook ออกลูกเล่นและฟีเจอร์ใหม่ๆ มาดึงดูดให้คนเข้าใช้งานใหม่ๆ เสมอ

ล่าสุดมีการปล่อยฟีเจอร์ อวตาร์ ออกมาเป็นสีสันที่สามารถใช้เป็นสติ๊กเกอร์หน้าอวตาร์ของตัวเองได้ด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้ใช้งาน นอจากนี้ ยังมีการผลักดันฟีเจอร์ช่วยโปรโมตโฆษณาใน Facebook Stories ที่ผู้ประกอบการ SMEs สามารถสร้างโฆษณาได้ด้วยตัวเองจาก Temple สวยๆ ที่ Facebook หมุนเปลี่ยนมาให้ใช้เรื่อยๆ ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือช่วยโปรโมตธุรกิจที่น่าจับตา

และสิ่งที่เป็นจุดแข็งบนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊กคือ การรับส่งข้อความใน Messenger โดยในอเมริกาพบว่า คนอเมริกันใช้ Messenger มากกว่า 1.3 ล้านบัญชีต่อเดือน มี 410 ล้านบัญชีใช้ VDO chat ใน Messenger มีการใช้ Messenger เป็นประจำกว่า 3 แสนบัญชี ในปี 2019 และเพิ่มจำนวนขึ้นทุกปี ทำให้การโฆษณาผ่าน Facebook Messenger มีโอกาสเข้าถึงผู้บริโภคแบบส่วนตัวได้มากขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับผู้บริโภคได้โดยตรง

จึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเป็นการส่งข้อความโฆษณาไปถึงผู้บริโภคที่สนใจในสินค้าและบริการของเราแบบเฉพาะบุคคล ทำให้มีโอกาสที่จะปิดการขายได้ง่ายหรือกระตุ้นให้ลูกค้ามีการชำระเงินผ่าน Messenger ได้ทันที จากระบบการชำระเงินที่มีอยู่ใน Facebook ในส่วนของ Content Facebook ตามเทรนด์ที่กำลังมา จึงเป็นเรื่องของการโฆษณาบน Facebook Story และ Messenger Direct

  1. Instagram หรือ IG อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมลำดับต้นๆ

โดยเฉพาะในส่วนของ Video, IG Stories และ IG TV ที่กำลังมาแรง กลยุทธ์ที่ควรใช้ในการทำ Content เพื่อขับเคลื่อนการตลาดบน IG คือ การทำโฆษณาในส่วนของ IG Stories การติดแฮชแท็กที่ให้ผู้คนเข้าถึงเนื้อหาที่จัดทำได้ง่ายขึ้น ตามหมวดหมู่ ความสนใจ โดยใช้แฮชแท็กยอดนิยมและที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา

การใส่แฮชแท็กแบรนด์ตัวเอง แล้วตามด้วยแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องกันกับโพสต์ และแฮชแท็กอิงกระแสหรือยอดนิยม สำหรับ IG TV ที่เป็นลูกเล่นการนำเสนอ Content VDO ในแบบที่จะโชว์ตัวอย่างบนฟีดและสตอรีความยาว 1 นาที แล้วตามด้วยเนื้อหาในส่วนที่เหลือหากลูกค้าสนใจและทำการกดดูต่อ จึงทำให้สามารถนำเสนอเนื้อหาได้ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ shoppable ของร้านค้าออนไลน์บน Instagram เข้ามาช่วยให้ผู้ซื้อจาก Instagram ไปยังจุดของการขายได้ในทันที โดยร้านค้าออนไลน์บน Instagram จะ Tag รายละเอียดสินค้าไว้ที่รูปภาพผ่านคำสั่งไอคอน TAP TO VIEW PRODUCTS ที่ผู้ใช้งานสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดของสินค้าได้ที่ปุ่มนี้ในคลิกเดียว

  1. Youtube เทรนด์การทำคอนเทนต์

ยอดนิยมยังคงเป็น Live Steaming Video ที่ยังคงดึงให้ผู้ชมหยุดสายตาและประสาทสัมผัสทั้งหมดไว้กับการรับชมได้ยาวนานกว่า Video ปกติถึง 8 เท่า และยังคงมีแนวโน้มในการรับชมมากขึ้นในอนาคต ด้วยการที่สามารถทำการโต้ตอบกับผู้ Live ได้โดยตรง

ทำให้เกิดปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวก ไปจนถึงสามารถโน้มน้าวดึงดูดคนเข้ามาใช้สินค้าหรือบริการได้อย่างแนบเนียน จากความรู้สึกผูกพันกับแบรนด์ และ Live Steaming ยังให้ความรู้สึกทันเหตุการณ์ สดใหม่ ในการรับชม และ Content VDO ที่ยังคงไปได้ต่อตลอดกาลบน Youtube ก็คือ คอนเทนต์วิดีโอแนวรีวิว How To รายละเอียดสินค้าและบริการ เพราะจากการสำรวจจาก Think with Google พบว่า 80% ของลูกค้าจะทำการค้นหาและรับชมวิดีโอเกี่ยวกับสินค้าและบริการที่สนใจบน Youtube ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยยังคงมี Influencer เป็นตัวชูโรงสำคัญ

  1. Search Engine ยังคงมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ

การผลักดันแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักที่ยังคงต้องให้ความสำคัญต่อการทำ SEO ให้กับสินค้าและแบรนด์ต่อไป เพราะ Search Engine ยังคงเป็นช่องทางที่ให้ผลลัพธ์ได้ดีไม่แพ้โซเชียลมีเดีย เพียงแต่ต้องอาศัยความสม่ำเสมอและใช้ระยะเวลายาวนานกว่าจะเห็นผลชัดเจน

โดยที่ถ้าทราบว่า มีรายการการค้นหาข้อมูลต่างๆ บน Google สูงถึง 63,000 รายการต่อวินาที หรือคิดเป็น 228 ล้านครั้งต่อชั่วโมง ซึ่งการ Search Engine ผ่าน google ยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ใช้ไม่เคยลดความนิยมลงแต่อย่างใด การทำธุรกิจหรือ Digital Marketing จึงไม่ควรมองข้ามเรื่องเว็บไซต์ของแบรนด์ที่เป็นเสมือนหน้าบ้านของตัวเอง

แหล่งอ้างอิง : https://stepstraining.co/