แจกเงินรอบ 2 หวือหวาแป๊บเดียว ผู้ประกอบการ วอน อยากให้ช่วยเหลือระยะยาวมากกว่า

หมู่บ้านมังกรสวรรค์ ตั้งอยู่ภายในอุทยานมังกรสวรรค์ (ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง) และพิพิธภัณฑ์ลูกหลานพันธุ์มังกร จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งหมู่บ้านเป็นการจำลอง “เมืองลีเจียง” ซึ่งเป็นเมืองเก่าแก่โบราณ ที่ตั้งอยู่ในสาธารณรัฐประชาชนจีน

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ มีโอกาสไปเยี่ยมเยือนสถานที่ดังกล่าว และได้พูดคุยกับเหล่าพ่อค้าแม่ขาย ที่เปิดร้านขายของอยู่ในหมู่บ้านมังกรสวรรค์แห่งนี้ โดยเจ้าของร้านขายบ๊ะจ่างและผลไม้รถเข็น วัย 51 ปี กล่าวว่า เธอค้าขายภายในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มาได้ 5 ปี ช่วงโควิด-19 ทำให้ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเดิน แม้ว่าจะมีการผ่อนคลายมาตรการและมีการเดินทางไปเที่ยวกันบ้างแล้ว แต่ก็ยังขายได้ไม่ดีนัก ถึงจะมีคณะทัวร์ นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่พิพิธภัณฑ์ แต่ก็ไม่ได้จับจ่ายซื้อของกันแต่อย่างใด

“ถ้าเสาร์-อาทิตย์คนก็จะมาเยอะหน่อย แต่วันธรรมดาคนก็มีมาเดินประปราย ส่วนมาก คนเขาจะมาเดินดูของเฉยๆ บางคันจะซื้อเราสักทีหนึ่ง แต่บางคันมาก็ไม่มีซื้อ ทุกวันนี้รายได้เฉลี่ยก็เท่าทุน แต่บางครั้งก็มีควักเนื้อนิดๆ หน่อยๆ เหมือนกัน ค่าเช่าที่นี่เมื่อก่อนเดือนละ 6 พัน แต่ช่วงนี้เจ้าของเขาก็ให้จ่ายครึ่งหนึ่ง ก็พอแบ่งเบาภาระไปได้ แต่เดือนนี้ก็ยังไม่รู้ว่าเขาจะมีมาตรการยังไงต่อ ป้าขายที่นี่มาตั้งแต่เปิดที่นี่ใหม่ๆ ปีนี้เป็นปีที่ขายแย่สุด ป้าเองไม่มีอาชีพอื่นเสริม ก็ได้แต่อดทนกันไป แล้วแจกเงินรอบ 2 มันก็เป็นแค่ช่วงระยะหนึ่ง พอหมดเขตวัน คนไม่มีกำลังซื้อเหมือนเดิม เป็นไปได้ก็อยากให้รัฐบาลช่วยแก้ไขเรื่องเศรษฐกิจให้มันดีขึ้น ประชาชนจะได้ลืมตาอ้าปากกันในระยะยาว”

ด้านเจ้าของร้านขายของฝาก วัย 55 ปี กล่าวว่า ตนขายของอยู่ที่ตรงนี้มาก่อนที่จะมีการสร้างหมู่บ้านมาได้ 6-7 ปีแล้ว ค้าขายอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่ตั้งแต่โควิด-19 มา ร้านเงียบมาก เรียกว่าเป็นปีที่ค้าขายแย่ที่สุด ทำรายได้ลดลงจากหน้ามือเป็นหลังมือ ขายได้จาก 10 เหลือ 1 ต่างกันราวฟ้ากับดิน เศรษฐกิจแย่ รายได้หายไป คนก็ไม่ค่อยมี ทางเจ้าของเองก็มีการช่วยเหลือ ลดค่าเช่าที่ให้ครึ่งหนึ่ง เพื่อแบ่งเบาภาระกันไป

ถามต่อว่าจะมีการแจกเงิน 3 พันบาท เป็นรอบที่ 2 ในฐานะผู้ประกอบการ ทางร้านมีความเห็นว่าอย่างไร เจ้าของร้านกล่าวว่า ไม่น่าจะช่วยเหลือเท่าไหร่ อย่างมากเป็นการช่วยเหลือแบบหวือหวาแค่ชั่วคราว แล้วกลับมาเหมือนเดิม ช่วยเหลือไม่ทั่วถึงทางร้านเองก็ปรับตัวหันไปขายออนไลน์เช่นกัน แต่รายได้ก็เข้ามาไม่เท่าไหร่

“นี่เพิ่งกลับมาเปิดเมื่อเดือนกรกฎาคม ดีที่ร้านเป็นร้านขายของที่ไม่ต้องสั่งของบ่อยๆ ถึงต้องสั่งก็ไม่สั่งเยอะ เพราะสั่งมาก็จม เพราะคนไม่ค่อยมีรายได้เหมือนเดิม เขาประหยัดขึ้น ไหนจะตกงานอีก กำลังซื้อมันน้อยลง ถ้าคนมันมีงานทำ รายได้มันดี มันก็มีเงินจับจ่ายใช้สอย ก็มองว่ามันเป็นการดีกว่า แต่ถ้าแจกเงินแบบนั้นมันก็แค่ชั่วครั้งชั่วคราว มันก็ดี แต่มันดีแป๊บเดียวแล้วก็กลับมาเหมือนเดิม ก็อยากให้ออกมาตรการช่วยเหลือระยะยาวมากกว่า”