ธอส. จัดหนัก ผุด สินเชื่อบ้าน ผ่อน 70 ปี ให้พ่อกู้จนเกษียณ แล้วลูกผ่อนต่อ

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.)

ธอส. จัดหนัก ผุด สินเชื่อบ้าน ผ่อน 70 ปี ให้พ่อกู้จนเกษียณ แล้วลูกผ่อนต่อ

เมื่อวันที่ 8 ก.ย. นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. เตรียมมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย “ทูเจน” (Two Gen’s) วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท เพื่อเสนอ รมว.คลังคนใหม่, ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และคณะกรรมการธนาคาร พิจารณาเห็นชอบ โดยคาดว่าจะเริ่มเปิดให้ยื่นคำขอสินเชื่อได้ภายในไตรมาส 4 ปีนี้

ในหลักการเบื้องต้น สินเชื่อทูเจน จะปล่อยกู้ ในอายุสัญญานานถึง 70 ปี ซึ่งเป็นครั้งแรก จากปกติ 30-40 ปี เพื่อเป็นการลดภาระเงินงวดให้กับลูกค้า โดยหากต้องการกู้ 1 ล้านบาท ต้องมีเงินเดือนสุทธิ 1 หมื่นบาท เงินงวดต่อเดือนคาดว่าอยู่ที่ 3-4 พันบาท เพดานการปล่อยกู้สูงสุดรายละ 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยคงที่ 3 ปีแรก อัตราต่ำสุดในตลาด โดยปัจจุบันของ ธอส. อยู่ 1.99 เปอร์เซ็นต์

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า สินเชื่อผ่อนชำระ 70 ปี จะต้องเป็นการกู้ร่วม โดยพิจารณารายได้จากผู้กู้หลักก่อน เช่น บิดา มารดา จากนั้น ผู้กู้ร่วมที่บรรลุนิติภาวะ เช่น บุตรที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี จะต้องเป็นผู้รับหน้าที่ผ่อนชำระ หลังผู้กู้หลักเกษียณ โดยแนวทางนี้ จะทำให้ผู้มีรายได้น้อย มีบ้านง่ายขึ้น

“มาตรการนี้เป็นทางเลือกให้มีบ้านได้ไวขึ้น แต่ต้องเข้าใจว่า ยิ่งผ่อนนาน ภาระดอกเบี้ยจ่ายเมื่อเทียบเงินต้นก็จะสูงตามไปด้วย แต่ถ้าลูกหนี้ มีศักยภาพ ก็สามารถปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อลดภาระดอกเบี้ย ปรับลดงวดผ่อนชำระลงได้ในอนาคต” นายฉัตรชัย กล่าว

นายฉัตรชัย กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อ ธอส.ปีนี้จะเป็นไปตามเป้าหมายเดิม 2.1 แสนล้านบาท แม้ว่าจะมีการขอปรับลดเหลือ 1.7 แสนล้านบาทก็ตาม เพราะทิศทางตลาดอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ ไม่ได้ชะลอตัวกว่าที่คาด สะท้อนจากการทำกำไรของกลุ่มบริษัทที่ยังดีอยู่ โดยคาดว่า ช่วงที่เหลือของปีนี้ จะปล่อยสินเชื่อใหม่ได้ ไม่ต่ำกว่า 1.8 หมื่นล้านบาทต่อเดือน โดยล่าสุด 8 เดือน ปล่อยได้แล้วรวม 1.35 แสนล้านบาท

ส่วนมาตรการพักชำระหนี้ ให้ลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 รวมกว่า 4 แสนล้านบาท ในส่วนของมาตรการที่ 5 ที่ขยายเวลาพักนี้ 9.8 หมื่นล้านบาท พบว่า มีลูกค้ากลับเข้ามาจ่ายเงินงวดตามปกติแล้ว 87 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลืออาจจะมีปัญหาการผ่อนชำระ ก็ได้สั่งให้เร่งติดตามดูแล โดยคาดว่าสิ้นปีนี้ หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) จะอยู่ที่ 4.8 เปอร์เซ็นต์