เว็บไซต์ มติชน ได้รายงานข่าว มากาเร็ต แฮร์ริส โฆษกขององค์การอนามัยโลก ออกมาระบุว่า การเปลี่ยนแปลงของฤดูกาลดูจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ กับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยได้ชี้ให้เห็นถึงสภาพอากาศของหลายประเทศที่มีการแพร่ระบาดหนัก แม้จะอยู่ในฤดูกาลที่แตกต่างกันก็ตาม

ในสหรัฐ ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนก็ยังมีติดเชื้อมากกว่า 4.4 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 1.5 แสนราย ขณะที่ประเทศบราซิล ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 87,737 ราย และผู้ติดเชื้อ 2.4 ล้านคน ซึ่งมากเป็นลำดับ 2 ของโลก ก็กำลังอยู่ในช่วงฤดูหนาว

โฆษกขององค์การอนามัยโลก กล่าวว่า ดูเหมือนผู้คนบางส่วนจะคิดว่าไวรัสโคโรนาจะระบาดตามฤดูกาล และโควิด-19 จะระบาดเป็นระลอก เพราะคนเข้าใจผิดและมองโควิด-19 ผ่านภาพการแพร่ระบาดของไข้หวัดซึ่งมาตามฤดูกาล แต่ดูเหมือนว่านั่นจะไม่ตรงกับข้อเท็จจริง

“สิ่งที่เราต้องตระหนักคือนี่คือไวรัสตัวใหม่ แม้มันจะเป็นไวรัสเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ และแม้ว่าไวรัสที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจในอดีตมักจะเกิดขึ้นเป็นระยะตามฤดูกาล แต่ไวรัสนี้มีพฤติกรรมที่ต่างออกไป” แฮร์ริส กล่าว

แฮร์ริส กล่าวด้วยว่า แทนที่เราจะคาดหวังว่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะมีพฤติกรรมเหมือนไวรัสที่เรามีความคุ้นเคยในอดีต ผู้คนควรจะให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ที่มีอยู่ในขณะนี้ว่าเราจะยุติการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้อย่างไร ซึ่งสิ่งที่มีประสิทธิภาพคือการรักษาระยะห่างทางสังคม การล้างมือบ่อยๆ และการใส่หน้ากากอนามัย ปิดปากขณะไอหรือจาม และอยู่ในบ้านเมื่อมีอาการป่วย ต้องกักบริเวณและไม่ติดต่อกับผู้คน เป็นต้น แต่ขณะนี้ดูเหมือนผู้คนจะยังไม่ค่อยทำเช่นนั้น

“ผู้คนคิดว่าโควิด-19 เป็นโรคที่มาตามฤดูกาล และเชื่อว่ามันจะไม่เป็นอันตรายในฤดูร้อน แต่ฤดูร้อนก็เป็นปัญหา เพราะไวรัสนี้ชอบทุกฤดู สิ่งที่เกิดขึ้นคือมันจะกระโดดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนหนึ่ง เมื่อเรามีการสัมผัสใกล้ชิดกัน” แฮร์ริส กล่าว