ต้นตำรับชาววังกว่า 121 ปี! “มัสมั่นไก่ฟรุตตี้” สู่อาหารสำเร็จรูปพร้อมเสิร์ฟ

ต้นตำรับชาววังกว่า 121 ปี! “มัสมั่นไก่ฟรุตตี้” สู่อาหารสำเร็จรูปพร้อมเสิร์ฟ

“แกงมัสมั่น” ถือเป็นอีกอาหารไทยขึ้นชื่อ เพราะได้รับคัดเลือกเป็นอันดับ 1 จากการจัด 50 อันดับอาหารอร่อยที่สุดในโลก ประจำปี 2018 โดย CNN ด้วยเอกลักษณ์ของเครื่องแกงที่หอมอบอวลไปด้วยเครื่องเทศนานาชนิด ส่งกลิ่นหอมหวนรัญจวนใจ เป็นเสน่ห์ชวนดึงดูดให้ตักข้าวสวยร้อน ๆ มารับประทานคู่กันเป็นอย่างมาก

แต่วันนี้เมนูแกงมัสมั่น กำลังเดินทางไกลไปเสิร์ฟความอร่อยให้คนทั่วโลก ด้วยฝีมือ เชฟอุทัย ที่ยกระดับแปรรูปบรรจุลงกระป๋อง ช่วยยืดอายุการเก็บรักษา ในขณะที่คงรสชาติยอดเยี่ยมเช่นเดิม

คุณอุทัย ตันตระกูล หรือเชฟอุทัย เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร และแกงมัสมั่นกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “Chef Uthai” เล่าว่าถึงจุดเริ่มต้นของการทำธุรกิจว่า เดิมที เขาเป็นลูกหลานครอบครัวคนจีนที่ย้ายมามาตั้งถิ่นฐานอยู่ที่จังหวัดน่านยาวนานกว่า 70 ปี โดยประกอบธุรกิจโรงภาพยนตร์ ก่อนที่คุณแม่จะเปลี่ยนมาเปิดร้านข้าวต้ม ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ

คุณอุทัย ตันตระกูล หรือเชฟอุทัย เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร และแกงมัสมั่นกระป๋อง ภายใต้แบรนด์ “Chef Uthai”

จนมาเป็นร้านอาหารปุ้ม 3 จังหวัดน่าน ร้านข้าวต้มรอบดึกและอาหารจานเดียว ทั้งอาหารไทย-จีน ถือเป็นร้านเก่าแก่คู่เมืองน่าน เพราะเปิดให้บริการมานานกว่า 38 ปี นับตั้งแต่ปี 2525 โดยปัจจุบันมี 8 คูหา รองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติได้จำนวนมาก

สำหรับเมนูเด็ดประจำร้านต้องยกให้ “มัสมั่นไก่ฟรุ๊ตตี้” การันตีจากความนิยมของผู้บริโภคที่ทุกโต๊ะต้องสั่งมารับประทาน ไม่ว่าใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดน่านต้องห้ามพลาด ซึ่งได้รับสูตรการทำมาจากคุณดรุณี สิงหะเนติ ผู้เป็นภรรยา ที่ได้สืบทอดการทำอาหารของตระกูลระดับชาววัง จากรุ่นสู่รุ่นกว่า 121 ปี ประกอบกับ เชฟอุทัยได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 1 ของประเทศไทย จากการเข้าร่วมประกวดเชฟไทยสู่ครัวโลก ของกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ ประจำปี 2553

เมื่อจังหวัดน่าน ถูกจัดอันดับเป็น 1 ใน 12 เมืองต้องห้ามพลาด ส่งผลให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาตลอดทั้งปี ช่วยให้แกงมัสมั่นไก่ฟรุ๊ตตี้ได้รับความนิยมไปด้วย กลายเป็นของฝากติดไม้ติดมือให้กับญาติพี่น้อง แต่ด้วยวิธีทำอาหารที่สดใหม่ มีกะทิเป็นส่วนประกอบ จึงมีอายุเก็บรักษาค่อนข้างสั้น เก็บได้ไม่นาน ถือเป็นอุปสรรคของการทำธุรกิจและต้องเร่งแก้ไขโดยเร็ว

เชฟอุทัยจึงเกิดไอเดีย นำเมนูดังประจำร้านเข้าสู่กระบวนการผลิตอุตสาหกรรมอาหารอย่างเป็นทางการ จากโอกาสที่ได้หารือกับ ดร.สมชาย หาญหิรัญ อดีตปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมให้คำแนะนำการทำอาหารบรรจุกระป๋อง และตัดสินใจยกแกงมัสมั่นหม้อลงสู่กระป๋อง เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคจากทั่วโลก ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จะได้รับประทานอาหารไทยที่อร่อยและสะดวกมากขึ้น

จุดเด่นมัสมั่นไก่ฟรุตตี้ คืออาหารไทยที่ถ่ายทอดสูตรโบราณจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างยาวนาน ผสมผสานการคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ เกรดพรีเมียม รวมถึงการปรุงรสชาติกลมกล่อม ด้วยผลไม้รสเปรี้ยว ทำให้ผู้บริโภคได้รับประทานน้ำแกงเข้มข้น เนื้อไก่นุ่ม มันฝรั่งหนึบ แม้จะเป็นเมนูแบบทำสด หรือรับประทานแบบบรรจุกระป๋อง ก็ยังสามารถคงรสชาติไว้เช่นเดิม

ที่สำคัญไม่ใส่ผงชูรสและวัตถุกันเสีย เก็บไว้ได้นาน 2 ปี เพื่อให้ลูกค้าที่ซื้อกลับไปรับประทานหรือซื้อเป็นของฝาก ได้รับความความอร่อยเหมือนกำลังนั่งทานในร้านอาหาร ด้วยราคาที่ไม่แพงขนาด 190 กรัม กระป๋องละ 65 บาท ผ่านช่องทางจำหน่าย ทั้งออฟไลน์ ทางออนไลน์ เช่น เลมอนฟาร์ม ริมปิง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ลาซาด้า ช้อปปี้ เป็นต้น

และหากนับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มนำสินค้าไปบรรจุกระป๋องเพียง 10 กิโลกรัมเท่านั้น และขยายตัวมาเรื่อยๆ ปัจจุบันทั้งปีจะอยู่ที่ 1,000 กิโลกรัม หรือ 20,000 กระป๋องต่อปี ซึ่งเชฟอุทัยเผยว่า ผลตอบรับเป็นการเติบโตที่น่าพอใจมาก

และด้วยเจตนาที่ต้องการให้แกงมัสมั่นไทย รวมถึง แกงไทยต่างๆ ให้เป็นที่รู้จักแก่ชาวต่างชาติ รวมถึงได้สัมผัสรสชาติความเป็นไทยแท้ๆ เชฟอุทัยร่วมกับคุณจักรพันธ์ ตั้งกุญแจทอง หรือคุณบอส ผู้ถือหุ้นที่มีแนวคิดตรงกัน เปิดร้านอาหาร “ร้านทศกัณฐ์ แกงไทย” ย่านบางลำพู กรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นทำเลที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเป็นจำนวนมาก

ทว่า ด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ส่งผลกระทบต่อร้าน ต้องปรับตัวให้ทันต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ยุคนิวนอร์มอล หันมาเน้นให้บริการเดลิเวอรี่ และปรับเมนูมีความหลากหลาย นอกจากมัสมั่นที่เป็นเมนูหลักแล้ว ยังมีแกงเขียวหวาน แกงพะแนง และแกงเผ็ด รวมทั้งภายในปีนี้ (2563) จะเปิดสาขาใหม่ บริเวณเลียบด่วนรามอินทรา เจาะกลุ่มพนักงานออฟฟิศเพิ่มเติมอีกด้วย

เชฟอุทัยยังเผยต่อว่า ตนกำลังเตรียมแผนธุรกิจจะจัดตั้งโรงงาน เพื่อให้เป็นครัวกลางในการกระจายสินค้าให้กับร้านทศกัณฐ์ แกงไทย รวมถึง สาขาอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต โดยได้รับการสนับสนุนเงินทุนดอกเบี้ยพิเศษจากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ซึ่งเคยใช้บริการมายาวนาน และเป็นพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจที่ดีต่อกันเสมอมา

หากใครสนใจ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก : มัสมั่นไก่ chef uthai-derivery  หรือโทร (090)317-1308