หนุ่มบริหาร ใจรักการทำอาหาร เคี่ยวตัวเองจนได้เป็น “เชฟ” ร้านดังเมืองกาญจน์

หนุ่มบริหาร ใจรักการทำอาหาร เคี่ยวตัวเองจนได้เป็น “เชฟ” ร้านดังเมืองกาญจน์

“ชีวิตไม่จำเป็นต้องยึดติดอยู่ในกรอบ หัดเรียนรู้สิ่งใหม่ ลงมือทำ ฝึกฝนบ่อยๆ จนเกิดความเชี่ยวชาญ แล้ววันหนึ่งเราจะประสบความสำเร็จ”

คือ มุมมองจากหนุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่ อย่าง คุณนนท์-วรพล โกมุทธพงษ์ หุ้นส่วนร้านอาหารญี่ปุ่น Okinaki (โอกินากิ) จังหวัดกาญจนบุรี

คุณนนท์ เริ่มต้นบทสนทนาว่า หลังจากเรียนจบในสาขาวิชาการจัดการ คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้กลับไปช่วยดูแลธุรกิจของครอบครัว ก่อนตัดสินใจออกมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์นอกบ้าน เริ่มต้นจากการไปเรียนรู้ด้านการทำอาหารจากเชฟที่ร้านอาหารของเพื่อน ซึ่งขณะนั้นเพิ่งเปิดให้บริการ เรียกว่า เริ่มนับหนึ่งใหม่ เรียนรู้จากสิ่งที่ไม่เคยรู้ เริ่มฝึกและทำไปพร้อมๆ กัน

“จุดเริ่มต้น คือ เพื่อนที่รู้จักกันติดต่อมาชวนอยากให้ไปเป็นเชฟที่ร้านอาหาร โดยให้เหตุผลว่า ผมเป็นคนที่เลือกกินแต่อาหารอร่อยทุกอย่าง และเวลาไปร้านอาหารแต่ละครั้งจะพิถีพิถัน จึงอยากให้มาช่วยดูร้านอาหารญี่ปุ่น โดยมีอาจารย์เชฟประจำร้าน ตรงนี้ทำให้มีโอกาสได้เรียนรู้ ลองทำ ฝึกฝนทักษะการทำอาหารต่างๆ ซึ่งได้ทำไประยะหนึ่ง เก็บเกี่ยวประสบการณ์จนเกิดความเชี่ยวชาญ กว่าจะเดินมาถึงวันนี้ได้ ต้องฝึกฝน ทดลองทำนับครั้งไม่ถ้วน เพราะไม่เคยมีทักษะในการทำอาหารมาก่อน แต่ไม่เคยรู้สึกท้อหรือยอมแพ้กับการเริ่มต้นที่จะเป็นเชฟ ในช่วงแรกที่เริ่มทำนั้น ค่อนข้างมีไฟที่จะทำ ได้เริ่มทำในสิ่งที่ตัวเองชอบ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนชอบเรื่องอาหารการกินอยู่แล้ว โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่น เมื่อได้ใช้ชีวิตอยู่กับมันทุกวัน ก็เริ่มรักและชอบมากขึ้น ผมว่า Passion ส่วนหนึ่งของคนเราเกิดจากการได้เริ่มทำสิ่งที่ตัวเองรักนี่แหละ” คุณนนท์ พูดคุยน้ำเสียงร่าเริง

คุณนนท์-วรพล โกมุทธพงษ์ หุ้นส่วนร้านอาหารญี่ปุ่น Okinaki

หลังจากใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวความรู้ และประสบการณ์ทางด้านอาหารอยู่ประมาณ 1 ปี จึงตัดสินใจรวมตัวกับเพื่อนๆ และรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยรังสิต มาเปิดเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นของตัวเอง ให้ชื่อ Okinaki ที่จังหวัดกาญจนบุรี

“กิจการนี้ เปิดมาได้ปีกว่าๆ กระแสตอบรับดีมากตั้งแต่ช่วงแรก เรียกว่าทำกันไม่ทันเลยทีเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประจำมาทานแล้วถูกใจก็บอกต่อ บรรยากาศในร้านชิล กว้างขวาง โดยผมเป็นคนดูแลทุกอย่างในร้าน ตั้งแต่การจัดซื้อ สต๊อก วัตถุดิบทั้งหมดที่เข้าร้าน ดูแลในส่วนของบัญชีการเงิน เหมือนเป็นทั้งผู้จัดการร้านและหัวหน้าเชฟในคนเดียว เพราะด้วยพื้นฐานแล้วเราเรียนทางด้านบริหารธุรกิจมาด้วย จึงมีความรู้ติดตัวมาใช้ในการดูแลส่วนงานบริหารจัดการของธุรกิจร้านอาหารของเรา ส่วนความรู้ทางด้านอาหารเราเองก็มีประสบการณ์ ผ่านการทำงานด้านนี้มาพอสมควรเลยสามารถดูแลไปพร้อมกันได้ เหนื่อยบ้างแต่มีความสุขในทุกวันที่ได้ทำอาหารให้คนทาน” คุณนนท์ บอกอย่างนั้น

แต่บนเส้นทางการทำธุรกิจ แน่นอนว่าไม่ได้ราบรื่นเสมอไป อาจจะมีสะดุดบ้าง เรื่องนี้ คุณนนท์ บอก เขาและหุ้นส่วนทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะแก้ไขและผ่านไปด้วยกัน อย่างล่าสุดที่เจอเลย คือ วิกฤต COVID-19 เรียกว่าได้รับผลกระทบทางตรงเลย โดยเริ่มตั้งแต่ช่วงปลายปีที่แล้ว ลูกค้าค่อยๆ ลดลง เพราะเกิดความกังวลในเรื่องการบริโภค ความปลอดภัยต่างๆ ทางร้านต้องหันมาดูแลในส่วนของมาตรการต่างๆ ภายในร้าน เพื่อให้สามารถขายอาหารต่อได้ หลังจากต้องหยุดการขายไปประมาณ 2 เดือน

“เราโชคดีในเรื่องของสถานที่ที่เป็นของร้านเอง จึงไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายส่วนนี้ หลังวิกฤตเริ่มคลี่คลาย ตอนนี้ร้าน Okinaki สามารถกลับมาเปิดให้บริการปกติแล้ว” คุณนนท์ บอกยิ้มๆ

ถามถึงจุดเด่นที่หลายคนติดใจ เจ้าของกิจการบอก ร้านเราจะทำซอสเอง ปรุงเองใหม่หมด ไม่ได้ใช้ซอสสำเร็จรูป ส่วนวัตถุดิบมี Supplier หลายบริษัท เลยสามารถดึงวัตถุดิบดีๆ ของแต่ละบริษัทมาใช้ในร้านได้ และในเรื่องของทำเลที่ตั้งนับว่าอยู่ในบริเวณน่าพอใจ

เมนูไฮไลต์

“ทุกวันนี้ ทำยอดขายเฉลี่ยหลักแสนต่อเดือน ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับที่น่าพอใจ สำหรับเมนูที่ลูกค้าชอบและเป็นที่แนะนำของร้าน Okinaki คือ ซูชิโรล โดยจัดวางเรียงกันกว่า 30 ชิ้น เป็นเมนูที่ลูกค้าชอบสั่งมาทานและถ่ายรูปกัน” คุณนนท์ เผยให้ฟัง

ก่อนจาก คุณนนท์ ทิ้งท้ายไว้เกี่ยวกับมุมมองแนวคิดในการทำงานว่า

“การเรียนรู้ในสิ่งที่รัก จะทำให้เราอยากเรียนรู้ได้ดีจนถึงขั้นที่ชำนาญ อยากลองลงมือทำ ฝึกฝนไปเรื่อยๆ ใช้เวลากับสิ่งเหล่านั้นให้นานที่สุด หากเรารักและหลงใหลในสิ่งนั้นมากพอ ผลลัพธ์ที่ออกมาย่อมดีเสมอ และหากเราต้องการที่จะเปลี่ยนไปลองเส้นทางใหม่ๆ การใฝ่ที่จะเรียนรู้ถือเป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน ลองตั้งเป้าหมาย แล้วเรียนรู้ไปก่อน เมื่อเรียนรู้มากพอแล้ว ค่อยลงมือทำจริง ความสำเร็จน่าจะไม่ไกลเกินเอื้อม”