เผยแพร่ |
---|
วันที่ 18 พ.ย. เอเอฟพีรายงานว่า จากภาพการพบปะระหว่างนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น กับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาคนที่ 45 ในอาคารทรัมป์ทาวเวอร์ย่านแมนฮัตตันของนครนิวยอร์ก และสำนักนายกฯญี่ปุ่นนำมาเผยแพร่นั้น เป็นที่สังเกตว่า มีนางอิวานกา พร้อมนายจาเรด คุชเนอร์ ลูกสาวและลูกเขยของนายทรัมป์ วัย 35 ปีทั้งคู่ อยู่ในวงประชุมด้วย

ทำให้เกิดประเด็นคาดหมายว่า ลูกสาวของนายทรัมป์จะก้าวขึ้นมามีอิทธิพลในยุคที่พ่อบริหารประเทศ หรืออาจได้รับแต่งตั้งเป็นเอกอัครราชทูตสหรัฐประจำกรุงโตเกียว ส่วนนายคุชเนอร์เองกำลังถูกจับตาจากสื่อสหรัฐ ว่าจะได้รับตำแหน่งในรัฐบาลของนายทรัมป์ หรืออาจไปประจำอยู่ในทำเนียบขาวเพื่อทำงานให้พ่อตาด้วย

บรรดาสื่อแท็บลอยด์ของญี่ปุ่นพากันวิพากษ์วิจารณ์การปรากฏตัวของนางอิวานกา ว่าไม่น่าแปลกใจเพราะนายทรัมป์มีแนวทางนี้อยู่แล้ว และจะทำให้เส้นแบ่งกั้นระหว่างการเมืองกับธุรกิจบางลง บ้างทำนายว่านางอิวานกาจะให้ตำแหน่งทางการเมืองเพื่อประโยชน์ทางธุรกิจของครอบครัวด้วย

สำหรับนายอาเบะเป็นผู้นำชาติพันธมิตรประเทศแรกที่ได้พบกับนายทรัมป์ หลังการเลือกตั้งสหรัฐ เป็นการส่งสัญญาณย้ำว่าญี่ปุ่นจะยังคงเป็นพันธมิตรสำคัญของสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย แม้จะเปลี่ยนตัวผู้นำ จนเกิดกระแสหวั่นไหวขึ้น โดยเฉพาะเมื่อนายทรัมป์เคยหาเสียงก้าวร้าวต่อญี่ปุ่น ว่าจะเก็บเงินจากญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นในฐานะที่สหรัฐเข้าไปตั้งฐานทัพอยู่
“เรามีโอกาสพูดคุยกันอย่างตรงไปตรงมาในบรรยากาศการหารือที่อบอุ่น ผมเชื่อว่าหากปราศจากความมั่นใจระหว่างสองประเทศที่เป็นพันธมิตร ความร่วมมือในอนาคตจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้ แต่ผลลัพธ์จากการพูดคุยในครั้งนี้ ผมเชื่อในความเป็นผู้นำของนายทรัมป์ และนั่นทำให้ผมมีความมั่นใจเป็นอย่างมาก” นายอาเบะกล่าว ท่ามกลางบรรยากาศที่ดูชื่นมื่น