สธ. เผยผลสำรวจ 5 กิจการ ย้ำตลาด ร้านอาหาร ขนส่ง ต้องยกการ์ด

สธ. เผยผลสำรวจมาตรการป้องกันโรคใน 5 กิจการ ย้ำตลาด ร้านอาหาร ขนส่ง ต้องยกการ์ด

วันที่ 8 ก.ค. 2563 ที่ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากการประเมินเพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 สำหรับกิจกรรม/กิจการที่ได้รับการผ่อนคลาย ระยะที่ 4 สำรวจระหว่างวันที่ 25 มิ.ย.-2 ก.ค. 2563 ใน 5 กิจการ โดยสำรวจการปฏิบัติตามมาตรการหลักของ ศบค. ใน 5 ด้าน คือ การทำความสะอาดจุดสัมผัสบ่อย การสวมหน้ากากทุกคน มีจุดบริการล้างมือ/ เจลแอลกอฮอล์ การเว้นระยะห่างระหว่างบุคคล และการลดความแออัด พบว่าภาพรวมได้รับความร่วมมือและมีการปฏิบัติตามมาตรการหลักในระดับดี

อย่างไรก็ตาม พบว่าบางกิจการมีคะแนนแต่ละด้านลดลง ควรเน้นย้ำให้ปรับปรุง โดยเฉพาะตลาด ที่สำรวจ 126 แห่งทั่วประเทศ พบว่ามีจุดบริการล้างมือเจลแอลกอฮอล์มากถึงร้อยละ 91 แต่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น ลดความแออัดได้เพียงร้อยละ 56 การสวมหน้ากาก การทำความสะอาด การเว้นระยะห่าง อยู่ที่ประมาณร้อยละ 70 จึงต้องกำชับผู้ให้บริการควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการ กำหนดทางเข้าออก แบ่งโซนสินค้าให้ชัดเจน ผู้ประกอบการ พ่อค้า แม่ค้า ผู้สัมผัสอาหารและผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากผ้า หน้ากากอนามัย ตลอดเวลา ทำความสะอาดบริเวณที่ให้บริการตามหลักสุขาภิบาล เช่น พื้นตลาด แผงจำหน่ายอาหาร รวมถึงจัดพื้นที่ให้มีการเว้นระยะห่าง ระหว่างแผงค้า ผู้ซื้อ และการชำระเงินอย่างน้อย 1-2 เมตร

ส่วนร้านอาหาร เครื่องดื่ม จำนวน 164 แห่ง ควรเพิ่มการทำความสะอาดจุดสัมผัส พนักงานควรสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดเวลา เว้นระยะห่างระหว่างโต๊ะอย่างน้อย 1 เมตร และควบคุมทางเข้าออก และดูแลให้ผู้ใช้บริการลงทะเบียนเข้า-ออกผ่านแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” และขนส่งสาธารณะ 141 แห่ง พบว่า มีการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสร่วมเพียงร้อยละ 82 การสวมหน้ากากทุกคนร้อยละ 89 การเว้นระยะร้อยละ 90 จึงต้องเน้นย้ำการทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อย ทั้งสถานีขนส่งและยานพาหนะ รวมถึงกำชับให้พนักงานและผู้โดยสารทุกคนเว้นระยะห่างและสวมหน้ากากตลอดเวลา

สำหรับกิจการจัดประชุม อบรม สัมมนา จำนวน 222 แห่ง พบว่ามีการสวมหน้ากากผ้า/ หน้ากากอนามัยในพื้นที่สาธารณะตลอดเวลาถึงร้อยละ 91 สิ่งที่ควรเน้นย้ำคือการเพิ่มรอบทำความสะอาดในจุดสัมผัสร่วม เช่น ห้องน้ำ เนื่องจากมีคนใช้ร่วมกันจำนวนมาก และสถานดูแลผู้สูงอายุ จำนวน 51 แห่งทั่วประเทศ พบว่า ทุกแห่งมีการเข้มมาตรการลดความแออัด มีจุดล้างมือถึงร้อยละ 98 แต่การสวมหน้ากากอนามัยมีเพียงร้อยละ 76 จึงควรเน้นย้ำให้ผู้สูงอายุสวมหน้ากากผ้า/หน้ากากอนามัยตลอดเวลา อาจผ่อนปรนได้บ้าง เช่น ขณะทำกิจกรรมกลางแจ้ง หรือมีการเว้นระยะห่าง ไม่มีบุคคลภายนอกอยู่ในพื้นที่

“สถานการณ์ที่ดีขึ้นทำให้เราเริ่มกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ ยังคงต้องขอความร่วมมือประชาชนดำเนินชีวิตตามวิถีใหม่ ไม่ประมาท ปฏิบัติตามมาตรการอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ต่อตัวท่านเอง สิ่งสำคัญที่สุดคือความร่วมมือของผู้ประกอบการและผู้ใช้บริการ หากทุกคนร่วมมือกันจะช่วยให้ประเทศไทยปลอดภัยและปลอดโรค” แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าว