“หน้ากากอนามัยยางพารา” ไร้ปัญหากลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่น ช่วยเกษตรกรไทย

มีแบบนี้ด้วย “หน้ากากอนามัยยางพารา” ฝีมือคนไทย ไม่สะสมไรฝุ่น ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนหน้า ไร้ปัญหากลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่น ช่วยเกษตรกรสวนยาง

กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการดำรงชีวิตขณะนี้ไปแล้ว สำหรับ “หน้ากากอนามัย” ล่าสุด ผลงานของคนไทย หน้ากากอนามัยจากยางพารา ผ่านการวิจัยว่าสามารถใช้งานได้จริง อีกทั้งยังช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยางพาราให้มีรายได้เพิ่มอีกด้วย

คุณชินธันธิ์ อนันต์มั่งคั่งกุล เจ้าของ “SaBai” หน้ากากอนามัยจากยางพารา เล่าว่า เดิมทีทำธุรกิจเกี่ยวกับยางพารา หลังจากนั้นมีโอกาสเข้าไปวิจัยผลงานกับมหาวิทยาลัยทักษิณ เพื่อค้นหาว่าในน้ำยางพาราธรรมชาติมี Zinc หรือไม่ เนื่องจากมีงานวิจัยจากแคลิฟอร์เนีย 2010 ผลวิจัยระบุว่า Zinc สามารถป้องกันโคโรนาไวรัสได้ 

ภายหลังที่เข้าวิจัยก็พบได้ว่าในน้ำยางพารา ( Latex) มีส่วนของ Zinc ประกอบอยู่ในปริมาณที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ พร้อมทั้งวิจัยหาค่าต่างๆ และความละเอียดของการกรองฝุ่นเมื่อรวมกับผ้าฝ้ายมัสลินสามารถกรองฝุ่นได้สูงถึง 0.377 ไมครอน ประจวบเหมาะกับช่วงโควิด-19 จึงได้มาเริ่มทำหน้ากากอนามัยพร้อมฟิลเตอร์ยางพารา เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2563 ซึ่งผลตอบรับก็ค่อนข้างดี จากวันเปิดตัวจนถึงปัจจุบันสามารถขายได้ประมาณ 30,000 ชิ้นแล้ว

คุณชินธันธิ์ บอกว่า หน้ากากอนามัยจากยางพารา ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วด้วยอุณหภูมิสูง 90 องศาเซลเซียส ไม่เป็นแหล่งสะสมของไรฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรียต่างๆ ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อนใบหน้า เมื่อผู้สวมใส่ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ไม่ก่อให้เกิดปัญหากลิ่นปาก ลมหายใจสดชื่นอีกด้วย

สำหรับหน้ากากอนามัยยางพารา มี 2 รุ่น คือ MS-95 ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 50 บาท และอีกรุ่นคือ MS-3D ราคาอยู่ที่ชิ้นละ 95 บาท สีขาวและสีดำ มีเชือกคล้องใบหู สวมใส่สะดวกไม่ตกหล่น สามารถซักล้างได้บ่อยมากกว่า 50 ครั้ง

 

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการช่วยเหลือชุมชนและชาวบ้านโดยรอบให้มีรายได้จากการผลิตหน้ากากอนามัย ตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งชาวเกษตรกรสวนยางพารา แม่บ้านกลุ่มตัดเย็บ สร้างมูลค่าให้กับน้ำยางพาราอีกด้วย