‘หมวดวิชัย นักปลูกต้นไม้’ อาการดีขึ้นแต่ต้องงดปลูกป่า ปธ.เครือข่ายท่องเที่ยวฯขอสานต่อปณิธาน

วันที่ 14 พฤศจิกายน  ความคืบหน้าของ ร.ต.ต.วิชัย  สุริยุทธ  นายตำรวจนักปลูกต้นไม้ชื่อดังแห่ง อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ได้ป่วยหนักด้วยอาการของโรคไตและโรคหัวใจวายและได้เข้าพักรักษาตัวที่ตึก 4 ชั้น 3 เตียง 1 รพ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 11 พ.ย. 59 ที่ผ่านมา ต่อมานายธวัช  สุระบาล ผวจ.ศรีสะเกษ ได้เป็นตัวแทนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา  นายกรัฐมนตรี  นำเอากระเช้าดอกไม้และเงินสด จำนวน 20,000  บาท  มาให้แก่ ร.ต.ต.วิชัย ตามข่าวที่ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ล่าสุด เมื่อเวลา  08.15 น. ที่ผ่านมา ดร.กัลยาณี  ธรรมจารีย์  ที่ปรึกษา ผวจ.ศรีสะเกษ ด้านการท่องเที่ยวและประธานเครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ และคณะ  ได้นำเอากระเช้าเครื่องดื่มบำรุงร่างกายมาเยี่ยมอาการป่วยของ ร.ต.ต.วิชัย ซึ่งตอนนี้ค่อนข้างสดชื่นมากกว่าเดิม แต่ว่าก็ยังนอนพักอยู่บนเตียงผู้ป่วย ได้ลุกขึ้นนั่งบนเตียงและพูดคุยกับผู้มาเยี่ยมอาการป่วยด้วยความดีใจ

ร.ต.ต.วิชัย  กล่าวว่า หลังจากที่แพทย์มาตรวจอาการป่วยเมื่อช่วงเช้าระบุว่า  อาการป่วยของตนวันนี้ดีขึ้นกว่าเดิม สภาพร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้นมาแล้ว  แต่ว่ายังคงต้องงดกิจกรรมในการปลูกป่าเอาไว้ก่อน  เนื่องจากร่างกายยังไม่สมบูรณ์แข็งแรงเหมือนเดิม ซึ่งในการปลูกป่าที่ตนทำเป็นประจำทุกวันนั้น  ขณะนี้มีผู้ที่มีอุดมการณ์เดียวกันมาร่วมด้วยจำนวนมาก  และตนได้มอบให้ ดร.กัลยาณี ซึ่งเป็นเครือข่ายเดียวกันกับตน ได้ร่วมกับคณะช่วยกันปลูกป่าต่อไป แล้วหลังจากที่ตนหายป่วยออกจาก รพ.ศรีสะเกษแล้วก็จะไปปลูกป่าต่อทันที  ตนขอยืนยันว่าจะปลูกป่าต่อไปเรื่อย ๆจนกว่าลมหายใจสุดท้ายจะหลุดออกไปจากร่าง  ทั้งนี้เพื่อเป็นการทำความดีและเพื่อเป็นการเดินตามรอยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช อย่างเต็มที่ต่อไป

201611140940271-20080804112417-768x576

ด้านดร.กัลยาณี กล่าวว่า เครือข่ายการท่องเที่ยวโดยชุมชน จ.ศรีสะเกษ เป็นเครือข่ายในการปลูกป่าร่วมกับ ร.ต.ต.วิชัย  สุริยุทธ  มานานแล้ว  และมีการจัดกิจกรรมปลูกป่าร่วมกันมาเป็นประจำอยู่เสมอ ซึ่งการที่ ร.ต.ต.วิชัย  ป่วยด้วยโรคหัวใจวายนี้  ตนและสมาชิกของเครือข่ายการท่องเที่ยวทุกคนพร้อมที่จะร่วมกันสานต่อปณิธานการปลูกป่าของ ร.ต.ต.วิชัย   โดยเมื่อ ร.ต.ต.วิชัย หายป่วยออกจาก รพ.ศรีสะเกษ จะร่วมกันปลูกป่าให้เต็มพื้นที่ทั้ง จ.ศรีสะเกษต่อไป  ทั้งนี้เพื่อเป็นการเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทของพ่อหลวงของปวงชนชาวไทย

 

 

 

ที่มา มติชน