บอร์ดอาชีพ เห็นชอบ เยียวยากลุ่มกีฬาอาชีพ-มวย เริ่มเบิกจ่ายภายใน มิ.ย.นี้

บอร์ดอาชีพ เห็นชอบ เยียวยากลุ่มกีฬาอาชีพ-มวย เริ่มเบิกจ่ายภายใน มิ.ย.นี้

เงินเยียวยา – เว็บไซต์ รัฐบาลไทย เผยแพร่ข่าว นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการกีฬาอาชีพ ครั้งที่ 3/2563 โดยมี นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายณัฐวุฒิ เรืองเวส รองผู้ว่าการฝ่ายกีฬาอาชีพและสิทธิประโยชน์ และกรรมการที่เกี่ยวข้อง

สาระสำคัญของการประชุมวันนี้ คือ การพิจารณางบประมาณในการช่วยเหลือกลุ่มกีฬาอาชีพ โดยหลังจากคณะอนุกรรมการเพื่อพิจารณาเงื่อนไขและหลักเกณฑ์ต่างๆ ในการช่วยเหลือเยียวยากลุ่มกีฬาอาชีพที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิค-19)

ได้เรียกประชุมรับฟังข้อมูลผลกระทบ ความเดือดร้อน เมื่อวันที่ 22-24 เม.ย.ที่ผ่านมา จาก 13 ชนิดกีฬาและผู้มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ ทั้ง 5 กลุ่ม ได้แก่ 1. นักกีฬาอาชีพ 2. บุคลากรกีฬาอาชีพ 3. สมาคมกีฬาอาชีพ 4. สโมสรกีฬาอาชีพ และ 5. ผู้จัดการแข่งขัน และได้ส่งรายชื่อนักกีฬาและบุคลากรกีฬาอาชีพที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตาม พ.ร.บ.กีฬาอาชีพ ให้กระทรวงการคลังตรวจสอบสิทธิ์ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เรียบร้อยแล้ว

ที่ประชุมพิจารณาอนุมัติงบประมาณให้ความช่วยเหลือ เยียวยา กลุ่มกีฬาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 182,200,000 บาท โดยอนุมัติปรับแผนงบประมาณที่กองทุนสนับสนุนมาก่อนหน้านั้น จำนวน 75,592,584 บาท และเห็นชอบเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ อีกจำนวน 106,607,416 บาท ต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมพิจารณาเห็นชอบปรับปรุงคณะอนุกรรมการในคณะกรรมการกีฬาอาชีพ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงาน จาก 8 คณะ เหลือ 4 คณะ ดังนี้

  1. คณะอนุกรรมการกฎหมายกีฬาอาชีพ

2. คณะอนุกรรมการนโยบายส่งเสริมและพัฒนากีฬาอาชีพ

3. คณะอนุกรรมการกลั่นกลองเพื่อพิจารณาให้การคุ้มครอง การช่วยเหลือ การส่งเสริม และการสนับสนุนกีฬาอาชีพ

4. คณะอนุกรรมการกำกับ ติดตาม เร่งรัด และประเมินผลการดำเนินงานกีฬาอาชีพ

เวลา 15.00 น. วันเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการกีฬามวย ครั้งที่ 3/2563 พิจารณาอนุมัติงบประมาณช่วยเหลือ เยียวยา บุคคลในวงการกีฬามวยที่ลงขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย ทั้ง 7 กลุ่ม ได้แก่ 1. นักมวย อายุ 15-17 ปี และนักมวย 18 ปีขึ้นไป 2. ผู้ฝึกสอน 3. ผู้ตัดสิน 4. หัวหน้าค่ายมวย 5. ผู้จัดการนักมวย 6. ผู้จัดรายการแข่งขัน และ 7. นายสนามมวย ที่ประชุมอนุมัติกรอบวงเงินทั้งสิ้น จำนวน 79,150,000 บาท

โดยอนุมัติปรับแผนงบประมาณจำนวน 25,642,000 บาท และเสนอขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ อีกจำนวน 53,508,000 บาท ต่อไป ทั้งนี้ในการเบิกจ่ายต้องเป็นไปตามคุณสมบัติที่ระเบียบให้ความช่วยเหลือฯ กำหนด

รมต.ว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยหลังการประชุมว่า ในวันนี้ที่ประชุมพิจารณาเรื่องช่วยเหลือเยียวยาบุคลากรกีฬาอาชีพ โดยเอาเงินส่วนที่ กกท. มีอยู่แล้ว ประมาณ 75 ล้านบาทเศษ และจะขอจากกองทุนอีก 106 ล้านบาทเศษ รวมเป็นเงิน 182 ล้านบาท

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

ซึ่งเป็นการเยียวยาขั้นต้น ทางกระทรวงจะนำเรื่องเสนอในการประชุมคณะกรรมการกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ เพื่อจะขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการประชุมคราวต่อไป ในส่วนของสมาคม สโมสร เราจะช่วยเหลือสมาคมหรือสโมสรละไม่เกิน 500,000 บาท ซึ่งมีจำนวนประมาณ 110 สโมสร รวมเป็นเงิน 55 ล้านบาท

ซึ่งทางกระทรวงจะนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการกองทุนฯ เพื่อขอเงินจากกองทุนฯ และในส่วนของนักกีฬาจะได้รับคนละ 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ซึ่งหลังจากนี้ถ้ายังไม่มีการแข่งขันหลังจาก 3 เดือน ก็ต้องรอนโยบายจากรัฐบาลต่อไปว่าจะมีการเยียวยาเพิ่มเติมหรือไม่

ถ้าหากทางรัฐบาลมีการเยียวยาเพิ่มเติมจำนวนเท่าไหร่ ทางกระทรวงก็จะทำเรื่องเยียวยาให้กับนักกีฬาเทียบเคียงไปกับทางรัฐบาล โดยจะเริ่มจ่ายเงินในเดือนมิถุนายนทั้งหมด คาดว่าจะจ่ายครั้งเดียวรวมของทั้ง 3 เดือนเลย เป็นเงิน 15,000 บาท/คน

รมต.ท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประชุมคณะกรรมการกีฬามวย โดยนักกีฬามวยกลุ่มอายุ ไม่ถึง 18 ปี ซึ่งไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับเงินเยียวยาจากทางรัฐบาล จึงกำหนดเป็นกลุ่มแรกที่จะให้การเยียวยา และในกลุ่มที่มีอายุเกิน 18 ปี จะเอารายชื่อไปหารือกับกระทรวงการคลังว่ามีรายชื่อซ้ำซ้อนกับที่ได้รับจากทางกระทรวงการคลังหรือไม่

ถ้าหากมีรายชื่อซ้ำซ้อนก็จะไม่ได้รับการเยียวยา โดยที่ประชุมอนุมัติใช้เงินทั้งหมดโดยประมาณ 79 ล้านบาทเศษ โดยจะทำการเยียวยาให้เร็วที่สุด เมื่อได้รับเงินจากกองทุนฯมา ทาง กกท. จะให้การเยียวยารวมครั้งเดียวเลยเป็นเวลา 3 เดือน ถ้าหากยังไม่ได้รับการเยียวยาตั้งแต่ต้น ก็จะได้รับเงิน 15,000 บาท ทีเดียวเลย ลักษณะเดียวกับกีฬาอาชีพ แต่ตรงนี้มีความต่อเนื่องไปว่า นอกจากนักมวยแล้วยังมีครูมวย และบุคลากรทางกีฬามวย หัวหน้าค่ายมวยและโปรโมเตอร์ด้วย

ซึ่งจะดูความเหมาะสมว่าวงเงินที่ได้รับจากกองทุนกีฬาเท่าไหร่ ก็จะดูตามความสำคัญแต่นักมวย ทางบอร์ดจะให้ความสำคัญลำดับที่ 1 ครูมวยลำดับที่ 2 แล้วก็ลดลงมาตามวงเงินที่ได้รับ แต่คาดว่าเงินที่ขอทางกองทุนน่าจะได้รับตามที่ขอไป