ดุสิตธานี เปิดตัวบริการ “Dusit Care” ตอบรับวิถีชีวิตแบบใหม่ ‘New Normal’

ดุสิตธานี เปิดตัวบริการ “Dusit Care”  ตอบรับวิถีชีวิตแบบใหม่ ‘New Normal’  

นิวนอร์มอลดุสิตธานี นำเสนอบริการ Dusit Care – Stay With Confidence ยกระดับ 5 มาตรฐานสำหรับการให้บริการตอบรับวิถีชีวิตแบบใหม่ที่เน้นเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย โดยเฉพาะการเข้าพักและการรับประทานอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว

ตอกย้ำจุดยืนในการบริการที่มีมาตรฐานของดุสิตธานีที่เน้นให้ลูกค้าได้รับความสะดวกสบาย ประสบการณ์ที่แสนประทับใจ และความคุ้มค่าสูงสุด โดยหวังเป็นส่วนหนึ่งช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC

คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดุสิตธานี จำกัด (มหาชน) หรือ DTC เปิดเผยว่า สำหรับบริการ Stay with Confidence ซึ่งประกอบด้วยการยกระดับ 5 มาตรฐานหลักสำหรับการให้บริการเพื่อตอบรับการท่องเที่ยวในวิถีชีวิตแบบใหม่ ที่ดุสิตธานีจะนำมาใช้ เพื่อสร้างความมั่นใจและรองรับนักท่องเที่ยวในประเทศของโรงแรมในเครือดุสิตธานีทุกแห่ง  ประกอบด้วย บริการที่ 1 Flexible Stays เป็นการมอบบริการที่เพิ่มความยืดหยุ่นและลดข้อจำกัดเดิมๆ ของการเข้าพักและรับประทานอาหารเช้า  โดยลูกค้าสามารถเช็กอินในเวลาที่สะดวกได้ตลอดเวลา  เพื่อลดการแออัดคับคั่ง และอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าได้เข้าพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ในส่วนของการสั่งอาหารเช้า ลูกค้าไม่จำเป็นต้องไปรับประทานอาหารเช้าในห้องอาหารและเวลาที่กำหนด แต่สามารถสั่งไปรับประทานที่ห้องพัก หรือบริเวณพื้นที่ส่วนกลางสำหรับการรับประทานอาหาร  ซึ่งบริการนี้มีให้บริการสำหรับลูกค้ารายบุคคลทั่วไป ยกเว้นลูกค้าที่เป็นกลุ่มหรือหมู่คณะ

ขณะที่บริการที่ 2 คือ Safety & Well-being  โดยทุกโรงแรมในเครือดุสิตธานี มีการกำหนดมาตรการด้านสุขภาพและความปลอดภัยอย่างเข้มข้น โดยเน้นการฆ่าเชื้อความสะอาด เพิ่มระยะห่าง และลดการสัมผัส เช่น เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคในห้องพัก ห้องจัดเลี้ยงและพื้นที่ส่วนกลาง  ให้บริการเจลล้างมือในพื้นที่ส่วนกลาง  เพิ่มระยะห่างของโต๊ะและที่นั่งในร้านอาหารและพื้นที่ส่วนกลาง และมีระบบคัดกรองและวัดอุณหภูมิสำหรับลูกค้าทุกท่านที่เดินทางมาถึง นอกจากนั้น ยังจัดสรรพื้นที่และจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายกลางแจ้ง และยังจัดหาเครื่องดื่มและขนมขบเคี้ยวเพื่อสุขภาพไว้บริการในห้องพักให้ฟรี เพื่อรับรองแขกทันทีในวันแรกที่เข้าพัก มาตรฐานที่ 3 คือ Local Experience ดุสิตธานีนำเสนอบริการ “ช็อปปิ้งส่วนตัว” โดยร่วมมือกับผู้ประกอบการในชุมชนของแต่ละท้องถิ่น  ในการจัดหาอาหารหรือของฝากที่มีชื่อเสียง รวมถึงผลิตภัณฑ์และของที่ระลึกจากชุมชนหรือท้องถิ่นในย่านนั้นๆ มาให้แขกที่เข้าพักได้เพลิดเพลินในการช็อปปิ้งถึงภายในโรงแรม โดยไม่ต้องออกไปไหน

สำหรับบริการที่ 4 ได้แก่ Technology ดุสิตธานีมีการวางแผนที่จะนำ “เทคโนโลยีไร้สัมผัส” มาใช้กับบริการต่างๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าได้มากขึ้น เช่น การชำระเงินด้วยมือถือสำหรับห้องพักและร้านอาหาร, ดิจิตอลเมนูในร้านค้าต่างๆ และไวไฟความเร็วสูง และระบบการประชุมแบบไฮบริด ซึ่งเป็นการประชุมเสมือนจริงในรูปแบบออนไลน์ และ บริการที่ 5 ได้แก่ Dusit Care Kit หรือชุดป้องกันส่วนบุคคลแบบพกพาเพื่อนำติดตัวเวลาไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ โดยจะมอบเป็นของขวัญให้กับลูกค้าทุกคนทันทีเมื่อเช็กอิน ในชุดจะประกอบด้วย เจลล้างมือ, หน้ากาก, ทิชชู่เปียก แอนตี้แบคทีเรีย และของใช้จำเป็นอื่นๆ

“การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 นั้นส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมของเราอย่างชัดเจน และไม่ต้องสงสัยเลยว่าเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ดังนั้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและกระตุ้นความต้องการของลูกค้าให้อยากกลับมาเดินทางท่องเที่ยวอีกครั้งหลังจากพ้นวิกฤตโควิ-19 ไปแล้ว  เราต้องการที่จะนำเสนอมาตรการสุขอนามัยที่เข้มข้นมากกว่าการทำความสะอาดขั้นพื้นฐานทั่วไป และเพิ่มมาตรการเว้นระยะห่างอีกด้วย  ซึ่งมาตรฐานเหล่านี้จะต้องถูกยกระดับให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบใหม่ (new normal) แต่ยังคงไว้ซึ่งความสะดวกสบาย, ประสบการณ์ และความคุ้มค่าสูงสุดให้กับลูกค้า โดยไม่ทำให้การบริการของดุสิตธานีลดลง  แต่ยิ่งจะสร้างความประทับใจที่มากขึ้น นี่คือสิ่งที่เราต้องมุ่งหวังที่จะทำให้สำเร็จ”  คุณศุภจี กล่าว

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดุสิตธานี ยังกล่าวอีกว่า  หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศเริ่มเข้าสู่ภาวะผ่อนคลายและมีการผ่อนปรนมาตรการต่างๆ แล้ว กลุ่มดุสิตธานีได้พยายามจัดเตรียมความพร้อมในการต้อนรับลูกค้าและเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว โดยในการทำตลาดช่วงแรก เรามุ่งเน้นไปที่การท่องเที่ยวภายในประเทศเป็นสิ่งแรก  เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยฟื้นฟูอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทย  เพราะในส่วนของตลาดต่างประเทศนั้นคาดว่า อาจจะต้องใช้เวลาอีกพอสมควรในการกลับมาอยู่ในภาวะปกติ ซึ่งขึ้นอยู่กับความรุนแรงของสถานการณ์และข้อจำกัดในการเดินทางในแต่ละประเทศนั้น