ร้านนวดไทย แบกภาระร่วมแสน ขอรัฐปลดล็อก อย่าปล่อยให้ทุกคน “จมน้ำตาย”

ร้านนวดแผนไทย แบกภาระร่วมแสน ขอรัฐบาลปลดล็อก อย่าปล่อยให้ทุกคน “จมน้ำตาย”

แม้ในช่วงนี้สถานการณ์โควิด-19 ในประเทศไทยจะดีขึ้น รัฐบาลมีการปลดล็อกให้หลายธุรกิจกลับมาเปิดได้ แต่ “ร้านนวด” ยังไม่ใช่ธุรกิจที่ถูกเลือก

เป็นเวลาเกือบ 3 เดือนแล้ว ที่ร้านนวดแผนไทย สปาศิราศรม_Spa Sirasom จากจังหวัดนครราชสีมา ปิดให้บริการ คุณยาย่า -ภารดี พจนาภิมล อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน สปาศิราศรม_Spa Sirasom บอกกับเส้นทางเศรษฐีออนไลน์ว่า ร้านนวดแห่งนี้เปิดให้บริการมานาน 21 ปี ปัจจุบันมี 9 สาขา และมีหมอนวดในความดูแลร่วม 100 ชีวิต

เจ้าของร้านนวดวัย 41 ปี เผยว่า “ร้านเรามีบริการหลากหลาย ทั้งนวดไทย นวดน้ำมัน นวดเท้า ขัดตัว อบผิว แช่น้ำแร่น้ำนม ซึ่งบริการทั้งหมดทางร้านได้ประยุกต์ให้ทันสมัย ฝีมือหมอนวดของเราเฉียบขาดทุกคน สำหรับหน้าร้านทั้ง 9 สาขาจะมีบรรยากาศที่แตกต่างกัน ส่วนกลุ่มลูกค้าหลักมีทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติระดับไฮคลาส”

สำหรับรายได้ของหมอนวด จะได้จากค่าชั่วโมง และทิปจากลูกค้าเป็นหลัก แต่เพราะเกิดโควิดทำให้ร้านต้องปิดชั่วคราว หมอนวดจึงขาดรายได้

“อย่างที่บอกว่าลูกค้าร้านเราส่วนใหญ่เป็นระดับไฮคลาส เพราะฉะนั้นหมอนวดจะได้ทิปค่อนข้างมาก พอเกิดโควิดร้านต้องปิดชั่วคราวเข้าเดือนที่ 3 แล้ว หมอนวดไม่มีรายได้ พี่ช่วยเขาส่วนหนึ่ง เช่น ซื้ออาหารแห้ง พวก ไข่ มาม่า ปลากระป๋องให้ และมีช่วยเหลือเรื่องเงินบ้าง นอกจากนี้ยังอนุญาตให้พักอยู่ในร้านได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ส่วนบางคนกลับบ้านเกิด พูดกันตามตรงอยู่ในเมืองไม่ได้มีผักให้เด็ดกินเหมือนอยู่ต่างจังหวัด กลับไปอยู่บ้านยังมีของให้กิน”

นอกจากลูกน้องที่อยู่ในความดูแล ทางร้านต้องแบกรับค่าใช้จ่ายอีกเดือนละเป็นแสน

“ภาระที่เราต้องแบกรับคือค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าเช่าร้าน ทั้ง 9 สาขา บางที่เจ้าของที่เขาช่วยเหลือเก็บค่าเช่าครึ่งหนึ่ง หรือบางที่ไม่เก็บเลย ต้องขอบคุณมากๆ ไหนจะค่าใช้จ่ายส่วนตัวเราอีก รายจ่ายรวมๆ แล้ว 2 แสนกว่าบาท แต่โชคดีที่ร้านเปิดมา 20 กว่าปี ยังพอมีทุนเก่าอยู่บ้าง ไม่ได้เดือดร้อนมาก เท่ากับคนอื่น”

ถามต่อถึงการประกาศผ่อนปรนธุรกิจเฟสสอง หลายคนคาดเดาว่าร้านนวดจะได้รับการผ่อนปรน แต่ไม่เป็นไปตามคาด

“วันที่ 17 พ.ค. ที่รัฐประกาศผ่อนปรน พี่คาดหวังมากว่าจะได้เปิดร้าน พี่เตรียมตัวล่วงหน้าก่อนประกาศเป็นอาทิตย์ พี่ไลฟ์บอกลูกค้าในเพจ ส่งจดหมาย ส่งไลน์บอกลูกค้า บอกลูกน้อง ซื้อที่วัดอุณหภูมิ 9 ตัว ซื้อแมสก์ เฟซชิลด์ ไว้สำหรับใช้ทุกสาขา ทำแบบฟอร์มให้ลูกค้ากรอกข้อมูล ดีใจมาก เราได้เจอกันวันที่ 17 แน่นอน สุดท้ายไม่ได้เปิด น้ำตาแทบไหล เรามีความหวังมาก ถึงจะรู้ว่าเปิดแล้วลูกค้าอาจจะไม่มีกำลังมาใช้บริการ เพราะเศรษฐกิจไม่ดีมานานก่อนเจอโควิดซะอีก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะได้รายได้เท่าไหร่ อยากให้เห็นจริงๆ ว่าเจ้าของร้านได้รับความเดือดร้อนจริงๆ”

และเมื่อวาน วันที่ 19 พ.ค. คุณยาย่าได้เดินทางเข้ามาอัดรายการ เป็นกระบอกเสียงให้หมอนวดทุกคน

“มีประโยคหนึ่งที่พี่พูดไว้ อาชีพเสริมความงามสามารถอนุญาตให้เปิดร้านได้ แต่ทำเฉพาะเรือนร่าง แล้วจะแตกต่างอะไรกับการนวด ทุกอาชีพเสี่ยงหมดไม่ใช่แค่นวดแผนไทย เพียงแต่ว่าเราจะมีแผนการอย่างไรเปิดแล้วไม่ให้ติด และอย่าลืมว่านวดแผนไทยมีสาธารณสุขจังหวัดควบคุมอยู่ เพราะฉะนั้นปลอดภัยกว่าอาชีพเฟสสองที่อนุญาตให้เปิดอีก จะกลัวอะไร เจ้าของร้านต้องเตรียมมาตรการไว้อยู่แล้ว และเห็นข่าวว่าถ้าผ่อนปรนให้เปิดได้ สธ.จะให้นวดเฉพาะช่วงล่าง เช่น ฝ่าเท้า ประคบ แล้วพวกคลินิกความงามล่ะไม่ใกล้กันเหรอ จะต่างจากนวดไทยสักเท่าไหร่”

คุณยาย่า บอกว่า ถ้าสมมติ รัฐผ่อนปรนให้ร้านนวดเปิดได้ จะต้องกลับไปเตรียมร้านให้พร้อม และบอกลูกน้องให้เตรียมตัว

“พี่ต้องประชุมกับลูกน้อง ทำจุดคัดกรอง เพื่อเตรียมตัวรับลูกค้า และเตรียมความพร้อมในการทำงานรับมือกับโควิด-19 นาทีต่อนาทีนี้เราจะให้คนติดเชื้อจากการนวดแผนไทยไม่ได้ ถ้าเราได้โอกาสเราจะต้องเข้มงวดกับพนักงาน และคัดกรองลูกค้า หมอนวดเองต้องใส่แมสก์ หรือเฟซชิลด์ ใส่ถุงมือ เราจะต้องควบคุมให้ได้เพื่อไปต่อ เพราะถ้าปล่อยให้มีคนติดเชื้อ 1 เคส จะยากแล้ว”

“ไม่ให้เปิดไม่ได้แล้ว ถ้าไม่เปิดต้องจ่ายค่าเช่า จ่ายค่าเสียหายให้ร้านเพราะรัฐสั่งปิด คุณรู้มั้ยว่าร้านนวดไทยที่จดทะเบียนถูกต้องมีทั้งหมด 15,000 ร้าน มีหมอนวดแผนไทยทั้งหมดเกือบ 400,000 คน ยังไม่ได้รวมที่ไม่จดทะเบียนอีก รวมแล้วหมอนวดไทยมีเป็นล้านคน เพราะฉะนั้นคุณจะให้เขาจมน้ำตายหรอ และอยากบอกว่า นวดแผนไทยเป็นมรดกโลก กว่าจะผ่านยูเนสโกมาได้ แล้วคุณจะให้มันหายไปได้อย่างไร คุณต้องรักษานวดแผนไทยให้สืบชั่วลูกชั่วหลานต่อไป จะต้องมาเยียวยาและปลดล็อกให้” เจ้าของร้านนวด ทิ้งท้าย

ภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก สปาศิราศรม_Spa Sirasom