ทนพิษโควิดไม่ไหว โรงแรม 5 ดาว ผุดบริการ “โฮเทลรับจ๊อบ” ราคาย่อมเยา หวังมีเงินเลี้ยง พนง.

ทนพิษโควิดไม่ไหว โรงแรม 5 ดาว ผุดบริการ “โฮเทลรับจ๊อบ” ราคาย่อมเยา หวังมีเงินเลี้ยง พนง.

โฮเทลรับจ๊อบ – ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ส่งผลให้ธุรกิจหลายๆ ธุรกิจต้องปิดให้บริการชั่วคราว ธุรกิจโรงแรม ถือเป็นธุรกิจหลักๆ ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ มีการปรับตัวกันไปหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่วิสัยทัศน์ของผู้บริหารในแต่ละที่

คุณเป้-เปเป้ อรุณานนท์ชัย วัย 25 ปี ทายาทเจ้าของโรงแรม สยาม แมนดาริน่า

คุณเป้-เปเป้ อรุณานนท์ชัย วัย 25 ปี ทายาทเจ้าของโรงแรม สยาม แมนดาริน่า ได้เล่าให้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” ฟังว่า โรงแรมแห่งนี้ เป็นธุรกิจของที่บ้านที่ผ่านการรีแบรนด์ ปรับปรุงใหม่ และเปิดให้บริการมานานกว่า 20 ปี มีจำนวนห้องที่สามารถรองรับลูกค้าได้กว่า 130 ห้อง และพนักงานในความดูแลอีกกว่าร้อยชีวิต ดำเนินกิจการเรื่อยมา จนกระทั่งมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จึงทำให้ธุรกิจโรงแรมต้องปิดให้บริการชั่วคราว

“โรงแรมของเราอยู่แถวๆ สนามบินสุวรรณภูมิ ปกติจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการตลอด ประมาณ 80-90% หลักๆ ก็จะเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี และนักท่องเที่ยวประเทศในโซนยุโรป อเมริกา แต่พอโควิดเข้ามา ช่วงเดือนแรกๆ ก็เริ่มมีลูกค้าน้อยลง ทัวร์จีนที่เป็นลูกค้าหลักของเราเขามาใช้บริการไม่ได้ ก็ยังมีเกาหลี ยุโรป อเมริกา แต่พอระบาดหนักๆ ทางการแต่ละประเทศก็สั่งปิดเมือง ปิดสถานที่เสี่ยง เดือนมีนา เมษาที่ผ่านมา กลายเป็นว่าเรามีลูกค้า 2-5 ห้องต่อวันเท่านั้น บางวันไม่มีเลยด้วยซ้ำ ทำให้โรงแรมเรามีรายได้ไม่พอกับค่าใช้จ่าย ก็เลยมีการประชุมกันแล้วตัดสินใจปิดโรงแรม เพื่อรักษากระแสเงินสดเอาไว้ดีกว่า” คุณเป้ เล่า

แต่ถึงจะปิดให้บริการไปชั่วคราว แต่ก็ยังมีลูกน้องอีกหลายชีวิต ที่เป็นหัวใจหลักของธุรกิจโรงแรม ไม่สามารถเลิกจ้างพวกเขาได้ ทางทีมผู้บริหารจึงปรับกลยุทธ์ใหม่ หารายได้เสริมจากทุกรูปแบบ จึงเกิดเป็น “โฮเทลรับจ๊อบ สต็อปโควิด” ขึ้น

“หลังปิดโรงแรมไป ลูกน้องบางส่วนเขาก็กลับบ้าน เราก็หันมาทำอย่างอื่นที่พอทำได้ ทั้งให้เชฟพ่อครัวในโรงแรมทำอาหารแล้วช่วยกันส่งดีลิเวอรี่ ข้างล่างโรงแรมมีคาเฟ่เล็กๆ เราก็ชูขึ้นมาเพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้ แต่พูดตรงๆ แล้ว มันก็ยังไม่ตอบโจทย์ เพราะราคาที่ค่อนข้างสูง อีกทั้งลูกค้าบริเวณนี้เป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้ตรงหรือสามารถซัพพอร์ตเรื่องราคาของเราได้ ก็เลยมานั่งคิดใหม่ มองใหม่ ดึงเอาคุณสมบัติและความสามารถของพนักงานที่เรามีออกมาให้ได้มากที่สุด ปรับตัวจากธุรกิจโรงแรมหันมารับจ้าง ทั้งทำความสะอาด ซักรีด งานซ่อมบำรุงทั่วไป เพื่อให้พนักงานทุกคนของเรามีรายได้ จริงๆ ผมว่าเราปรับตัวช้าด้วยซ้ำ เพราะไปทำอย่างอื่นอยู่ แต่เพราะพยายามดูให้ละเอียดว่าคนของเราทำได้จริงๆ ตอนนี้ก็ทำมาได้ 3 สัปดาห์กว่าๆ แล้วครับ ก็ถือว่าพอได้ มีลูกค้าเข้ามาเรื่อยๆ” คุณเป้ เล่ามาอย่างนั้น

อัตราค่าบริการสำหรับรีดผ้า เริ่มต้นที่ 400 บาท จำนวนไม่เกิน 30 ชิ้น ไปจนถึงราคา 700 บาท จำนวนไม่เกิน 60 ชิ้น ส่วนบริการทำความสะอาด คิดเป็นแพ็กเกจทำความสะอาดรายชั่วโมง 200 บาท/ชั่วโมง (ขั้นต่ำ 2 ชั่วโมง และราคาชั่วโมง/แม่บ้าน 1 คน) โดยค่าบริการไม่รวมค่าอุปกรณ์และน้ำยาทำความสะอาด หากเป็นบ้านหรือทาวน์โฮมขนาด 70 ตร.ม. ขึ้นไป ขั้นต่ำแม่บ้าน 2 คน/ชั่วโมง และบริการงานซ่อมบำรุง คิดราคาตามความยากง่ายของเนื้องาน

คุณเป้ ยังเผยอีกว่า รายได้หลักๆ แล้ว มาจากแม่บ้านทั้งสิ้น แต่รายได้ที่มีเข้ามาก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก ตนก็กำลังพยายามคิดวิธีใช้กำลังคนที่มีให้ได้มากที่สุด โดยมีการให้ฝ่ายห้องครัว คิดเมนูอาหารที่ราคาไม่แพง เหมาะกับผู้ที่อาศัยในย่านนี้ เป็นต้น

“รายได้หลักมาจากแม่บ้านครับ แต่ก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่เพราะเราอยู่แถวสุวรรณภูมิเลย ได้เงินมาก็เอามาหารกันทุกคน การเดินทางไปกลับสถานที่ที่ลูกค้าว่าจ้าง ก็มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม จริงๆ ตอนนี้โรงแรมไม่ได้หวังกำไรอะไรเลยครับ แค่ให้มีเงินเลี้ยงพนักงานของเราทุกคนได้ และเราไม่เจ็บตัวมากกว่านี้ก็โอเคแล้ว เพราะต่อให้โควิดมันจบลงหรือจะยังไงต่อ กว่าธุรกิจเศรษฐกิจจะกลับมาปกติได้ อย่างน้อยก็ใช้เวลา 2 ปี ผมก็พยายามมุ่งรับงานบริการที่เล่าให้ฟังไป แล้วก็คิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่เราสามารถทำได้ออกมาเรื่อยๆ ตอนนี้ก็วางแผนจะให้ฝ่ายเอชอาร์ ไปรับทำงานเอกสาร อย่างรับทำวีซ่าให้บริษัทอื่นๆ อะไรแบบนี้ และก็ว่าจะทำบริการเหล่านี้ให้มีแพลตฟอร์มที่เป็นระเบียบกว่านี้ หรือให้โรงแรมอื่นๆ ที่เขาเจอปัญหาแบบเรา เข้ามาทำงานร่วมกันครับ” คุณเป้ กล่าวทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น

หากใครสนใจ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ เฟซบุ๊กเพจ : โฮเทลรับจ๊อบ สต็อปโควิด หรือ Line ID : @Siammandarinahotel

 

เผยแพร่ครั้งแรก วันจันทร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ.2563