ผู้ปกครอง โพสต์ระบาย ‘เรียนออนไลน์’ ต้องหาเงินซื้อคอมพ์ให้ลูกไม่ใช่ถูกๆ

ผู้ปกครอง โพสต์ระบาย ‘เรียนออนไลน์’ ต้องหาเงินซื้อคอมพ์ให้ลูกไม่ใช่ถูกๆ

วันที่ 17 พ.ค. จากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้โรงเรียนต้องหยุดเรียนชั่วคราว ซึ่งต่อมากระทรวงศึกษาธิการได้เลื่อนเปิดเทอมจากเดือน พ.ค. เป็นวันที่ 1 ก.ค. 63 พร้อมกันทั้งประเทศ และให้เด็กนักเรียนเรียนออนไลน์แทน

โดยเมื่อหลายวันก่อน มีผู้ปกครองของเด็กนักเรียนรายหนึ่ง ออกมาโพสต์ข้อความเกี่ยวกับ การเรียนออนไลน์ ระบุว่า เรียนท่านผอ.ทุกโรงเรียน (ช่วยยื่นเรื่อง ความเดือดร้อนของผู้ปกครอง แก่ #กระทรวงศึกษาธิการ แทนผู้ปกครองด้วยค่ะ)

ดิฉัน ในฐานะผู้ปกครองของเด็กนักเรียนคนหนึ่ง มีความประสงค์ อยากให้ท่านผอ.ทุกโรงเรียน และ กระทรวงศึกษาธิการช่วยทบทวนเรื่องการสอน การเรียนออนไลน์ ใหม่ เนื่องจากดิฉันมองเห็นถึงความลำบากของพ่อแม่ผู้ปกครองหลายๆ ท่านด้วยกัน ท่านเหล่านั้นได้มานั่งระบายปลดทุกข์ ให้ดิฉันฟังหลากหลายเหตุผลที่ส่งผลกระทบต่อพวกเขา จึงขอยกตัวอย่าง ดังนี้

#ข้อ1.การที่จะมีการเรียนออนไลน์ได้นั้น เด็กนักเรียนจะต้องมีคอมพิวเตอร์ มีอินเตอร์เน็ต ซึ่ง ข้อนี้ ถือว่าสำคัญมาก หากไม่มีก็ไม่สามารถเรียนได้ นั้นหมายถึง บ้านไหนไม่มี 2 สิ่งนี้ ก็ต้องไปซื้อ เพื่อให้ลูกได้เรียน ซึ่งคอมพิวเตอร์ไม่ใช่ 10-20 บาท นะคะ เครื่องนึงเหยียบหมื่นบาท แต่ในทางกลับกัน ผู้ปกครองในเวลานี้ การงานแย่ ทำมาหากินตอนนี้ก็ลำบาก แล้วจะหาเงินจากที่ไหนมา

ลำพังจะหามาซื้อข้าวกินในแต่ละวันยังลำบากเลย แล้วถ้าบ้านไหน มีลูก 2-3 คน ไม่ต้องซื้อ 2-3 เครื่องเลยเหรอคะ เพราะต้องเรียนออนไลน์เหมือนกันและเป็นเวลาเดียวกัน พ่อแม่บางคนไม่อยากให้ลูกต้องด้อยกว่าคนอื่นๆ ยอมไปกู้หนี้ยืมสิน ร้อยละ 20 ก็ยอม เพื่อเอามาซื้อคอมพิวเตอร์ให้ลูกหลาน เพื่อลูกหลานจะได้เรียนเหมือนคนอื่นๆ

ลำพังหาเงินมาจ่ายค่าเทอม ค่าหนังสือ ค่าเสื้อผ้า อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ในเเต่ละเทอมก็แย่กันอยู่แล้ว นี้ยังต้องหาเงินมาผ่อนคอมพิวเตอร์อีก แบบนี้ดีแล้วเหรอคะ สรุป แผนการนี้ ใครได้ประโยชน์มากที่สุดคะ นักเรียนหรือผู้ปกครอง คำตอบ คือ ร้านขายคอมพิวเตอร์ กับ เครือข่ายอินเตอร์เน็ตจ้า รวย ซึ่งรวยมากอยู่แล้ว และรวยขึ้นไปอีก อีกแค่เดือนเดียว โรงเรียนก็จะเปิดแล้ว แต่ก็ยังต้องมาซื้อคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เรียนออนไลน์แค่ระยะ 1 เดือน เนี่ยนะคะ รบกวนทบทวนหน่อยค่ะ

#ข้อ2. การเรียนออนไลน์ หากไม่มีผู้ใหญ่คอยนั่งอยู่ใกล้ๆ คุณคิดว่า เด็กๆ จะไม่เปิดไปหน้าอื่นบ้างเหรอคะ เช่น youtube, เกม และอื่นๆ อีกมากมาย คุณคิดว่าเด็กๆ จะตั้งใจเรียนกันทุกคนเหรอคะ แล้วถ้าให้ผู้ปกครองคอยนั่งเฝ้าตลอดการเรียน แล้วผู้ปกครองจะเอาเวลาไหนไปทำงานหาเงินผ่อนคอมพิวเตอร์ที่เพิ่งซื้อมาคะ คุณว่ามั้ย

#ข้อ3. ในเด็กเล็ก เช่น อนุบาล 1-3 สมควรแล้วเหรอคะ ที่จะให้เด็กนั่งเรียนตรงหน้าจอนานๆ มีแต่ส่งผลเสียทั้งทางด้านสายตา สมาธิ ที่เด็กเล็ก ยังมีไม่มากพอ ที่จะอดทนนั่งฟังจนจบ

#ข้อ4. ผู้ปกครอง จ่ายเงินค่าเทอม แต่ต้องมานั่งสอนลูกตัวเองทั้งหมด ประเด็นคือ แล้วผู้ปกครองจะจ่ายค่าเทอมให้ทางโรงเรียนทำไมคะ หากต้องมานั่งสอนลูกแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเราจะสอนลูกเอง หรือเลี้ยงลูกเองไม่ได้ แต่เราจ่ายค่าเทอมให้โรงเรียนไปแล้วค่ะ เรียนออนไลน์ค่าเทอมก็ไม่ได้ปรับลดลงแม้แต่น้อย ยังคงจ่ายค่าเทอมเท่าเดิม

แล้วถ้ามีลูกหลายคนผู้ปกครองจะสอนทันมั้ยคะ ขณะที่กำลังเรียนออนไลน์พร้อมกัน (ข้อนี้หมายถึงเด็กเล็กค่ะ ที่ต้องคอยสอนกำกับตามหลังที่คุณครูสอน เพราะดิฉันมีลูกเล็ก เลยคิดว่าคงสอนคนเดียวไม่ทัน หากลูกเรียนพร้อมกัน)

#ข้อ5. ถ้าบ้านไหน ไม่ได้ให้ลูกเรียนออนไลน์ ด้วยเหตุผลจำเป็นของพวกเค้า คุณคิดว่า เด็กๆ จะอายเพื่อนมั้ย เมื่ออาย ผลต่อมาคือ เด็กไม่อยากไปโรงเรียนในวันข้างหน้า เก็บกด ต่างๆ นานา แล้วเด็กๆ ก็จะรบเร้าให้พ่อแม่ ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ ซึ่งเป็นสิ่งที่เด็กๆ ทุกคนพึงปรารถนาอยู่แล้ว ที่จะเอามาเรียน จะเอามาเล่นเกม จะเอามาดูหนัง คุณคิดว่าเด็กๆ ส่วนใหญ่จะเอามาทำอะไรมากกว่ากัน เมื่อเด็กๆ ได้คอมพิวเตอร์มา เด็กก็คือเด็กนั้นแหละค่ะ คงแยกแยะ เรื่องที่ควรทำ หรือ ไม่ควรทำ ได้ไม่มากพอ

(พูดง่ายๆ ว่า ผู้ปกครองบางท่านโดนบุตรหลานหลอกให้ซื้อคอมพิวเตอร์ให้ โดยเอาเรื่องเรียนออนไลน์ในครั้งนี้มาอ้าง) ในขณะที่พ่อแม่ไม่พร้อมทางด้านการเงินช่วงเศรษฐกิจแบบนี้เลย ก็ต้องหาวิธีต่างๆ นานา เพื่อไปซื้อมาให้ลูกให้ได้ ส่งผลกระทบตามมาเยอะแยะมากมาย ทั้งตัวเด็กนักเรียนและผู้ปกครองเอง

ด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ดิฉัน ขอให้ท่านผอ. ทุกโรงเรียนและกระทรวงศึกษาธิการ พิจารณาเรื่องนี้ด้วยค่ะ เพราะดิฉันคิดว่า มันส่งผลกระทบต่อผู้ปกครองหลายด้าน และที่กล่าวมานี้เป็นแค่บางส่วนที่ยกตัวอย่างให้เข้าใจ ยังมีอีกหลายเหตุผลที่ส่งผลกระทบ ว่าผู้ปกครองต้องรับศึกหนักแค่ไหนกับนโยบายการเรียนการสอนออนไลน์ที่พวกท่านได้จัดทำขึ้น ณ ตอนนี้

ด้วยความปรารถนาดี
รสนิสา บุญสุข (ผู้ปกครองนักเรียน)

ขอความกรุณา #รบกวนอ่านให้จบทุกบรรทัด ก่อนเเสดงความคิดเห็นนะคะ จะได้เข้าใจว่าผู้เขียนต้องการที่จะสื่ออะไรถึงใคร

ปล. หากผู้ปกครองท่านใดอ่านจบ และเห็นด้วย โปรดช่วยแชร์ ด้วยนะคะ เผื่อ ผอ. บางโรงเรียน และคณะกระทรวงศึกษาธิการ บางท่าน ได้อ่าน และเข้าใจถึงผลกระทบ ตรงนี้ #เพื่อจะได้ช่วยส่งเรื่องให้กระทรวงศึกษาธิการได้ทราบถึงผลกระทบที่กำลังเกิดขึ้นในสังคมปัจจุบันนี้

#ดิฉันเป็นแค่ประชาชนตัวน้อยๆ คงไปไม่ถึงกระทรวงศึกษาธิการ ฝากท่าน ผอ. นำเรียน กระทรวงศึกษาธิการด้วยนะคะ

(ข้อมูลที่บรรยายทั้งหมดนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงกับโรงเรียนที่อยู่ในตัวเมือง และเกิดขึ้นจริงกับโรงเรียนเอกชนหลายแห่ง เพราะโรงเรียนเอกชน มีหลักสูตรการสอนแต่ละโรงเรียนไม่เหมือนกัน จึงได้มีการสอนผ่านระบบ zoom ไม่สามารถดูการสอนผ่านดาวเทียมได้ หากอยากทราบว่าจริงหรือเปล่าที่กล่าวไป ให้เดินดูตามร้านขายคอมพิวเตอร์ได้เลยค่ะ คนเยอะมากค่ะ)