เลี้ยง “จิ้งโกร่ง” ขายกิโลละ 200 บาท อาชีพใหม่ ความหวังของชุมชน

เลี้ยง “จิ้งโกร่ง” ขายกิโลละ 200 บาท อาชีพใหม่ ความหวังของชุมชน

โครงการส่งเสริมการเลี้ยงจิ้งโกร่งคุณภาพต่อยอดอาชีพที่ยั่งยืน เป็นการดำเนินงานภายใต้วิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านแม่ตาด อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ สนับสนุนโดย ทุนพัฒนาอาชีพที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) เกิดจากแนวคิดการสร้างอาชีพให้กับผู้สูงอายุและผู้ด้อยโอกาสในชุมชน

คุณสิริพล เพียงโฉม ผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมการเลี้ยงจิ้งโกร่งคุณภาพต่อยอดอาชีพที่ยั่งยืน เล่าว่า โครงการนี้ ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุและคนด้อยโอกาสในชุมชนมีอาชีพมีรายได้เพิ่มขึ้น ซึ่งการเลี้ยงจิ้งโกร่ง ไม่ยากเกินศักยภาพและความสามารถของผู้สูงอายุ สามารถเลี้ยงได้บริเวณชานบ้าน ในชุมชนมีผู้มีประสบการณ์ที่เคยเลี้ยง และมีแหล่งอาหารสำหรับจิ้งโกร่ง อย่าง ผักอินทรีย์ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรอินทรีย์บ้านแม่ตาดปลูกอยู่ โดยการเลี้ยงจิ้งโกร่งใช้เวลาเลี้ยง 60 วัน เมื่อจิ้งโกร่ง โตพร้อมขายน้ำหนักอยู่ที่ 8 – 20 กิโลกรัมต่อบ่อ ราคาจำหน่าย 130 – 200 บาทต่อกิโลกรัม หากประสบผลสำเร็จจะสามารถสร้างรายได้ให้กลุ่มเป้าหมายคนละ  800 – 2,000 บาท ต่อการเลี้ยง 1 บ่อ ซึ่งในส่วนของการจำหน่ายก็ขึ้นอยู่กับความสมัครใจไม่ว่าจะขายเอง หรือหากขายผ่านโครงการก็จะมีการหัก 30% จากราคารับซื้อไว้เป็นเงินออม เพื่อเป็นสวัสดิการของกลุ่มสมาชิก

คุณสิริพล เพียงโฉม ผู้รับผิดชอบโครงการส่งเสริมการเลี้ยงจิ้งโกร่งคุณภาพต่อยอดอาชีพที่ยั่งยืน

คุณสิริพล กล่าวอีกว่า การหนุนเสริมของทุนพัฒนาอาชีพที่ใช้ชุมชนเป็นฐาน ทั้งเรื่ององค์ความรู้และเครื่องมือการทำกับชุมชน คือ หัวใจสำคัญ ที่จะทำให้ชาวบ้านมีทัศนคติต่อการฝึกทักษะอาชีพใหม่ๆ ดีขึ้น ไม่ต้องรอความช่วยเหลือเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งเชื่อว่าเมื่อจบโครงการคนเหล่านี้จะสามารถยืนอยู่ได้ด้วยศักยภาพและความสามารถของตนเอง

แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงกับเป็นอาชีพหลัก แต่การเลี้ยงจิ้งโกร่ง ถือเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เสริมได้แน่นอน โดยเฉพาะสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ในชุมชนมีหลายคนที่ตกงานกลับบ้านเริ่มให้ความสนใจ การเลี้ยงจิ้งโกร่ง จึงเป็นหนึ่งในความหวังของคนในชุมชน ทำให้เกิดบรรยากาศของชุมชนกลับมามีชีวิตชีวา เกิดการพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ และถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันในชุมชน

ด้าน คุณเสาร์คำ นันตาล หนึ่งในสมาชิกกลุ่มเป้าหมายของโครงการ เล่าให้ฟังว่า เดิมมีอาชีพทำของชำร่วยส่งให้ชุมชนบ่อสร้างหรือพ่อค้าจากภายนอกมานานกว่า 30 ปี มีรายได้ราว 10,000-13,000 บาทต่อเดือน  แต่เมื่อนักท่องเที่ยวเริ่มลดลง ความต้องการสินค้าน้อยลง ระยะหลังเริ่มขายไม่ค่อยได้ รายได้ลดลงมาก เรี่ยวแรงก็ไม่มากเหมือนแต่ก่อน จึงสนใจเข้าร่วมโครงการ เพราะคิดว่าน่าจะเป็นโอกาสใหม่ๆ ในชีวิต ที่จะได้มีช่องทางในการหารายได้เพิ่มมากขึ้น

คุณเสาร์คำ นันตาล

“ผมมองว่าวิธีการเลี้ยงจิ้งโกร่ง ไม่ยาก หากทำความเข้าใจกับระบบนิเวศของจิ้งโกร่งได้ก็เลี้ยงได้แล้ว ไม่ต้องออกแรงมาก แต่ต้องให้ความใส่ใจดูแล ตอนนี้เพิ่งเริ่มเลี้ยงยังตัวไม่โตนัก ตั้งเป้าไว้ว่าน่าจะขายได้ประมาณ 1,500-2,000 บาทในรอบแรก และจะลงทุนขยายการเลี้ยงเพิ่มขึ้นแน่นอน โดยจะเป็นผู้เผยแพร่ความรู้ในการเลี้ยงจิ้งโกร่ง ให้กับชาวบ้านที่สนใจด้วยตัวเองอีกด้วย” คุณเสาร์คำ บอกอย่างนั้น

ส่วน คุณจันทร์เพ็ญ มะลาง อีกหนึ่งในสมาชิกโครงการ เล่าว่า เธอมีอาชีพรับจ้างเย็บผ้าทั่วไปมีรายได้อยู่ที่ 5,000 บาทต่อเดือน ซึ่งเธอเคยบริโภคจิ้งโกร่งและจิ้งหรีดมาก่อน จนเกิดความหลงใหลในรสชาติ ประกอบกับแมลงซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนทางเลือก จึงสนใจเข้าร่วมโครงการเพราะต้องการเลี้ยงจิ้งโกร่ง ไว้เพิ่มความหลากหลายบนสำรับอาหาร เช่น การนำมาทอด คั่ว ยำ หรือใส่ลงไปในแกง และยังเกิดแนวคิดต่อยอดว่าอยากจะเลี้ยงจิ้งโกร่ง และนำมาทดลองแปรรูปเป็นน้ำพริกจิ้งโกร่งขาย ช่วยเพิ่มรายได้อีกทาง

โดย ล่าสุด คุณจันทร์เพ็ญ เก็บเกี่ยวผลผลิตจิ้งโกร่ง ที่เลี้ยงรอบแรกได้ทั้งหมด 5 กิโลกรัม แบ่งขายให้โครงการ 1 กิโลกรัม ซึ่งโครงการรับซื้อกิโลกรัมละ 130 บาท และแบ่งไว้บริโภคเองด้วยเพราะความชอบ เธอตั้งเป้าหมายว่าในรอบต่อๆ ไปเธออยากพัฒนาไปสู่การสร้างรายได้ราว 3,000-4,000 บาท ต่อรอบการเก็บเกี่ยว

 ขณะที่ คุณฟองจันทร์ ชัยวรรณ สมาชิกโครงการอีกท่านหนึ่ง  เล่าว่า เดิมเธอมีอาชีพรับจ้างเย็บผ้าซึ่งทำรายได้ 13,000-15,000 บาทต่อเดือน แต่ในระยะหลังมานี้กลับมีรายได้ลดลง ประกอบกับเธอเห็นโครงการนี้เป็นโอกาสที่ดีกับชาวบ้าน เพราะมีทั้งความรู้และงบประมาณสนับสนุน จึงประกาศผ่านเสียงตามสาย ส่งโอกาสดี ให้ลูกบ้านได้รับรู้และอาศัยการพูดบอกต่อกันเพื่อสร้างการรับรู้ ต้องยอมรับว่าคนในชุมชนยังประสบปัญหาเรื่องรายได้เป็นจำนวนมาก การเลี้ยงจิ้งโกร่ง เป็นอีกทางเลือกที่น่าจะสร้างรายได้เสริมให้เราได้

คุณฟองจันทร์ บอกด้วยว่า ล่าสุดเก็บเกี่ยวผลผลิตจิ้งโกร่งได้เกือบ 6 กิโลกรัม โดยแบ่งขายให้กับโครงการ และขายเองด้วยในราคากิโลกรัมละ 200 บาท และยังแบ่งไว้สำหรับบริโภค ในการเลี้ยงจิ้งโกร่ง รุ่นแรกนี้ เป็นการเริ่มต้นเรียนรู้สร้างรายได้ 800 บาท ในการขายรอบแรกซึ่งเธอตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะเพิ่มบ่อเลี้ยงเพื่อสร้างรายได้ราว 2,000-3,000 บาท ในการเลี้ยงรอบถัดไป

จิ้งโกร่ง

 สนใจลิ้มรส “จิ้งโกร่ง” สามารถสั่งแบบแช่แข็งไปทอดเองที่บ้านได้ ราคากิโลกรัมละ 200 บาท ไม่รวมค่าส่ง ติดต่อที่ 064-254-6239 หรือติดตามความเคลื่อนไหวโครงการที่ Facebook page มีรักฟาร์ม Organic Farm Stay