ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เจ้าสัวซีพี ฟันธง! จบโควิด “ธุรกิจท่องเที่ยว” แจ้งเกิด โรงแรมน้อยใหญ่ ต้องพร้อม
คุณธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ให้สัมภาษณ์ผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เมื่อวันที่ 16 เม.ย.ภายหลังเยี่ยมชมโรงงาน “ซีพีหน้ากากอนามัยฟรี เพื่อคนไทย” ที่ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ เกี่ยวกับมาตรการดูแลบุคลากรเครือซีพี ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ว่า พนักงานของซีพีในประเทศจีน 9 หมื่นคน ไม่มีใครตายแม้แต่คนเดียว เพราะได้รับการดูแลอย่างดี นี่คือความสำเร็จของซีพี แต่การที่เราจะทำสำเร็จได้นั้นต้องอาศัยคน การทำอะไรทุกอย่างต้องใช้คน ใครบอกหุ่นยนต์เก่งกว่าคนไม่จริง ยังไงคนก็สร้างหุ่นยนต์ รุ่นนี้สะสมหลายรุ่นที่เก่งขึ้น สุดท้ายพอมีรุ่นใหม่ก็เรียนรู้ต่อยอดอีก คนสร้างหุ่นยนต์มันจะไปเก่งกว่าคนได้ยังไง เพียงแต่คนมีการเสียชีวิต แต่หุ่นยนต์ไม่ตาย ซอฟต์แวร์อยู่ในหุ่นยนต์ คนใหม่ก็ต่อยอด เพิ่มเติมให้ดีกว่าเดิม สุดท้ายใครเป็นคนก็คนอีกนั่นแหละ
เมื่อถามว่า แล้วสวัสดิภาพของพนักงานทั่วโลก ควรดูแลกันอย่างไร ประธานฯ ซีพี บอก ทุกวิกฤตมีโอกาส ใครเจอวิกฤตแล้วอยู่รอด โอกาสจะมา ไม่รู้กี่เท่า ฉะนั้นต้องทำยังไงให้อยู่รอดตอนวิกฤต ช่วงนี้คนว่างงาน แต่ละองค์กร ควรใช้โอกาสนี้มาฝึกฝนคนของตน เพื่อเตรียมพร้อมช่วงหลังวิกฤต ยามคนอื่นอ่อนแอแต่เราเข้มแข็ง หลังวิกฤตวิ่งเลย เพราะพร้อมกว่าคนอื่น
“ซีพี ไม่มีนโยบายเลิกจ้างและดูแลพนักงานครอบครัวอย่างดี เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะคนเก่งหายาก มนุษย์วันนี้ยังสร้างหุ่นยนต์เก่งเท่าคนไม่ได้ นี่คือความสำเร็จของซีพีคือคน พูดเป็นหมื่นครั้งก็คน เรามีเทคโนโลยีใหม่ๆ ก็คือมนุษย์สร้าง สร้างเสร็จมนุษย์ก็เอาไปใช้ อย่าเข้าใจผิด ถ้าใช้ไม่เป็นก็ไม่มีวิญญาณ ก็ให้มนุษย์ใช้ สวมวิญญาณมนุษย์เข้าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ที่ศูนย์ผู้นำซีพีเน้นมากคือคน ไม่มีอะไรที่ไม่มีคนทำ จากคนทั้งนั้น นอกจากไม่มีการเลิกจ้างแล้ว ซีพียังประกาศจ้างคนอีกสองหมื่นคนที่บริษัทต้องดูแล นี่คือทรัพย์สมบัติอันล้ำค่าคือคน ต้องรักษาตรงนี้ไว้ ถ้าไม่มีคนบริษัทจะใหญ่โตได้อย่างไร” เจ้าสัวธนินท์ กล่าว
ทุกวันนี้ ผู้ประกอบการน้อยใหญ่มีปัญหากันมาก ในฐานะผู้นำธุรกิจ อยากจะแนะนำผู้ประกอบการเหล่านั้นอย่างไรบ้างในประเด็นการดูแลทรัพยากรคน คุณธนินท์ บอกต้องกลับมาที่ประเด็น ทำไมซีพี ไม่ต้องเลิกจ้างคน เพราะธุรกิจของซีพี เตรียมพร้อมอยู่ แต่บางธุรกิจไม่ได้นะ ไม่ใช่เขาไม่เก่ง อย่าง ธุรกิจท่องเที่ยว จะไปบอกว่า ไม่ต้องลดคนนะ ไม่ให้คนตกงานนะ ก็ไม่มีคนมาเที่ยว แล้วเงินเขามีจำกัด ก็จ่ายไม่ไหวสิ อย่าง อังกฤษชัดเลย รัฐบาลอังกฤษ บอกกับเจ้าของโรงแรม จะจ่ายให้พนักงาน 80 เปอร์เซ็นต์ แต่คุณห้ามเลิกจ้างพนักงาน แล้วหลังวิกฤต โอกาสมาแล้ว คุณค่อยไปจ่ายเงิน ทำไมรู้มั้ย ถ้าทำแบบนี้ ธนาคารไม่มีหนี้เสีย ประชาชนมีเงินจับจ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่มก็เพิ่ม คนไม่ตกงาน ขนส่ง ค้าขาย แม่ค้าหาบเร่ ยังมีคนซื้อ ไม่ใช่ความผิดของใคร วิกฤตมาจากโควิด ซึ่งไม่มีใครต้องการ แต่เมื่อมันมา เราห้ามไม่ได้ เพราะฉะนั้นรัฐบาลวันนี้ จะมีหนี้เท่าไหร่ก็ต้องให้เกิด แม้หนี้ระยะยาว 10-30 ปี ก็ก่อไปสิ ประเทศไม่ล้มละลาย ประเทศจะได้เงินอีกด้วย ถ้าเอาเงินเหล่านี้ทุ่มไป คนเลี้ยงครอบครัวได้ สังคมไม่ได้เดือดร้อน ทุกอย่างอยู่รอด ภัตตาคาร แท็กซี่ แม่ค้าหาบเร่ โรงแรมเอย แม้ว่าวันนี้ไม่มีคนท่องเที่ยว ก็มีเงื่อนไขว่ายังจ่ายเงินเดือน แต่คนก็อย่าอยู่เฉยๆ ต้องฝึกอบรม เตรียมพร้อมหลังวิกฤตว่าจะทำให้ดีกว่าเดิมอย่างไร คุณต้องเปลี่ยนแปลงหลังวิกฤต ให้คนพักมีความเชื่อมั่นว่าไม่ จะติดโรคจากโรงแรมคุณ ไม่ใช่เอาหมอนเก่าเปลี่ยนแต่ปลอก แต่คุณจะทำยังไงให้ฆ่าเชื้อที่ตัวหมอนด้วย
“มีหลายเรื่องที่โรงแรมต้องเตรียมพร้อม ถ้าใครสร้างความเชื่อมั่นให้แขกได้ว่าจะไม่ติดเชื้อจากโรงแรม ทั้งโควิด โรคผิวหนัง และโรคอื่นๆ ผ้าเช็ดตัวคุณทำยังไง ฆ่าเชื้อยังไง ผ้าเช็ดโต๊ะ เช็ดถ้วย วันนี้ต้องชัดเจน รัฐบาลไม่ได้จ่ายเงินฟรีแล้วคุณอยู่เฉยๆ คุณต้องไปออกกำลังกายให้เข้มแข็ง คุณต้องยิ้มกับลูกค้า จุดอ่อนเรามีอะไร ที่อื่นที่คนนิยมเขาทำกันยังไง รัฐบาลจ่ายเงินหนึ่งล้านล้านออกไปไม่เสียเปล่าหรอก ไปสะพัดในสังคม หมุนสิบรอบก็สิบล้านล้าน สุดท้ายรัฐบาลก็ได้ภาษีกลับ คนไม่ต้องว่างงาน เผลอๆ เราอาศัยประเทศเราหมุนเวียนก็พอจะอยู่รอดแล้ว” เจ้าสัวซีพี อธิบายเห็นภาพ
และว่าต่อ อย่าง ภัตตาคาร อย่าอยู่เฉยๆ ถ้าไม่มีลูกค้า ก็ส่งไปถึงบ้านเขาสิ เขาไม่มาเราก็ต้องไปหาเขา รัฐบาลไม่ได้ห้ามไปส่งถึงบ้าน แล้วลูกค้าเราอยู่ไหน เราก็รู้ ในยามที่เขาไม่อยากออกมา เพราะกลัวติดเชื้อ อย่างนี้ส่งถึงบ้าน พนักงานภัตตาคารอย่าปล่อยให้เขาว่างเปล่า เครื่องครัวก็พร้อม คุณก็ทำปกติ แล้วเอาไปขายถูกๆ หลายคนว่างเปล่าอยู่ ทั้งที่ครัวมี ทุกอย่างพร้อม ลูกค้าพร้อม
“ภัตตาคาร อย่าไล่พนักงานออก มีครัว ก็ทำอาหารเลี้ยง ขายให้พนักงานถูกๆ เอากลับบ้านไปเลี้ยงลูกเมีย แล้วให้พนักงานไปส่งถึงบ้าน ลูกค้าขาดอะไรก็ซื้อไปให้ ซื้อใจ ให้เขาเห็นว่ายามวิกฤตคุณดูแลผม หลังวิกฤตเขาก็ต้องมาหาคุณ แต่บางธุรกิจก็ทำแบบนั้นไม่ได้ อย่างโรงแรมไม่รู้จะเอาห้องไปทำไร ถ้าผมเป็นรัฐบาลวันนี้ ต้องคิดว่าทำยังไง ให้คนมาท่องเที่ยวแล้วปลอดภัย อาจทำทั่วประเทศไม่ได้ แต่มีจังหวัดไหนมั้ยทำให้ปลอดจากโควิดได้ แล้วไปชักชวนคนมีเงินทั่วโลก มาพักอาศัยเพื่อหลีกเลี่ยงความตาย” เจ้าสัวซีพี บอกอย่างนั้น
เมื่อถามว่า หลังจบโควิด คิดว่าธุรกิจไหนจะแจ้งเกิด เจ้าสัวซีพี บอก ธุรกิจท่องเที่ยว จะได้เงินทันตาเห็นและเร็ว เพราะยังมีคนรวยเยอะ แล้วในโลกมีเจ็ดพันกว่าล้าน แบ่งเป็นท่องเที่ยวเท่าไหร่ ท่องเที่ยวจะมาเร็วสุด เพราะพื้นฐานเมืองไทยเยี่ยมอยู่แล้ว พอวิกฤตแบบนี้ รัฐบาลทุ่มเงินให้เกิดการจ้างงาน พัฒนาเปลี่ยนแปลงให้ทันสมัย ทำให้สวยงาม เงินนี้จ่ายไปเถอะ แล้วรักษาโรงแรม รักษาพวกที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจตัวนี้ให้อยู่รอด แล้วต้องรีบไปชักชวน ตั้งเป้าเลยทำยังไงให้สิ่งแวดล้อมตรงนี้ไม่ติดเชื้อ ให้คนมาเที่ยวปลอดภัย ตรงนี้ช่วยกันคิด หลังวิกฤตต้องมีโอกาส แล้วใครฉวยโอกาสนี้ได้ก่อน คนนั้นจะเป็นผู้ชนะ