ขาดรายได้เพราะโควิด! เจ้าของร้านตัดผมเผยลงทะเบียน ‘เราไม่ทิ้งกัน’ แล้ว แต่เงินยังไม่เข้า 

ภาพจาก เพจ hairintrend.com home salon

ขาดรายได้เพราะโควิด! เจ้าของร้านตัดผมเผยลงทะเบียน ‘เราไม่ทิ้งกัน’ แล้ว แต่เงินยังไม่เข้า 

หลังรัฐบาลออกประกาศปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่มเติม หนึ่งในนั้นมี กิจการร้านเสริมสวย รวมอยู่ด้วย โดยล่าสุดพบว่ามีบางจังหวัดเริ่มผ่อนปรนอนุญาตให้กลับมาเปิดกิจการได้บ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตามยังมีร้านเสริมสวยอีกหลายแห่งที่ยังปิดให้บริการอยู่ แน่นอนว่าผู้ที่เป็นเจ้าของร้านและลูกจ้างยังคงได้รับผลกระทบ

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ สอบถามไปยัง คุณเต้ – คงยศ มะโนน้อม เจ้าของร้านแฮร์อินเทรนด์ ดอทคอม ซึ่งเปิดกิจการแบบ “Home Salon-ทำที่บ้าน” โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก คือ กลุ่มผู้ป่วยที่ต้องการซื้อหาวิกที่ทำจากเส้นผมธรรมชาติร้อยเปอร์เซ็นต์ และ กลุ่มลูกค้าที่ต้องการมาตัดผมเพื่อบริจาค

อ่านเรื่องราวเพิ่มเติม กรุณาอ่าน ก่อนตัดผมบริจาค! คำแนะนำดีๆจาก “แฮร์อินเทรนด์ ดอทคอม”

คุณเต้ เผยว่า ก่อนหน้านี้ได้ประกาศปิดร้านชั่วคราวผ่านเพจเฟซบุ๊ก ตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม ถึง วันที่ 12 เมษายน 2563 ตามประกาศคำสั่งปิดสถานที่บริการชั่วคราวของกรุงเทพมหานคร ต่อมาได้ขยายเวลาเป็นตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม จนถึงวันที่ 30 เมษายน 2563 ตามประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

“ปกติร้านเราจะให้บริการกับลูกค้าที่จองคิว ซึ่งช่วงนี้ปิดให้บริการเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ณ ตอนนี้ยังมีลูกค้าที่มีความต้องการจะบริจาคผม โทรมาสอบถามจำนวนมาก แต่เราไม่สามารถให้บริการได้”

ถึงแม้จะขาดรายได้จากการปิดร้านชั่วคราว แต่คุณเต้ บอกว่า ตนไม่ได้มีค่าใช้จ่ายเยอะ เนื่องจากร้านทำผมเปิดที่บ้าน และมีลูกน้องเพียงหนึ่งคน

“ตั้งแต่ปิดร้านรายได้หายไปทั้งหมด อาจจะได้จากการทำวิกส่งให้ลูกค้าบ้างแต่ไม่มาก เรายังไม่คิดเรื่องไปให้บริการถึงบ้าน เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงพีกของโรค ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าลูกค้าแต่ละคนไปไหนมาบ้าง ต้องรอให้เหตุการณ์คลี่คลาย ให้สบายใจกว่านี้ก่อน เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นจะลำบาก เสี่ยงมากที่จะติดเชื้อ และถึงแม้เหตุการณ์จะกลับมาเป็นปกติแล้วร้านยังคงไม่เปิดเลยเดี๋ยวนั้น อยากรอดูอีกสัก 15 วันให้มั่นใจก่อน”

ถามถึงการลงทะเบียน “เราไม่ทิ้งกัน” รับเงินเยียวยา 5,000 บาทจากรัฐบาล คุณเต้ระบุว่า ได้ลงทะเบียนไปตามสิทธิ์ที่ตนเองมี ตอนนี้ยังไม่ได้รับเงินเยียวยา รอให้รัฐประเมินไปตามความเหมาะสม เพราะต้องยอมรับว่ามีผู้คนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากวิกฤตนี้