สถานบันเทิง ชี้! ไม่ปิดตอนนี้ อาจไม่มีอะไรให้ปิด ต้องยอมเจ็บ เพื่อรักษาประเทศ

สถานบันเทิง ชี้! ไม่ปิดตอนนี้ อาจไม่มีอะไรให้ปิด ต้องยอมเจ็บ เพื่อรักษาประเทศ

คุณปกรณ์กิตติ์ นนท์ธนาวงศ์  หุ้นส่วนสำคัญกิจการ “อีสานตะวันแดง สาดแสงเดือน” ย่านคลองตัน กรุงเทพฯ ให้สัมภาษณ์ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” กรณี กิจการในความดูแล ได้แจ้งทำการหยุดให้บริการชั่วคราว ตามแถลงการณ์ของรัฐบาล ล่าสุดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา และจนกว่าจะมีการประกาศเปิดให้บริการอีกครั้งว่า ร้านอีสานตะวันแดงฯ เปิดให้บริการมานานราว 24 ปีแล้ว ปัจจุบันมีวงดนตรีหนึ่งวงใหญ่ นักร้องชายหญิง ประมาณ  40 คน และพนักงานเสิร์ฟอีกราว 30 คน

ส่วนการที่รัฐบาลมีมาตรการให้ปิดสถานบันเทิงยามค่ำคืน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 นั้น เขามองว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนส่วนใหญ่  ไม่ว่าเป็นใครก็ต้องยอมเสียสละ เพราะถ้าปล่อยไปเรื่อยๆ เสียหายมากขึ้นๆ เมื่อถึงวันนั้น คงไม่มีสถานบันเทิงอะไรให้ปิดอีกแล้ว

“เรื่องนี้ มันเจ็บกันทุกคนแหละครับ ผมรับรองได้ แต่ถ้าไม่เจ็บตอนนี้ ต่อไปจะยิ่งหนัก เมื่อถึงจุดที่เอาไม่อยู่ ความเสียหายคงไม่ใช่เฉพาะตัวเรา ไม่ใช่เฉพาะธุรกิจของเรา แต่ประเทศจะยิ่งแย่” คุณปกรณ์กิตติ์ บอกอย่างนั้น

และว่า

“เหตุการณ์โควิด-19 ย่อมมีผู้คนจำนวนหนึ่งที่ขาดรายได้ เรียกว่ากระทบกันแทบทุกอาชีพ ไม่เฉพาะคนทำงานในสถานบันเทิง ซึ่งผลที่ตามมาคืออะไร รถที่ผ่อน บ้านที่ผ่อนอยู่ จะเอาเงินที่ไหนมาผ่อน  รัฐบาลเองน่าจะมองเห็นปัญหานี้  และมีมาตรการบังคับกลุ่มธนาคารหรือบริษัทไฟแนนซ์  ให้เข้ามาช่วยด้วยอีกทางหนึ่ง เพื่อให้มันสอดคล้องกัน อย่างน้อยตอนนี้หยุดเก็บก่อนได้มั้ยเพราะลูกหนี้หยุดงาน แต่เจ้าหนี้ไม่หยุด จะสมดุลกันได้ยังไง เป็นไปไม่ได้เลย หากรัฐไม่เข้ามาดูแล ผลที่จะตามมาก็คือ อีก 3-4 เดือนข้างหน้า จะมีหนี้สูญ มีคนโดนฟ้อง โดนยึดรถ ยึดบ้าน กันมหาศาล”

เมื่อถามถึงการปรับตัวเพื่อประคองธุรกิจที่ดูแลอยู่ คุณปกรณ์กิตติ์ บอกว่า ปิดก็ต้องปิดเลย เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนมาขายตอนกลางวัน เพราะสถานที่เป็นสถานที่ปิด ไม่อำนวยต่อการให้คนมารวมตัวกันมากๆ อยู่แล้ว  และ กลุ่มลูกค้าของเขาซึ่งเป็นสถานบันเทิง จะให้เปลี่ยนมาขายข้าวแกง คงไม่มีใครมากิน

“ตอนนี้ ลูกน้องต้องแยกย้ายกันไปก่อน ถึงเวลาที่ต้องบาดเจ็บทุกคน แต่จะเจ็บมาก เจ็บน้อย แตกต่างกันไป ปัญหาอยู่ที่ว่า มันปิดไปนานแค่ไหน แค่ไหนถึงจะปลอดภัย สองอาทิตย์อยู่มั้ย  ตรงนั้นอาจยังไม่มีใครตอบได้ ปัญหาตอนนี้ เกิดจากความไม่เด็ดขาดของรัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ถ้ามีมาตรการที่ดีตั้งแต่แรก น่าจะเอาอยู่ ตอนนี้ประชาชน ผู้ประกอบการ เลยต้องพากันเดือดร้อน และรับกรรมกันไป” คุณปกรณ์กิตติ์ กล่าวทิ้งท้าย