เตือนอีกรอบ! ตุนหน้ากากอนามัยมีความผิด ด้านรัฐบาลปัดทุกข้อกล่าวหา! ไม่มีเอี่ยวกักตุน

เตือนอีกรอบ! ตุนหน้ากากอนามัยมีความผิด ด้านรัฐบาลปัดทุกข้อกล่าวหา! ไม่มีเอี่ยวกักตุน

ตุนหน้ากากอนามัย – ถูกเพจดังออกมาแฉว่า มีเอี่ยวกักตุนหน้ากากอนามัยส่งขายนายทุนจีน สำหรับคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยข้อมูลระบุว่า เป็นทีมงานของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า กักตุนหน้ากากอนามัย 200 ล้านชิ้น ไปขายให้นายทุนประเทศจีนและผู้อื่น

ล่าสุด รมช. ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ชี้แจงสื่อมวลชนตามที่ปรากฏข่าวจากการเผยแพร่ของเพจแหม่มโพธิ์ดำ  4 ข้อดังนี้

  1. จากการตรวจสอบพบว่าผู้กักตุนและขายหน้ากากอนามัยคือ นายศรสุวีร์ ภู่รวีรัศวัชรี ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับข้าพเจ้า
  2. ส่วน นายพิตตินันท์ รักเอียด ซึ่งเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้านั้น ได้ยืนยันกับข้าพเจ้าว่าตนได้ไปพบกับนายศรสุวีร์ตามคำแนะนำของเพื่อนเพื่อพูดคุยเรื่องหน้ากากอนามัยจริง โดยได้ไปพบกันที่โรงแรมแมริออท (ประตูน้ำ) กรุงเทพมหานคร แต่ไม่ได้มีการซื้อขายหน้ากากอนามัยกัน และไม่เคยรู้จักกันกับนายศรสุวีร์มาก่อน โดยเป็นการพบกันครั้งแรก
  3. เพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ในเรื่องนี้ ข้าพเจ้าได้ขอให้นายพิตตินันท์ไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับนายศรสุวีร์ในความผิดฐานกักตุนหน้ากากอนามัยและขายสินค้าเกินราคา และในความผิดที่ถูกนายศรสุวีร์แอบอ้างนำข้อความไปโพสต์ดังกล่าว พร้อมกับให้นำหลักฐานการแจ้งความมาแถลงข่าวเพื่อให้ผู้สื่อข่าวได้ตรวจสอบอีกทางแล้ว โดยนายพิตตินันท์จะดำเนินการในวันนี้
  4. อนึ่ง นายพิตตินันท์ รักเอียด เคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 6 จังหวัดสุราษฎร์ธานี พรรคพลังประชารัฐ ได้ขอมาเป็นคณะทำงานของข้าพเจ้าจริง แต่หากพบว่านายพิตตินันท์ได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดของนายศรสุวีร์ดังกล่าว ข้าพเจ้าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือดำเนินคดีกับนายพิตตินันท์ทันที

ขณะที่ เฟซบุ๊ก ไทยคู่ฟ้า ออกย้ำเตือน! ว่า หน้ากากอนามัยเป็นสินค้าควบคุม หากมีพฤติกรรมกักตุนจะถูกดำเนินคดีทันที หรือขายที่ราคาสูงเกินสมควรที่มีเจตนาจะสร้างความปั่นป่วน (ผิดตามมาตรา 29) มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท


#ไทยคู่ฟ้า ผู้ที่มีพฤติกรรมดังต่อไปนี้ จะถูกดำเนินคดีในการกักตุนหน้ากากอนามัย ได้แก่ 1. เก็บสินค้าไว้ที่อื่นนอกเหนือจากที่ที่แจ้งเจ้าหน้าที่ 2. ไม่นำหน้ากากที่มีอยู่ออกมาจำหน่าย 3. ปฏิเสธการจำหน่าย 4. ประวิงการจำหน่าย 5. ส่งมอบหน้ากากอนามัยโดยที่ไม่มีเหตุผลสมควร ผู้กักตุนหรือขายที่ราคาสูงเกินสมควรที่มีเจตนาจะสร้างความปั่นป่วน (ผิดตามมาตรา 29) มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท โดยปริมาณการครอบครองสูงสุดยังไม่มีการกำหนด เนื่องจากเกรงว่าจะกระทบกับผู้บริสุทธิ์ทั่วไป ที่จำเป็นต้องเก็บหน้ากากอนามัยไว้สำหรับปฏิบัติภารกิจ เช่น สถานพยาบาล ซึ่งหากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงก็จะมีการเปลี่ยนคำสั่งอีก ทั้งนี้ ผู้ขายเกินราคา (แต่ไม่เกินสมควร) จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท