คุมเข้ม ผดส. ประเทศเสี่ยง! คมนาคม ประกาศ ต้องโชว์ปลอดโควิด-19 กักตัว ไม่งั้นห้ามเข้า!

คุมเข้ม ผดส. ประเทศเสี่ยง! คมนาคม ประกาศ ต้องโชว์ปลอดโควิด-19 กักตัว ไม่งั้นห้ามเข้า!

คมนาคม – นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เผยว่า เมื่อวันที่ 8 มี.ค. ที่ผ่านมา นายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ลงนามออกประกาศ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่อง แนวปฏิบัติสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศ (สายการบิน) เกี่ยวกับการให้บริการ จากท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ความว่า

ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยคำแนะนำของคณะกรรมการโรคติดต่อ แห่งชาติ ได้ประกาศให้โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เป็นโรคติดต่ออันตราย ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และกระทรวงสาธารณสุขได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ท้องที่นอกราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) พ.ศ. 2563

กำหนดให้ท้องที่นอกราชอาณาจักร ได้แก่ สาธารณรัฐเกาหลี (Republic of Korea) สาธารณรัฐประชาชนจีน (People’s Republic of China) รวมถึงเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (Macao) และเขตบริหารพิเศษฮ่องกง (Hong Kong) สาธารณรัฐอิตาลี (Italian Republic) และสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน (Islamic Republic of Iran) เป็นเขตโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นั้น

เพื่อเป็นแนวทางสำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศ ในการปฏิบัติการบินระหว่างท้องที่ดังกล่าว
และเพื่อสนับสนุนการตำเนินมาตรการเฝ้าระวังป้องกันโรคของประเทศ สำนักงานการบินพลเรือน
แห่งประเทศไทย จึงประกาศแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศ เกี่ยวกับการให้บริการจากท้องที่นอก ราชอาณาจักรที่เป็นเขตติดโรคติดต่ออันตราย กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ดังต่อไปนี้

1.ในกรณีที่กระทรวงสาธารณสุข ได้กำหนดให้ท้องที่นอกราชอาณาจักรใดเป็นเขตติดโรคติดต่ออันตรายกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากท้องที่นั้น ต้องได้รับการกักตัว (quarantine) และอยู่ภายใต้มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออย่างอื่น ตามที่รัฐบาลกำหนด

2.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ให้บริการจากสถานีต้นทางในท้องที่ที่เป็นเขตโรคติดต่อ ทำการคัดกรองผู้โดยสารโดยในเวลาแสดงตัวเพื่อออกบัตรขึ้นเครื่อง (Check in) โดยตรวจสอบใบรับรองแพทย์ (Health Certificate) เพื่อยืนยันว่าผู้โดยสารไม่มีความเสี่ยงจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หากผู้โดยสารไม่สามารถแสดงใบรับรองแพทย์ดังกล่าวได้ ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่อง (Boarding Pass) ให้แก่ผู้โดยสารนั้น

3.ผู้ดำเนินการเดินอากาศอาจพิจารณาใช้มาตรการตาม ข้อ 2 ในการคัดกรองผู้โดยสารจากสถานีต้นทางในประเทศและเขตปกครองพิเศษที่มีรายงานจากกระทรวงสาธารณสุข หรือ World Health Organization ว่าพบผู้ติดเชื้อโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เมื่อได้ตรวจสอบใบรับรองแพทย์ (Health Certificate) และออกบัตรขึ้นเครื่องให้ผู้โดยสารแล้ว ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศ จัดให้ผู้โดยสารกรอกข้อมูลตามแบบ ต.8 ตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 และยื่นต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศที่สนามบินปลายทาง

4.เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีอำนาจออกคำสั่งตามความในพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ดังต่อไปนี้
(1) ห้ามผู้ใดเข้าไปในหรือออกจากอากาศยานที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ซึ่งยังไม่ได้รับการตรวจจากเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรดดิดต่อระหว่างประเทศ
(2)ห้ามนำพาหนะอื่นใดเข้าเทียบอากาศยานที่เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
(3)ดำเนินการหรือออกคำสั่งเป็นหนังสือให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก) กำจัดความติดโรค เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ของโรคจัดให้อากาศยานจอดอยู่ ณ สถานที่ที่กำหนดให้ จนกว่าเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศจะอนุญาตให้ไปได้
(ข) ให้ผู้เดินทางซึ่งมากับพาหนะนั้นรับการตรวจในทางแพทย์และอาจให้แยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ณ สถานที่และระยะเวลาที่กำหนด

5.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศจะต้องเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการขนส่งผู้เดินทางซึ่งมากับอากาศยานนั้น เพื่อแยกกัก กักกัน คุมไว้สังเกต หรือรับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ตลอดจนออกค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงดู การรักษาพยาบาล การป้องกันและควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ

6.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศแจ้งปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดต่ออันตราย และมาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดต่ออันตรายตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนดตามความใน
พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 โดยเคร่งครัด

7.ให้ผู้ดำเนินการเดินอากาศ แจ้งแนวปฏิบัติดังกล่าวให้เจ้าหน้าที่ประจำสถานีต้นทาง และเจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานให้หราบและถือปฏิบัติ และให้เจ้าหน้าที่ประจำอากาศยานประกาศเพิ่มเติมบนอากาศยานให้ผู้โดยสารทราบโดยทั่วกัน