อยุธยาทำบายพาสต้นมะขามยักษ์ 300 ปี คาด 1 เดือน กลับมางอกงามได้อีก

วันที่ 7 พฤศจิกายน  จากกรณีต้นมะขามขนาดใหญ่ อยู่ภายใน โบราณสถานวัดบรมพุทธาราม  อยู่ในรั้วมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา มีอายุกว่า 300 ปีลำต้น 10 คนโอบ สูงประมาณ 20 เมตร  โค่นล้มลง ลำต้นและกิ่งพาดไปถูกตัวเจดีย์ได้รับความเสียหาย  นับว่าต้นมะขามต้นนี้เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่อันดับ 6 ของประเทศที่เข้าร่วมประกวด ของกรมป่าไม้ และเป็นต้นมะขามที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ  ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นายสุจินต์ ไชยชุมศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ดร.คงศักดิ์ มีแก้ว นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ กรมทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เจ้าหน้าที่กรมศิลปากร เจ้าหน้าที่เทศบาลนครพระนครศรีอยุธยา ร่วมกันทำบายพาสต้นมะข้าม โดยทำการตัดกิ่งก้านเดิมออกแล้วใช้เครนยกลำต้นขึ้นตั้งลำต้นปลูกไว้ที่เดิมแล้วใช้ต้นมะขามขนาดเล็กล้อมเอาไว้นำลำต้นขนาดเล็กทาบกับต้นเดิมเพื่อใช้ให้ต้นมะขามเล็กเป็นตัวในการสูดซับเอาแร่ธาตุมาเลี้ยงต้นมะขามใหญ่ ซึ่งรากได้ขาดไปไม่สามารถที่จะสูดซับเอาแร่ธาตุได้สะดวก

นายสุจินต์ กล่าวว่า ต้นมะข้ามต้นนี้อยู่คู่กับพระนครศรีอยุธยา เป็นต้นมะขามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เมื่อเกิดเหตุโค่นล้มลง สร้างความเสียใจและเสียดายให้กับชาวจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อยากให้ทำการอนุรักษ์เอาไว้ หลายหน่วยงานจึงได้ร่วมกันตรวจสอบแล้วพบว่าต้นมะขามสามารถฟื้นฟูได้จึงได้เริ่มดำเนินการ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน ต้นมะขามต้นนี้จะสามารถเจริญงอกงามได้และอยู่คู่กับพระนครศรีอยุธยา ต่อไป

 

 

ที่มา มติชน