ทำเดือดร้อนหนัก ทั้งสองฝั่ง! บริษัท – ลูกทัวร์ วอนหา “เจ้าภาพใหญ่” แก้ปัญหาด่วน

เรียกว่าเวลานี้ ความเดือดร้อนกำลังกระทบกัน เป็น “โดมิโน” ล้มครืนตามกัน สำหรับกรณีการระบาดของไวรัส COVID-19 หลายชีวิตต้องสังเวยกันไปแล้วมากมาย ในหลายประเทศ

ซึ่งในส่วนของไทยเอง แม้ยังไม่พบตัวเลขผู้เสียชีวิต แต่วิกฤตครั้งนี้ ก็หนักหนาสาหัสอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในแวดวงธุกิจ ที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางและการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นสายการบิน โรงแรม ร้านอาหาร สปา รถตู้รับส่ง ฯลฯ

และที่เห็นจะได้รับผลกระทบ “ตรงๆ เต็มๆ”  คงหนีไม่พ้นบริษัททัวร์ ทั้งหลายนั่นเอง ซึ่งล่าสุดได้มีตัวแทนออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นับตั้งแต่  กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, กรมควบคุมโรค, กระทรวงสาธารณสุข, AOT Official และหน่วยงานอื่นๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้ามามีบทบาทให้ชัดเจนมากกว่านี้ ไม่ใช่มีแต่คำแนะนำที่สร้างความหวาดกลัว แต่ไม่มีการตัดสินใจที่เด็ดขาดและชัดเจนให้กับผู้ประกอบการและประชาชน

ตัวแทน บริษัทนำเที่ยว Unithai Trip โพสต์ผ่านเพจทางการของบริษัทอีกว่า อยากให้หน่วยงานภาครัฐที่มีอำนาจเกี่ยวข้องกับปัญหาครั้งนี้ เข้ามาช่วยเหลือและจัดการอย่างเป็นรูปธรรม  เช่น การยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ให้แก่สายการบินเพื่อให้หยุดบินทันที หรือ ออกประกาศ โดยมีคำสั่งชัดเจนว่าห้ามออกเดินทางไปยังประเทศที่สุ่มเสี่ยง  เพื่อเป็นแนวทางให้กับสายการบิน ทัวร์กลาง และเอเยนซี่ทั้งหลาย ได้ปฏิบัติตามต่อๆ ไปในแนวทางเดียวกัน

“เราเองไม่ทราบในข้อกฎหมายหรือขอบเขตอำนาจที่ท่านสามารถทำได้ เป็นแค่กระบอกเสียงเล็กๆ แต่อยากให้ท่านลงมาดูแลในความกลัวและความวุ่นวายนี้จริงๆ เช่น ปัญหา ณ ตอนนี้ หลายสายการบิน ออกมาบอกให้เลื่อนตั๋วเดี่ยวได้ให้ลูกค้าเลื่อนได้เลย ในขณะที่ตั๋วกรุ๊ปยังไม่ได้ แต่ไม่มีการชี้แจงที่ชัดเจนให้ประชาชนทราบ ซึ่งก็สร้างความเข้าใจผิดให้ลูกค้ามาถล่มที่บริษัททัวร์ว่าไม่ช่วยเหลือ ไม่มีความเป็นคน” โพสต์ของบริษัททัวร์ Unithai Trip ว่าไว้อย่างนั้น

ก่อนยังระบุต่ออีกว่า ขณะนี้ บางองค์กรไม่ว่าภาครัฐหรือเอกชนมีจดหมายออกมาโดยที่เนื้อหาระบุว่า ห้ามไป หรือ ไปแล้วต้องหยุดทันที่ 14-20 วัน บังคับใช้วันลาทันที ซึ่งลูกค้าก็แจ้งมาเป็นจำนวนมาก ในขณะที่ยังไม่ได้ข้อสรุปอะไรจากสายการบินแบบที่ชัดเจน จึงอยากขอความกรุณาให้หน่วยงานรัฐ รีบประชุมและสรุปออกมา ให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติตาม และออกมาในรูปแบบเดียวกัน โดยคำนึงถึงความปลอดภัย รวมถึงมีมาตรการเยียวยาช่วยเหลือภาคเอกชนและประชาชนอย่างชัดเจน หรือหากท่านมองว่าจะส่งผลยาวกระทบถึงอนาคต อาจจะทำให้ช่วงเทศกาลสำคัญของเศรษฐกิจไทยอย่างร้ายแรง เช่น ช่วงสงกรานต์จะกลายเป็นความเงียบเหงา เศรษฐกิจยิ่งพังไปใหญ่ ก็รีบตัดไฟแต่ต้นลมเพื่อทำให้เมืองไทย Clean ที่สุด และสงกรานต์ก็ยังเป็นประเทศที่มาได้และปลอดภัย

“เรา เป็นหนึ่งในผู้ได้ผลกระทบอย่างรุนแรง ประเทศเราเป็นประชาธิปไตย ซึ่งอาจจะไม่สามารถชี้ขาดอะไรได้ทันทีแบบประเทศจีน แต่มันต้องมีทางออกที่ดีที่สุดที่ท่านสามารถทำได้ ที่ไม่กระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและอื่นๆ จนเกินไป และสำคัญคือคำนึงถึงส่วนรวมในประเทศที่เกิดขึ้น เราขอยอมรับว่าหากเราคืนเงินลูกค้าทันทีเป็นหมื่นๆ คน โดยไม่ได้รับความชัดเจนอะไรเลย หรือสายการบินไม่รีฟันด์เงินให้ทัวร์กลางเลย แต่ต้องคืนลูกค้าทั้งหมด เราเชื่อว่าไม่ว่าบริษัทไหนก็ตามจะต้องล้มละลายทันที” บริษัททัวร์ Unithai Trip ระบุ

ขณะเดียวกัน อีกฟากหนึ่ง ซึ่งกำลังทุกข์หนักไม่แพ้กัน เห็นจะเป็นบรรดาลูกทัวร์ ที่ซื้อตั๋วท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่นไว้ล่วงหน้า  ทว่าต้องเลื่อนหรือยกเลิกการเดินทาง แต่ไม่ได้รับเงินคืนเต็มจำนวน ซึ่งลูกทัวร์ท่านนี้มองว่า กำลังถูกเอาเปรียบจากบริษัททัวร์ อย่างยิ่ง

“เราเข้าใจในเงื่อนไขการซื้อทัวร์ว่าไม่สามารถเลื่อนหรือยกเลิกได้ในสถานการณ์ปกติ แต่ตอนนี้สถานการณ์วิกฤตของ COVID-19 ควรได้รับการพิจารณาเป็นกรณีๆ ไป ไม่ใช่อ้างแต่ว่าไม่คืนๆ กรณีของเราที่เป็นผู้บริโภคที่จ่ายเงินไปแล้ว เสียเปรียบแน่นอน แต่เราอยากถามกลับความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัททัวร์ทั้ง 2 บริษัท ว่า คุณไม่ต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ต่อสถานการณ์ของ COVID-19 ตอนนี้เหรอคะ คุณไม่กลัวว่าคุณจะทำให้ลูกทัวร์คุณป่วย หรืออาจจะเป็นพาหะนำเชื้อไวรัสเข้าประเทศไทยของเราเหรอคะ” ลูกทัวร์ท่านหนึ่ง โพสต์ระบายความอึดอัดไว้บนหน้ากระดานเว็บไซต์ Pantip

………….

ถึงเวลา “เจ้าภาพใหญ่” ออกโรง รีบสะสางปัญหาทั้งระบบเสียที แต่จะมีใครกันบ้างนั้น คงต้องรอฟังจาก “ท่านผู้นำประเทศ” อย่างเดียว