“รู้ผลภายใน 3 ชม.” กรมวิทย์ฯ พัฒนาห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ พร้อมรับมือไวรัสอู่ฮั่น

“รู้ผลภายใน 3 ชม.” กรมวิทย์ฯ พัฒนาห้องปฏิบัติการทั่วประเทศ พร้อมรับมือไวรัสอู่ฮั่น

กรมวิทย์ฯ –  ยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์กันอย่างต่อเนื่อง สำหรับ สถานการณ์ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ ไวรัสอู่ฮั่น ที่ปัจจุบันประเทศไทยเราพบผู้ติดเชื้อกว่า 14 รายแล้ว ที่เว็บไซต์ กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เผยแพร่ข่าว กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ได้แก่ ห้องปฏิบัติการสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข (ส่วนกลาง) และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ (ศวก.) ส่วนภูมิภาค ได้แก่ ศวก.ที่ 1 เชียงใหม่ ศวก.ที่ 3 นครสวรรค์ ศวก.ที่ 6 ชลบุรี ศวก.ที่ 11 สุราษฎร์ธานี ศวก.ที่ 11/1 ภูเก็ต และศวก.ที่ 12 สงขลา

มีความพร้อมทางห้องปฏิบัติการ ในการรับมือสถานการณ์ระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (Novel coronavirus 2019; nCoV 2019) หรือไวรัสอู่ฮั่น ซึ่งแพร่ระบาดอยู่ในประเทศจีน ณ ขณะนี้ โดยให้บริการตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างสงสัยติดเชื้อ  ที่เข้าเกณฑ์การคัดกรองของกรมควบคุมโรค ซึ่งสามารถตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ได้อย่างแม่นยำ มีความจำเพาะสูง เชื่อถือได้ และรู้ผลภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากห้องปฏิบัติการได้รับตัวอย่าง

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า การตรวจวิเคราะห์สารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ด้วยเทคนิค Real-Time RT-PCR (rRT- PCR) ใช้เวลาตรวจวิเคราะห์และรู้ผลภายใน 3 ชั่วโมงหลังจากห้องปฏิบัติการได้รับตัวอย่าง หากผลการตรวจเป็นลบ สามารถรายงานผลได้ทันที อย่างไรก็ตาม กรณีผลลบอาจเกิดจากตัวอย่างที่ไม่เหมาะสมหรือด้อยคุณภาพ ได้แก่ ตำแหน่งที่เก็บสิ่งส่งตรวจไม่สัมพันธ์กับพยาธิสภาพของโรค หรือระยะเวลาที่เก็บห่างจากวันเริ่มป่วยมากเกินไป เจ้าหน้าที่จึงควรทบทวนคำแนะนำการเก็บและนำส่งสิ่งส่งตรวจพร้อมกับเก็บตัวอย่างใหม่ส่งตรวจซ้ำ แต่หากผลการตรวจเป็นบวกจะดำเนินการตรวจยืนยันอีกครั้ง ด้วยการตรวจลำดับนิวคลิโอไทด์ (Nucleotide sequencing ) ใช้เวลาในการตรวจวิเคราะห์ 24 ชั่วโมง เพื่อช่วยให้การสรุปผลการตรวจวินิจฉัยผู้ป่วยสงสัยติดเชื้อ nCoV 2019 มีความชัดเจนและเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนรักษา

การเก็บและนำส่งตัวอย่าง กรณีที่พบผู้มีอาการเข้าข่ายสงสัยในโรงพยาบาลของรัฐและเอกชน ให้แจ้งกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค หรือสายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 โดยเร็วที่สุด และปฏิบัติตามคำแนะนำการเก็บตัวอย่างผู้ป่วยที่สงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยและเพื่อให้ได้ตัวอย่างที่เหมาะสมสำหรับการตรวจวิเคราะห์ ที่ถูกต้อง แม่นยำ เป็นประโยชน์ต่อการสอบสวนโรค และการรักษา สามารถควบคุมป้องกันโรคได้อย่างทันที ติดต่อส่งตัวอย่าง ได้ที่ศูนย์ประสานงานการตรวจวิเคราะห์และเฝ้าระวังโรคทางห้องปฏิบัติการ (ศปส.) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ จ.นนทบุรี ในเวลาราชการ โทร. (02) 591-2153 และนอกเวลาราชการ โทร. (089) 318-4596 หรือ (081) 751-8634 ตลอด 24 ชั่วโมง

นายแพทย์โอภาส กล่าวต่ออีกว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขทั่วประเทศ โดยในระยะแรกพัฒนาเครือข่ายห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ส่วนภูมิภาค ได้แก่ ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ 14 แห่ง  ให้บริการตรวจวินิจฉัยด้วยเทคนิค Real-Time RT-PCR ควบคู่ไปกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข (ส่วนกลาง) และ ในระยะต่อไป กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำหนดแผนขยายการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ โดยให้ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจยืนยันได้โดยตรงหลังจากการประเมินระยะแรก เพื่อให้สามารถรายงานผลได้อย่างรวดเร็ว ลดค่าใช้จ่ายและผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม