อดีตเจ้าของอู่ต่อเรือ วัย 81 ชีวิตพลิกผัน หันยึดอาชีพพนักงานขายในห้าง

อดีตเจ้าของอู่ต่อเรือ วัย 81 ชีวิตพลิกผัน หันยึดอาชีพพนักงานขายในห้าง

พนักงานอาวุโส – ชีวิตคนเราไม่แน่นอน มีขึ้นก็ต้องมีลง ประโยคสุดคลาสสิกที่ใช้อธิบายเส้นกราฟชีวิตของใครหลายๆ คน เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊ก พลากร เทศนำ ที่โพสต์บอกเล่าเรื่องราวประจำวัน ระหว่างที่เขาได้ไปจับจ่ายใช้สอยที่ห้างแห่งหนึ่ง ความว่า

พนักงานอาวุโส ผมพบกับคุณลุงประชา พนักงานของห้างใกล้บ้าน รู้สึกแปลกใจที่คุณลุงอายุมากแล้วยังต้องมาทำงานเป็นพนักงานขาย กะด้วยสายตาต้อง เจ็ดสิบกว่าแน่ๆ วันนี้ผมเดินหาซื้อของใช้ในห้าง คุณลุงเดินมาถามว่าต้องการรถเข็นมั้ย ผมก็กำลังมองหาพอดี เลยถือโอกาส สนทนากับคุณลุง

“คุณลุงครับ ยังต้องมาทำงานอีกเหรอ” ผมถามแก

“ก็ท้องมันหิวทำไงได้ล่ะ” ลุงตอบ “ดีนะทีนี่ผู้จัดการเขาสงสารผมก็เลยรับเข้าทำงาน ผมทำงานทุกวันตั้งแต่เก้าโมงเลิกหนึ่งทุ่ม ผมทำแบบนี้ทุกวัน ไม่เคยหยุด” คุยกันไปลุงก็เช็ดจานชามไป “ผมหยุดไม่ได้ เพราะเขาให้เงินเราทุกวินาที ทุกวินาทีจริงๆ คุณคิดดูสิเวลาผ่านไปทุกวินาทีเป็นเงินทั้งนั้น”

พอคุยกันถูกคอ คุณลุงเล่าว่าเมื่อก่อนนั้น เคยเป็นเจ้าของอู่ต่อเรือ มีลูกจ้างสองร้อยกว่าคน มีเพื่อนฝูงมากมายแล้วพอธุรกิจเจ๊ง เพื่อนหายหมด ไปกดกริ่งหน้าบ้านใครก็ไม่เปิดประตูต้อนรับ จึงพบกับสัจธรรมของชีวิต

“เพื่อนแท้ไม่มีหรอก ที่ผ่านมามันมีแค่เพื่อนกิน ตอนนี้ผมแปดสิบเอ็ดแล้ว ทำงานให้ดีที่สุด ผมมีหน้าที่ดูแลและขายถ้วยชามพวกนี้ทั้งหมด ถ้าไม่มีอะไรทำก็เช็ดชามพวกนี้แหละ”

คุยกันเพลินได้สาระและเรื่องราวมากมายจากคุณลุงผู้ผ่านชีวิตโชกโชน ก่อนลาจากกัน คุณลุงกล่าวว่า

“จำไว้น่ะ อย่าดื่มเหล้า อย่าสูบบุหรี่ อย่ากินน้ำอัดลม ร่างกายเราจะดีและที่สำคัญ อย่าเครียด รู้จักปล่อยวางด้วยนะ”

ขอบพระคุณคุณลุงประชา ผมชอบคุยกับผู้อาวุโสเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ชีวิตของท่านเหล่านั้น นึกถึงเพื่อนรุ่นพี่คนหนึ่ง เคยบอกว่า “อายุมึงกูผ่านมาแล้วโว้ย มึงอยู่ให้ถึงอายุเท่ากูก็แล้วกัน”