กรมอนามัย ย้ำ‘วันเด็ก’ เช็กเครื่องเล่น ให้ปลอดภัย-ลูกโป่งอัดก๊าซ ติดไฟง่าย ควรเลี่ยง

กรมอนามัย ย้ำ‘วันเด็ก’ เช็กเครื่องเล่น ให้ปลอดภัย-ลูกโป่งอัดก๊าซ ติดไฟง่าย ควรเลี่ยง

วันที่ 11 ม.ค.63 แพทย์หญิงพรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เผยว่า วันเด็กแห่งชาติปีนี้ มีหลายหน่วยงาน และสถานที่ต่างๆ จัดกิจกรรมวันเด็กขึ้น ซึ่งสถานที่แต่ละแห่งมีการจัดเครื่องเล่นไว้ให้สำหรับเด็กๆ เช่น สนามเด็กเล่น อุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ ซึ่งผู้จัดงานควรมีการตรวจสอบสภาพเครื่องเล่นว่าอยู่ในสภาพดี พร้อมใช้งาน เครื่องเล่นต้องมีการยึดรากฐานให้มั่นคง ไม่ชำรุด พื้นผิวของเครื่องเล่นต้องไม่มีรอยแตกหักหรือมีส่วนที่ยื่นออกมาก่อให้เกิดอันตราย เช่น แผ่นเหล็กโผล่ยื่น มีเสี้ยนไม้ สีที่ใช้ทา ต้องไม่หลุดลอกหรือเก่าจนขึ้นสนิม และหากพบความผิดปกติหรือชำรุด ควรรีบซ่อมแซมเพื่อความปลอดภัยต่อเด็ก ส่วนผู้ปกครองควรดูแลและสอนบุตรหลานให้รู้จักระมัดระวังตัวเองและผู้อื่นในขณะเล่น รวมถึงเฝ้าระวังและไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำพัง

แพทย์หญิงพรรณพิมล กล่าวต่อว่า สำหรับสถานที่จัดงานวันเด็กที่มีการตกแต่งประดับด้วยลูกโป่งสวรรค์ หรือมีการแจกลูกโป่งเป็นของรางวัลแก่เด็กนั้น ควรเลือกลูกโป่งที่บรรจุด้วยก๊าซฮีเลียม เพราะถึงแม้จะมีราคาแพงแต่จะไม่ติดไฟและปลอดภัยกว่า แต่หากมีความจำเป็นต้องใช้ลูกโป่งที่บรรจุด้วยก๊าซไฮโดรเจน ซึ่งมีความไวไฟสูง ติดไฟง่าย เมื่อกระทบกับความร้อนหรือประกายไฟ จะทำให้เกิดการระเบิดได้ จึงควรเพิ่มความระมัดระวังในการบรรจุและติดป้ายเตือนว่าห้ามนำเข้าใกล้ความร้อนหรือประกายไฟ และไม่ควรจัดวางไว้กลางแดด และจัดให้ห่างจากหลอดไฟ หรือประกายไฟต่างๆ ไม่ควรนำลูกโป่งที่บรรจุก๊าซไฮโดรเจนมารวมกันหลายๆ ลูก เพราะเมื่อเกิดการระเบิดหนึ่งลูก ก็จะมีการระเบิดต่อไปยังลูกอื่นๆ ทำให้มีความร้อนและเปลวไฟลวกผิวหนัง และอันตรายถึงชีวิต

“ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์นี้พบว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีค่า PM2.5 สูงขึ้น อยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ก่อนออกจากบ้าน พ่อแม่ ผู้ปกครอง ควรติดตามสถานการณ์ด้วยการดูค่า PM2.5 หรือค่า AQI ได้ที่เว็บไซต์ air4thai.pcd.go.th หรือแอพพลิเคชั่น “Air4Thai” ของกรมควบคุมมลพิษ หรือ จากเฟซบุ๊กเพจ “คนรักอนามัย ใส่ใจอากาศ PM2.5” ของกระทรวงสาธารณสุข