โซเชียลแฮปปี้ “นโยบายงดแจกถุง” ช่วยประหยัดเงิน เพราะซื้อของน้อยลง เอาแค่พอถือได้ 

 โซเชียลแฮปปี้ “นโยบายงดแจกถุง” ช่วยประหยัดเงิน เพราะซื้อของน้อยลง เอาแค่พอถือได้ 

หลัง 75 ห้างร้านพร้อมใจกันงดแจกถุง ตามนโยบายที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ออกกฎบังคับ เริ่มต้นวันแรกเมื่อวันที่ 1 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งประชาชนก็ปรับตัวได้ดี พกถุงผ้ามาซื้อของกันมากขึ้น แต่ยังมีบ้างที่ลืมพกถุง หรือบางคนถึงกับบอกว่านโยบายนี้ทำให้พฤติกรรมการซื้อของเปลี่ยนไป โลกโซเชียลถึงกับตั้งคำถาม “ตั้งแต่งดแจกถุง พฤติกรรมการซื้อเปลี่ยนไปไหม” 

หลายคอมเมนต์ระบุว่า “ปกติกระเป๋ามีถุงผ้าติดไว้หนึ่งใบอยู่แล้ว เดี๋ยวนี้ต้องติดไว้สองใบ แต่โดยรวมลดการซื้อลงได้เยอะ ถ้าไม่ขับรถไปเอง จะไม่ซื้อเต็มรถเข็นเด็ดขาด ดังนั้น สินค้าที่แบบไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ พวกชั่ววูบก็จะไม่หยิบเลย ลดการจับจ่ายไปเยอะเหมือนกัน”

“ของพี่เปลี่ยนนะคะ ซื้อของน้อยลง โดยเฉพาะข้าวของชิ้นใหญ่ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ซื้อเลย เราพกถุงผ้านะคะ แต่มันก็เป็นการจำกัดปริมาณในการจับจ่ายไปในตัว นับว่านอกจากข้อดีด้านสิ่งแวดล้อมแล้ว คือเหลือเงินต่อวันเยอะขึ้นนี่แหละ”

“เปลี่ยนครับ เพราะโดยส่วนตัวไม่ได้พกถุงผ้าไว้ตลอดเวลา จะพกเฉพาะตอนที่คิดจะไปซื้อของ ตอนนี้ถ้าจะซื้อแบบที่ไม่ได้ตั้งใจมาซื้อ ก็จะซื้อนิดๆ หน่อยๆ เอาแค่พอถือได้ ไม่ก็เอาไว้วันอื่นเลย แล้วก็ลืม ประหยัดดี”

หรือบางคอมเมนต์บอกว่า พฤติกรรมไม่ได้เปลี่ยนอะไร ยังคงจับจ่ายใช้สอยเหมือนเดิม เพราะปรับตัวมานานแล้ว

“ปกติ เพราะเขารณรงค์มานานแล้ว ผมปรับตัวได้ตั้งนานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งปรับ”

“ส่วนตัวไม่ต้องปรับต้วอะไร เพราะพกถุงพับใส่กระเป๋าถือประจำอยู่แล้ว พกแก้วใส่กาแฟเองมาเป็นปีๆ แล้ว จะพยายามงดรับถุงเท่าที่ทำได้ ที่ต่างประเทศเขางดแจกถุงพลาสติกกันมาเป็นปีๆ ไทยยังช้าไปนิดแต่ดีกว่าไม่เริ่ม”

“ไม่เปลี่ยนครับ ปรับตัวยืดอกพกถุงมาก่อนหน้านี้แล้ว เพราะห้างแถวบ้านงดแจกถุงนำร่องมาก่อนแล้ว ที่เปลี่ยนอย่างเดียวคือ อีกหน่อยต้องซื้อถุงใส่ขยะเอง”