ศรีสุวรรณ ร้อง สคบ. 75 ร้าน งดแจกถุงพลาสติก เอาเปรียบผู้บริโภค

ศรีสุวรรณ ร้อง สคบ. 75 ร้าน งดแจกถุงพลาสติก ไม่มีภาชนะทดแทน ถือว่าเอาเปรียบผู้บริโภค

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ม.ค. ที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ชั้น 5 ศูนย์ราชการฯ อาคาร B นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการ สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เข้ายื่นคำร้องต่อเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนหรือเสียหาย อันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ประกอบการธุรกิจ ในการงดแจกถุงพลาสติกแก่ผู้บริโภค

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ตามที่ได้รณรงค์และนำร่อง งดแจกถุงพลาสติกมาตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา จนมีประชาชนจำนวนมาก นำกระป๋อง ถัง ถุงผ้า ถุงปุ๋ย เข่ง กะละมัง ตะกร้า ฯลฯ ไปเตรียมใส่สินค้า โดยถ่ายรูปนำมาแชร์กันในโซเชียลมีเดีย อย่างสนุกสนาน จนกลายเป็นกระแสอินเทรนด์ไปทุกวงการอยู่ในขณะนี้

แต่ทางสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนหรือผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก ว่า ได้รับความเดือดร้อนจากมาตรการงดแจกถุงพลาสติกดังกล่าว เพราะห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อต่างๆ มิได้มีการเตรียมหาภาชนะอื่นใดมาใช้ทดแทนให้กับประชาชนผู้บริโภค แต่กลับเป็นการลดต้นทุนด้านการจัดเตรียมถุงพลาสติกไว้ให้บริการลูกค้า ซึ่งถือเป็นผลประโยชน์ด้านธุรกิจให้กับห้างร้านดังกล่าว อีกทั้งห้างสรรพสินค้าบางราย ฉวยโอกาสในการเรียกเก็บค่าภาชนะบรรจุสินค้าที่สูงเกินควร โดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถปฏิเสธได้

แม้การรณรงค์ดังกล่าวจะเป็นเรื่องที่ดีและเป็นสิ่งที่สังคมไทยส่วนใหญ่เห็นด้วย แต่ห้างร้านซึ่งมีหน้าที่ที่จะต้องให้บริการลูกค้า ต้องมีภาชนะใส่สินค้านำกลับตามวิสัยปกติของการทำการค้าทั่วไป มิใช่ฉวยโอกาสในการลดต้นทุนการบริการ โดยการไม่แจกถุงพลาสติกให้ลูกค้าใช้ใส่สินค้าแล้วนำกลับโดยไม่มีภาชนะอื่นที่ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมาใช้แทน ถือเป็นการผลักภาระให้กับผู้บริโภคในการจัดเตรียมภาชนะไปใส่สินค้าเอง

ดังนั้น สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เห็นว่า การที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ร้วมมือกับเครือข่ายภาคธุรกิจเอกชน ทั้งห้างร้านสะดวกซื้อ ออกมารณรงค์และนำร่องงดแจกถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งโดยสิ้นเชิง ในบริษัทห้างร้านกว่า 75 แห่ง โดยไม่ได้เตรียมภาชนะอื่นมาใช้ทดแทนให้กีบผู้บริโภค ถือเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภค แต่มีประโยชน์ต่อธุรกิจห้างร้านที่จะได้ลดต้นทุนด้านการจัดการ และมีห้างสรรพสินค้าบางราย ฉวยโอกาสในการเรียกเก็บราคาค่าภาชนะบรรจุสินค้าในราคาที่สูงเกินควร โดยที่ผู้บริโภคไม่สามารถปฏิเสธได้นั้น ถือเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และก่อให้เกิดความเสียหายโดยชัดแจ้ง

ทางสมาคม จึงใคร่ร้องเรียนมายังคณะกรรมการฯ เพื่อดำเนินการตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ดังนี้

  1. สั่งให้ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ จัดหาภาชนะที่ใช้ทดแทนถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้กับผู้บริโภค โดยไม่คิดมูลค่าอย่างใดๆ หากไม่สามารถกระทำได้ ให้นำมูลค่าของถุงพลาสติกที่งดแจกให้กับผู้บริโภค นำไปหักเป็นส่วนลดในต้นทุนสินค้าทุกชนิดของผู้ประกอบการดังกล่าวเสีย

2. หากผู้ประกอบการธุรกิจตามข้อ 1. ไม่ได้ดำเนินการตามคำสั่งข้างต้น ให้ใช้อำนาจตามมาตรา 39 แห่ง พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 ในการดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคดังกล่าวโดยเร็ว

3. เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี เพื่อกำหนดนโยบายและมาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภค มิให้ผู้บริโภคถูกเอาเปรียบ จากห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ ที่ออกมานำร่องงดแจกถุงพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยมิได้เตรียมภาชนะอื่นมาทดแทนให้ผู้บริโภคแต่อย่างใดด้วย