เผยแพร่ |
---|
สารพัดรูปแบบกลโกง “การลงทุน” ต้องรู้ให้ทัน
‘การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน’ เป็นคำกล่าวที่อยู่คู่นักลงทุนมาทุกยุคทุกสมัย อย่างไรก็ตาม แม้ว่านักลงทุนจะมีการพิจารณาการลงทุนอย่างรอบด้าน เราก็ยังมีโอกาสขาดทุนจากการลงทุนได้ จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้นักลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจเรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนให้ดี นอกจากความเสี่ยงจากการลงทุนที่ทำให้เรามีโอกาสขาดทุนได้แล้ว ยังมีการหลอกลวงและการฉ้อโกงในรูปแบบต่างๆ จากมิจฉาชีพที่อาจทำให้สูญเสียเงินทองเป็นจำนวนมากได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่นักลงทุนต้องหมั่นติดตามและรู้ทันกลโกงเหล่านั้น บทความนี้จะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการหลอกลวงที่แฝงมากับการชักชวนลงทุน เนื่องจากในปัจจุบัน คำว่า “ลงทุน” เป็นเรื่องน่าสนใจสำหรับคนทุกวัย ทุกอาชีพ ทุกฐานะ ส่งผลให้ชักชวนได้ง่าย อีกทั้งผลตอบแทนที่ล่อตาล่อใจก็หลอกให้คล้อยตามง่ายขึ้นด้วย
รูปแบบกลโกงการลงทุนมีอะไรบ้าง?
1. แชร์ลูกโซ่ เป็นกลโกงที่มีมานาน และมีการพัฒนาให้ซับซ้อนยิ่งขึ้นตามยุคสมัย โดยได้การระดุมทุนจากสมาชิกที่ตกเป็นเหยื่อ เนื่องจากมักจะจูงใจด้วยผลตอบแทนที่สูง และมักอ้างว่านำไปลงทุนในธุรกิจที่มีกำไรดี แต่ไม่ให้ความชัดเจนในเรื่องประเภทของการลงทุน (เพราะส่วนใหญ่ไม่ได้นำเงินไปลงทุนจริง) แต่ที่จริงแล้วต้องการที่จะหาสมาชิกใหม่ให้ได้มากๆ เพื่อนำเงินจากรายใหม่มาจ่ายให้รายเก่า ซึ่งจะทำแบบนี้เป็นทอดๆ กันไปเป็นลูกโซ่ ท้ายที่สุดเมื่อถึงจุดที่ธุรกิจหมุนเงินไม่ทัน ก็จะเริ่มเลื่อนการจ่ายผลตอบแทน และสุดท้ายวงแชร์ลูกโซ่นี้ก็จะถึงจุดจบ
รูปแบบของแชร์ลูกโซ่ เช่น
- การระดมทุนตั้งบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์ เป็นการขายฝันเพื่อชักชวนให้เข้าร่วมถือหุ้นในบริษัท โดยหลอกว่าบริษัทมีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ โดยมากมักอ้างว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ เพื่อให้ตรวจสอบได้ยาก และต้องการที่จะหาสมาชิกให้มากพอก่อน เพื่อให้เราไปชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุนด้วย
- แชร์ลูกโซ่ออนไลน์ เป็นการหลอกลวงทาง Social Media ต่างๆ เช่น LINE, Facebook โดยชักชวนให้เล่นแชร์เป็นแพ็กเกจ มีการจ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินปันผลทุกสัปดาห์ และเมื่อวงแชร์มีขนาดใหญ่มากพอ ก็จะปิดวงแชร์แล้วหลบหนีเอาเงินไป
- ขายทริปเที่ยวในฝัน เป็นการสร้างธุรกิจเครือข่ายที่นำแพ็กเกจท่องเที่ยวราคาถูกมาเป็นตัวล่อ ให้มีการจ่ายค่าสมัครแรกเข้า และจ่ายค่าสมาชิกรายเดือน เพื่อมีสิทธิ์ในการซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว รวมทั้งยังมีการหลอกให้ซื้อแพ็กเกจราคาถูกกว่าปกติ เพื่อจูงใจให้คนซื้อ จากนั้นก็เอาเงินที่ได้หลบหนีไป
- ข้อแนะนำ การลงทุนที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่มักจะมีลักษณะ เช่น มีการเสนอผลตอบแทน ‘การันตี’ ที่สูงเกินความเป็นจริง เช่น รับรองผลตอบแทนมากกว่า 6 – 8% ต่อเดือน หรือสูงถึง 72 – 96% ต่อปี โดยไม่ได้กล่าวถึงความเสี่ยงหรือการขาดทุนเลย อย่างไรก็ตามปัจจุบันเริ่มมีการเสนอผลตอบแทนที่สมจริงมากขึ้น เช่น 10- 12% ต่อปี ทำให้การสรุปว่าผลตอบแทนที่ได้นี้ มากกว่าปกติหรือไม่จะทำได้ยากขึ้น จึงต้องมาพิจารณาถึงแหล่งลงทุนว่าเป็นการลงทุนในอะไร มีความชัดเจนมากน้อยแค่ไหน ตรวจสอบได้หรือไม่ นอกจากนี้มีการอ้างถึงคนที่เคยลงทุนมาก่อน ถ้ามีการสอบถามไปก็จะมีการตระเตรียมกันไว้แล้ว และมีการชักจูงหรือเชียร์อย่างออกนอกหน้าให้รีบลงทุน ซึ่งอาจเป็นการชักชวนต่อเนื่องกันในกลุ่มเพื่อนหรือญาติพี่น้อง ทำให้เกิดความน่าเชื่อถือและเกรงใจ
2.ชักชวนลงทุนในตราสารการเงิน (โดยไม่มีใบอนุญาต) คือ การชักชวนให้นำเงินไปลงทุนในหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ อนุพันธ์ต่างประเทศ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศโดยบุคคลหรือกิจการที่ไม่มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง ตัวอย่างกลโกงในรูปแบบนี้ เช่น
- ลงทุนเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนต่างประเทศ (Forex) เป็นการชักชวนให้เข้าลงทุนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงผลตอบแทนจำนวนมาก ทำให้หลายคนหลงเชื่อเข้าไปลงทุน โดยสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ให้คำอธิบาย Forex ในประเทศไทย ดังนี้
- นักลงทุนที่ดำเนินธุรกรรมในลักษณะดังกล่าว (ซื้อขาย Forex) ด้วยตนเองสามารถกระทำได้ แต่ผู้ลงทุนนั้นต้องรับผิดชอบในความเสี่ยงที่อาจเกิดความเสียหายจากการขาดทุนในการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศของท่านเอง
- ปัจจุบันยังไม่มีการออกใบอนุญาตให้ผู้ใดประกอบธุรกิจเกี่ยวกับปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอัตราการแลกเปลี่ยน ในลักษณะการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ดังนั้น หากมีบุคคลใดมาชักชวนให้ร่วมลงทุนในลักษณะดังกล่าวให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่า ท่านอาจโดนมิจฉาชีพหลอกลวงและอาจได้รับความเสียหายได้
- กรณีที่มีการชักชวนประชาชนให้ลงทุนในการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ โดยที่ผู้ชักชวนดังกล่าวไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลนั้น ไม่มีใบอนุญาตให้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับ ปัจจัยชำระเงินต่างประเทศตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมการแลกเปลี่ยนเงิน การกระทำดังกล่าวถือว่าเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดฐานกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนตามมาตรา 4 วรรคสองแห่งพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
- การตั้งตัวเป็นกูรูสอนหลักสูตรเกี่ยวกับการลงทุนเทรด Forex ผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยมีค่าเรียนที่สูงเกินจริงไปมาก โดยไม่ได้ผลตามที่คาดหวัง และทำให้เกิดการสูญเสีย นอกจากนี้การติดตามตัวคนผิดบนโลกออนไลน์ก็ทำได้ยากลำบาก
ข้อแนะนำ : เมื่อตัดสินใจลงทุนควรดูข้อมูลจากบริษัทที่มีการรับรองอย่างถูกต้อง ภายใต้การกำกับของตลาดหลักทรัพย์ฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หรือ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลอย่างเป็นทางการอยู่แล้ว ลักษณะนี้จะปลอดภัยกว่า เพราะหากมีการแนะนำการลงทุนใดที่ไม่ถูกต้อง นักลงทุนสามารถร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่กำกับดูแลได้
เราทุกคนจำเป็นต้องมีความระมัดระวัง เพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ เพราะรูปแบบกลโกงมีการปรับเปลี่ยนอยู่เรื่อยๆ ดังนั้นควรหมั่นติดตามข่าวสาร และมีสติอย่าหลงเชื่ออะไรง่ายๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากเป็นข้อเสนอที่ ‘Too good to be true’ หรือ ‘ดีเกินกว่าจะเป็นจริงได้’ ให้สงสัยและตั้งข้อสังเกตไว้ก่อนว่าน่าจะเป็นการหลอกลวง นอกจากนี้หากมีข้อสงสัยว่าการลงทุนนั้นๆ เข้าข่ายว่าจะเป็นแชร์ลูกโซ่ หรือผิดกฎหมายหรือไม่ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดังนี้
- สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โทร. 1166
- กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โทร. 1202
- กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โทร. 1570
- ศูนย์คุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย โทร. 1213
- ศูนย์รับแจ้ง การเงินนอกระบบกระทรวงการคลัง โทร. 1359
- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) โทร. 1207
บทความโดย : นิภาพันธ์ พูนเสถียรทรัพย์ CFP® นักวางแผนการเงินอิสระ นักเขียนและวิทยากร