เมื่อวันที่ 1 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ พสกนิกรเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง โดยในช่วงเย็นยังคงมีพสกนิกรที่ส่วนมากมากันเป็นครอบครัว อุ้มลูกจูงหลาน เดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง บางรายที่เข้าถวายสักการะพระบรมศพแล้วก็พากันมาถ่ายภาพความสวยงามของพระบรมมหาราชวัง เก็บไว้เป็นที่ระลึก

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า นางกิมไล้ แสงนาค อายุ 96 ปี หรือยายครก บ้านเกิดอยู่ ต.สี่ร้อย อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง คุณยาย 5 แผ่นดิน ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ย่านวงเวียนใหญ่ ก็เดินทางมาถวายสักการะพระบรมศพพร้อมลูกชาย และหลานสาวด้วย

นางกิมไล้ กล่าวว่า ตนมีชีวิตอยู่มาตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเลิกทาส ชีวิตความเป็นอยู่ของเด็กสมัยก่อน เมื่อตกเย็นพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย จะเรียกคนที่อยู่ในละแวกเดียวกันมานั่งพูดคุย เพื่ออบรมสั่งสอนเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ฟัง จนโตขึ้นมาย้ายมาอยู่กับหลวงวิจิตรยุทธศาสตร์ ย่านเทเวศน์ ตอนนั้นเหตุการณ์สำคัญคงเป็นเรื่องที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องหนีสงครามไปอยู่ที่ตลาดพลู เพราะประเทศญี่ปุ่นจะทิ้งระเบิดลงสะพานพุทธ กระทั่งโตเป็นสาวจึงย้ายมาอยู่ที่วงเวียนใหญ่ เพื่อขายขนมครกกับแฟนและลูกหลาน

นางกิมไล้ กล่าวต่อว่า ความเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ตนเกิดจนถึงสมัยในหลวงรัชกาลที่ 9 ขึ้นครองราชย์ กรุงเทพมหานครและประเทศไทยก็เจริญขึ้นเรื่อยๆ ส่วนตนจากแต่ก่อนที่ยากจนทำนา ก็เริ่มนำผักมาขาย ที่ตลาดท่าเตียนจนมีฐานะดีขึ้นตามลำดับ ตลอดเวลาที่พระองค์ท่านจะเสด็จไปตามเกาะ ตามเขา ถิ่นฐานทุรกันดารอยู่บ่อย ฉันติดตามการทำงานของพระองค์ท่านผ่านทางโทรทัศน์ และเห็นว่าพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์นักพัฒนา ทั้งการช่วยเหลือพวกชาวเขาที่ปลูกฝิ่น พระองค์ท่านบอกให้เลิกและเปลี่ยนเป็นปลูกกาแฟขายแทน ทำให้ชีวิตเขาดีขึ้น ซึ่งการพัฒนาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ทำให้บ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองมากขึ้น เพราะพระองค์ท่านเสด็จฯไปช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่

“ฉันรักในหลวงมากที่สุด ท่านเมตตาคนเยอะ พอทราบข่าวพระองค์ท่านสวรรคตน้ำตาไหลร้องไห้ออกมาเลย ทุกวันนี้จึงยังสวดมนต์ให้ในหลวงทุกคืน ใจก็ระลึกถึงพระองค์ท่านตลอด ตอนที่เข้าไปไหว้พระองค์ท่าน ฉันขอให้พระองค์ท่านไปอยู่ที่สวรรค์วิมาน ส่วนฉันก็จะทำความดี ไม่โกหก ไม่ลักขโมยใคร เพราะเราเป็นลูกในหลวง เราต้องเชื่อฟังท่าน ต้องเป็นคนซื่อสัตย์ อะลุ่มอล่วย เมตตา และ พึ่งพากัน เพราะเราก็เป็นคนไทยเหมือนกัน เป็นเหมือนลูกพระองค์ท่านทั้งแผ่นดิน ต้องยึดถือพระองค์ท่านเหมือนเป็นพ่อของเราคนหนึ่ง ต่อไปบ้านเมืองจะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้ ก็ขอให้บารมีของพระองค์ท่านคุ้มครองเราไว้ ฉันจะขอเป็นลูกของพระองค์ท่านทุกชาติไป ทุกวันนี้ฉันก็ทำบุญช่วยเหลือผู้คนอย่างเดียว ข้าวปลาที่บ้านอาหารใครมากินฉันก็ยินดี ถ้าใครไปแถววงเวียนใหญ่ ถามหายายครกได้เลย ทุกคนรู้จักหมด” ยายครก กล่าวน้ำตาริน

ยายครก เล่าต่อว่า วันนี้ฉันตื่นมารู้สึกปวดหัวจนลุกขึ้นไม่ไหว ร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด จนลูกชายต้องมาพยุงลุกจากที่นอน แต่ด้วยความตั้งใจว่าอยากมาไหว้พ่อ เลยอธิษฐานว่าขอให้ได้มาไหว้พระองค์ท่านครั้งสุดท้าย ขอให้หาย ขอให้ลูกได้มา พอฉันไปหาหมอมาอาการป่วยเมื่อเช้าก็หายเลย ทำให้ได้มาที่นี่ ไม่น่าเชื่อว่าจะหาย ฉันเชื่อว่าเป็นเพราะพระบารมีของพระองค์ท่านถึงทำให้มาไหว้พ่อได้ มันเป็นปาฏิหาริย์นะ ใครว่าปาฏิหาริย์เป็นไปไม่ได้ หรือไม่มีจริงก็ตาม แต่ฉันเชื่อว่ามี

ที่มา ข่าวสดออนไลน์