จากร้านขายปลาร้า สู่เจ้าของรางวัลระดับชาติ ด้วยผลงาน “ส้มตำไทยอบกรอบ”

จากร้านขายปลาร้า สู่เจ้าของรางวัลระดับชาติ ด้วยผลงาน “ส้มตำไทยอบกรอบ”

 ความสำเร็จที่แลกมาด้วยความพยายาม การลองผิดลองถูก จากวันที่นับหนึ่ง สู่วันที่สำเร็จ กิจการเติบโต ลองไปฟังมุมมอง แนวคิดการทำงาน กับการสานต่อและพัฒนาธุรกิจครอบครัวของ คุณต้น- ธุรกิจ อินทรบุตร ศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต ปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็ม ที เกษตรแปรรูป จำกัด

 “การตัดสินใจเลือกเรียนทางด้านธุรกิจค้าปลีก คณะบริหารธุรกิจ ม.รังสิต ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมได้เรียนรู้งานธุรกิจของครอบครัวไปพร้อมกัน ได้นำความรู้จากห้องเรียน ไปใช้ในธุรกิจค้าขายของที่บ้าน เดิมทีบ้านเราทำอาชีพค้าขายที่ตลาดสี่มุมเมือง ขายพวกผักดอง หน่อไม้ดอง ปลาร้า และได้ขยับขยายกิจการมาเปิดโรงงานเมื่อปี 2557 ตอนนั้นผมเรียนอยู่ปี 2 นำความรู้เกี่ยวกับการตลาด การทำแพ็กเกจจิ้งมาใช้กับสินค้าโดยปรับใหม่ทั้งหมด ให้แพ็กเกจจิ้งทันสมัยขึ้น ดูดีขึ้น และเปลี่ยนแปลงหน้าร้านใหม่ หลังจากเราทำร้านเสร็จแล้ว เราก็เปิดโรงงานผลิตเพื่อส่งให้หน้าร้านเราขาย” คุณต้น เริ่มต้นบทสนทนา

 ก่อนเล่าต่อว่า จากแรกเริ่มที่มาทำโรงงาน ตั้งใจว่าจะเปลี่ยนแปลงแพ็กเกจจิ้ง แล้วก็ผลิตของที่ร้านขายอยู่แล้ว จำหน่ายที่หน้าร้านเราเอง จากที่เมื่อก่อนต้องไปซื้อจากซัพพลาย ซื้อมาขายไป แต่เราเปลี่ยนเป็นผลิตเองและขายเองเลย จากแรกๆ ก็ขายลูกค้าเก่าก่อน เมื่อมีคนรู้จักแล้ว มีคนสนใจมาติดต่อให้ส่งออกไปไต้หวันบ้าง จีนบ้าง ผ่านตัวแทน พอขายไประยะหนึ่ง ก็ได้รู้จักกับเครื่องถนอมอาหาร และได้ศึกษาเครื่องฟรีซดราย ซึ่งผลิตภัณฑ์หลายรายการเราใช้วิธีการผ่านเครื่องฟรีซดราย หนึ่งในนั้นคือ ส้มตำไทยอบกรอบ

สำหรับแนวคิดการทำ “ส้มตำอบกรอบ” เริ่มแรกรู้ว่าเครื่องฟรีซดราย  สามารถใช้กับผลไม้ เลยมาคิดกลับกันว่า ถ้านำมาใช้กับอาหารจะได้หรือไม่ ซึ่งคุณแม่ของเขาเป็นคนเริ่มความคิดนี้ก่อน โดยตั้งโจทย์ไว้ว่า เป็นอาหารไทยที่รับประทานได้ง่าย เลยทดลองกับอาหาร 3 อย่างได้แก่ ส้มตำ ผัดไทย ต้มยำกุ้ง ลองผิดลองถูกหลายครั้ง ทดลองทำกัน 2 ปี มาจบที่ส้มตำ เพราะง่ายต่อการรับประทาน และ ส้มตำไทย ก็เป็นหนึ่งในเมนูอาหารโปรดของคนไทย โดยใช้กระบวนการอบแห้ง และในส่วนของวัตถุดิบที่ใช้รับตรงจากโรงงาน คัดเกรดอย่างดี เป็นส่วนผสมที่ใช้ในส้มตำทั่วไป ทั้งมะละกอ ถั่วฝักยาว มะเขือเทศ กุ้งแห้ง น้ำปลา น้ำมะนาว น้ำตาลปี๊บ และพริก ซึ่งหลังจากผ่านกระบวนการอบแห้งแล้ว ผู้บริโภคสามารถทานได้ง่ายเพียงแค่เติมน้ำ แล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก็สามารถรับประทานได้เลย รสชาติเหมือนส้มตำไทยทั่วไป

“ผมมีส่วนช่วยด้านการตลาด ส่วนคุณแม่ รับผิดชอบด้านการผลิต แต่ช่วงแรกไม่มีที่ขายในตลาด เลยเข้ามาช่วยในการหาตลาดในการขายให้ ค่อยๆ ปรับหาช่องทางที่เหมาะสม กระทั่งปัจจุบันเรามีสินค้าที่ผลิตและจัดจำหน่ายทั้งไทยและต่างประเทศร้อยกว่ารายการ และทำรายได้ประมาณ 10 ล้านต่อเดือน” คุณต้น เผยตัวเลขน่าชื่นใจไปด้วย

และว่า ส้มตำไทยอบกรอบ (Freeze Dried Papaya Salad Thai Style) ตรา แม่ตุ๊ก มี 3 รสชาติ คือ เผ็ดน้อย เผ็ดกลาง และเผ็ดมาก โดยจำหน่ายราคาซองละ 90 บาท เรียกว่า ส้มตำไทยอบกรอบ เราเป็นเจ้าแรกในประเทศไทย ที่ผู้บริโภคสามารถปรุงทานเองได้ง่าย เพียงแค่ฉีกซอง เติมน้ำ พร้อมรับประทาน โดยมีรสชาติและหน้าตาเหมือนส้มตำสดๆ 95% นับเป็นอีกทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคที่ชอบความสะดวก

และเร็วๆ นี้ มีแพลนไว้ว่าจะทำส้มตำปลาร้า ออกมาประมาณช่วงปลายปี ส่วนส้มตำเจ อบกรอบ มีจำหน่ายแล้วในช่วงเทศกาลเจ และยังวางแผนจะขยายตลาดไปยังต่างประเทศมากขึ้น เช่น ญี่ปุ่น อเมริกา อังกฤษ เป็นต้น สำหรับส้มตำไทยอบกรอบ หลังจากเปิดตลาดจำหน่ายเพียงไม่นาน ผลตอบรับดีมาก สำหรับสินค้าของบริษัทที่ได้รับความนิยม นอกจากสำตำไทยอบกรอบแล้ว ยังมีน้ำปลาร้า ซึ่งทำมากว่า 10 ปีแล้วและส่งออกต่างประเทศเช่นกัน

 “เราเป็น SMEs ขนาดกลาง ได้รับรางวัล OTOP พรีเมี่ยม และได้ไปประกวดที่สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ได้รับรางวัล design innovation เมื่อปี 2017 โดยพิจารณาจากผลิตภัณฑ์ส้มตำกรอบของเรา ที่ผลิตให้อยู่ในรูปแบบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปและเก็บได้นาน นอกจากเป็นธุรกิจครอบครัวแล้ว ยังสร้างรายได้ให้ชาวบ้านในชุมชนด้วย ปัจจุบันมีพนักงานประมาณ 30 คน ที่ช่วยกันผลิตสินค้า” คุณต้น บอกอย่างนั้น

สำหรับคนที่สนใจผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปต่างๆ อย่าง ส้มตำไทยอบกรอบ  ข้าวเหนียวทุเรียน ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ สามารถสอบถามและสั่งสินค้าได้ที่เพจ https://www.facebook.com/mt.maetuk

 

อ่านข่าวเกี่ยวข้อง : สินค้าดังโลกโซเชียล โดนใจวัยทีน! “ส้มตำไทยอบกรอบ” ฉีกซอง เทน้ำเปล่า แซ่บได้ทันที