วันที่ 29 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ภายหลังราคาข้าวเปลือกตกต่ำอยู่ที่กิโลกรัมละ 5-6 บาท โรงสีจะรับซื้อข้าวเปลือกความชื้นไม่เกินร้อยละ 30 เฉลี่ยอยู่ที่ตันละ 6,000 กว่าบาท ส่วนข้าวเปลือกที่เปียกน้ำหรือปลอมปน ราคาจะอยู่ที่ตันละ 5,000 กว่าบาท ทำให้ชาวนาหลายคนจำเป็นต้องนำออกไปขาย เพื่อหาเงินมาใช้หนี้ครัวเรือน สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวนาเป็นจำนวนมาก ก่อนมีคนนำไปล้อเลียนในโลกออนไลน์ทำนองว่า เรามาถึงจุดที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมีราคาแพงกว่าข้าวแล้ว

จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ เร่งระดมความคิดเห็นจากกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน และคนหนุ่มสาว ในพื้นที่ เพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างสร้างสรรค์ ได้ข้อสรุปว่า งดขายข้าวเปลือกให้กับโรงสีหรือพ่อค้าคนกลาง  หันมาลงหุ้นรวมกลุ่มกันสีข้าวจากโรงสีชุมชนขนาดกลาง และนำไปขายกันเอง โดย อบต.ประกันราคาให้ กก. ละ 20 บาท ชาวบ้านขายนำไปขาย กก.ละ 27 บาท (มารับข้าวเอง) เป็นข้าวถุงขนาด 5 ก.ก. และขนาด 48 กก. ใช้ชื่อว่า “สะกาด ขวัญข้าว” สนับสนุนชาวนาโดยองค์การบริหารส่วนตำบลสะกาด อ.สังขะ จ.สุรินทร์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สั่งซื้อ ติดต่อ นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด 098-121-8398 หรือ คุณน้อง 093-4545-979,096-416-9165

นายสุข ยิ่งคง กำนัน ต.สะกาด กล่าวว่า ข้าวกำลังเก็บเกี่ยวโดนฝนบ้างอะไรบ้าง ปัญหาที่ประสบคือเราขายผลิตผลทางการเกษตรได้ในราคาที่ค่อนข้างถูก โรงสีบางเจ้าไม่รับซื้อข้าวจากชาวนาเลยก็มี อ้างตู้อบข้าวเต็ม อบไม่ได้บ้าง ต้องนำข้าวออกไปขายที่อื่นก็มี นี้คือปัญหาที่ชุมชน เกษตรกรบ้านเราพบ แต่ละโรงสีที่เขาอบข้าวพอแล้วก็จะบอกว่า เต็ม สำหรับข้าว กข 15 ข้าวหอมมะลิยังไม่ได้เกี่ยว แต่คนส่วนใหญ่ก็หันมาหว่าน ข้าว กข 15 เยอะเหมือนกัน นี้คือปัญหาของตำบลสะกาด

นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด กล่าวว่า พอหลังชุมชนเราเกี่ยวข้าวเสร็จก็จะมีการคัดคุณภาพ เอามาสีข้าว แล้วบรรจุหีบห่อแล้วส่งไปขายตามท้องตลาด อาจจะเอาไปวางฝากขายไว้ตามร้านค้า หรืออาจจะให้นักธุรกิจคลองถมขนไปขาย ที่ จ.ชลบุรี ไปขายที่ พัทยา ก็จะทำให้สามารถระบายข้าวได้มากขึ้น ราคาข้าวเปลือกที่ชาวบ้านขายกันในขณะนี้ ราคา 6 บาทถึง 8 บาท ก็จะได้เพิ่มเป็น ก.ก.ละ 12-13 บาท ทุกอย่างตนเป็นคนวางรากฐาน ให้พวกเขาเป็นคนคำนวนเองว่า ถ้าวางราคาให้ขนาดนี้ เขาจะคิดราคาขายกันสักเท่าไหร่ หมายความว่า ทุกคนเป็นคนตัดสินใจเอง เพื่อให้ทุกคนสามารถอยู่ได้เอง ตนมีหน้าที่แค่ผลักแนวคิด เป็นภาระให้ชาวบ้านกลับไปคิดและช่วยกันทำ เพราะฉะนั้นถ้าจะสงสารชาวนา ไม่ควรที่จะฟูมฟายอะไรมาก มาช่วยกันซื้อข้าว “สะกาด ขวัญข้าว” แล้วความทุกข์ยากของชาวนาจะได้รับการเยียวยา เพียงแค่ว่าเราจะรักษาคุณภาพข้ามหอมมะลิของเรา คุณภาพของการยืนบนแข้งขา ของตนเองได้อย่างไรให้ยั่งยืน และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ก็เท่านั้นเอง

ล่าสุด นายเมธา ขอชัย ปลัด อบต.สะกาด ได้โพสต์ข้อความในเฟชบุ๊คส่วนตัวข้อความว่า

“ข้าวคือความอ่อนไหวของเหตุและปัจจัยที่หลายหลาก ฝนตก-ข้าวหัก-รถเกี่ยวไม่พอ-คนงานเกี่ยวมือไม่มี  บางคนอยากซื้อข้าวที่หีบห่อดูดี บางคนอยากให้มีแค่ข้าวในถุงบรรจุก็พอ แต่ทุกคนไม่รู้หรอกว่า อบต.บ้านนอกที่ไกลเมืองและอ่อนหัดต่อเทคโนโลยี กว่าจะมีอะไรแต่ละอย่างล้วนแต่ขอรับมาจากน้ำจิตน้ำใจ ข้าวหลักร้อยหลักพันตันของชาวนาที่กำลังจะเดินออกจากรวงมาร่วงลงถุงพลาสติก หาคนช่วยคิดช่วยทำให้ด้วยใจ ไม่ง่ายยิ่งจะให้ดูดีแต่ไม่มีเงินจ่าย-ยิ่งไม่ง่ายเข้าไปใหญ่

ยามนี้มีบรรจุภัณฑ์ออกมาในโทนนี้ ผมดีใจอยู่คนเดียวอย่างที่สุดแล้ว โปรดทำความเข้าใจต่อความจริงจากที่เป็นอยู่จริง มิใช่ความจริงจากที่พิจารณาผ่านภาพและคำ ขอขอบคุณ ในงานออกแบบของ hanatist หลานสาวน้ำใจงามของผม”

ที่มา ข่าวสดออนไลน์