ดีเดย์ ‘มี.ค.63’ แกร็บถูกกฎหมายวิ่งฉลุย คมนาคมลั่นทำได้ชัวร์ ให้เรียกผ่านแอพแก้วิวาท

ดีเดย์ ‘มี.ค.63’ แกร็บถูกกฎหมายวิ่งฉลุย คมนาคมลั่นทำได้ชัวร์ ให้เรียกผ่านแอพแก้วิวาท

วันที่ 25 ก.ย. นายจิรุตม์ วิศาลจิตร รองปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยหลังเป็นประธานการประชุมคณะทำงานพิจารณาแนวทางการกำหนดให้รถยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ (มอเตอร์ไซค์) ที่ให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่น สามารถให้บริการรถโดยสารสาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย ว่าที่ประชุมได้กำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการ และการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้รถยนต์ส่วนบุคคล และรถจักรยานยนต์ สามารถดำเนินการให้บริการสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งคณะทำงานจะสรุปและเสนอกรอบแนวทางให้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม พิจารณาก่อนที่จะส่งไปยังกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เพื่อจัดทำรายละเอียดในการแก้ไขข้อกฎหมายต่อไป

“กรมขนส่งจะต้องทำรายละเอียดขั้นตอนการแก้ไขกฎหมาย จะแล้วเสร็จใน 30 วัน หรือภายในเดือนต.ค. และเสนอให้ รมว.คมนาคม เห็นชอบก่อนเสนอให้ ครม. อนุมัติ คาดว่าไม่น่าเกินเดือนพ.ย. จากนั้นเสนอต่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างกฎหมาย และส่งกลับมากระทรวงคมนาคมเพื่อประกาศเป็นกฎกระทรวงเพื่อประกาศ ซึ่งคาดว่าการนำรถส่วนบุคคลมาให้บริการเป็นสาธารณะได้ผ่านแอพพลิเคชั่นจะมีผลบังคับใช้ภายในเดือนมี.ค. 63”

นายจิรุตม์ กล่าวต่อว่า กรมการขนส่งฯ จะต้องกลับไปแก้ไขกฎกระทรวง ในส่วนของรถยนต์ส่วนบุคคล ที่มีที่นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง ให้สามารถมาให้บริการโดยสารสาธารณะได้ผ่านแอพพลิเคชั่น จากเดิมกฎกระทรวงดังกล่าวจะไม่รองรับที่จะให้มีการนำรถยนต์ส่วนบุคคล มาให้บริการรถยนต์สาธารณะได้ ส่วนรถจักรยานยนต์กรมการขนส่งฯ จะต้องแก้ไข พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ. 2522 ให้รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล สามารถมาให้บริการเป็นรถสาธารณะได้ผ่านแอพพลิเคชั่นได้ถูกกฎหมายได้ ส่วนพื้นที่การให้บริการรถจักรยานยนต์ จะต้องแก้ไขกฎหมายด้วยเพราะปัจจุบันรถรับจ้างมีการกำหนดขอบเขตพื้นที่ให้บริการ ไม่สามารถวิ่งข้ามเขตได้

นอกจากนี้ กรมการขนส่งฯ จะต้องไปกำหนดกรอบคุณสมบัติของผู้ประกอบการ ที่จะเป็นเจ้าของแอพพลิเคชั่นที่จะนำมาให้บริการ ต้องเป็นบริษัทคนไทย และจดทะเบียนในไทย ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอัตลักษณ์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการสแกนนิ้วมือ หรือการสแกนม่านดวงตา ของเจ้าของรถ และคนขับที่จะมาขับ ต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน เพื่อป้องกันการเกิดอาชญากรรมที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งฯ และเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบได้

อย่างไรก็ตาม กรมการขนส่งฯ ต้องไปกำหนดกรอบรายละเอียดของสภาพรถ ที่จะนำมาให้บริการ ต้องมีความสะอาด สภาพรถดี และปลอดภัย และต้องมีการกำหนดเงื่อนไขในการวิ่งรับผู้โดยสารจะต้องไม่ไปจอดรถรอดักผู้โดยสารตามท้องถนน และต้องให้บริการผ่านแอพพลิเคชั่นที่ผู้โดยสารเรียกเท่านั้น เพื่อลดข้อพิพาท