ผู้เขียน | ประชาชาติธุรกิจออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ร้านสะดวกซื้อไร้พนักงาน เทรนด์ใหม่มาแรง ยักษ์ใหญ่ “เอสซีจี”นำร่อง S-BingoBox 2 สาขารวด ปลายกันยาฯนี้ ปักหลัก “บางซื่อ-CDC” หวังนำเทคโนโลยีโลกอนาคตมาใช้เรียนรู้พฤติกรรมลูกค้า
ร้านค้าปลีกที่ไม่มีพนักงานและแคชเชียร์ หรือร้านค้าปลีกออฟไลน์ยังเป็นกระแสที่บรรดาผู้ประกอบการค้าให้ความสนใจพร้อมทั้งได้ทุ่มงบฯเพื่อนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาทดลองใช้มากขึ้น
SCG ลุยสะดวกซื้อ
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด (CBM) ในเครือเอสซีจี เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเปิดร้าน BingoBox ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อแบบบริการตัวเอง (self-service) ไม่มีพนักงานขาย ใช้พื้นที่ร้านขนาดประมาณ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ โดยปัจจุบันเปิดไปแล้ว 1 สาขาที่สํานักงานใหญ่ บางซื่อ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง และที่ SCG Experience CDC ถนนเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา จะเปิดให้บริการในช่วงปลายเดือนกันยายนที่จะถึงนี้
แหล่งข่าวย้ำว่า การเปิดร้านดังกล่าวถือเป็นหนึ่งในโครงการนำร่องของ CBM เพื่อจะศึกษาและเรียนรู้รูปแบบการนําดิจิทัลเทคโนโลยีมาทดลองใช้ในธุรกิจค้าปลีก รวมถึงยังเป็นการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้าโดยเริ่มจากพนักงานภายในและลูกค้าที่ SCG Experience เป็นอันดับแรก หลังจากเปิดให้บริการแล้วเราจะเน้นการทดลองระบบของทั้ง 2 สาขานี้ก่อน และหากประสบความสำเร็จก็พร้อมที่จะขยายผลและเปิดเพิ่มในอนาคต
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” ได้สำรวจร้าน S-BingoBox สาขาบริษัท เอสซีจี สำนักงานใหญ่ พบว่า ร้านดังกล่าวได้ทดลองเปิดให้พนักงานและผู้ที่เข้าไปติดต่อธุระได้ใช้บริการแล้ว โดยการใช้งานภายในร้านจะต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น “S-BingoBox” ลงในสมาร์ทโฟนแล้วจึงสร้างบัญชีผู้ใช้ชั่วคราวด้วยการใส่เบอร์มือถือ และเปิดแอปเพื่อสแกนคิวอาร์โค้ดหน้าประตู เพื่อเข้าไปภายในร้าน โดยสินค้าภายในร้านเอส-บิงโกบอกซ์นั้นมีความคล้ายคลึงกับร้านสะดวกซื้อทั่วไป เช่น เครื่องดื่ม ไอศกรีม ขนมขบเคี้ยว บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ
จากการสอบถามพนักงาน ร้านดังกล่าวอยู่ในช่วงทดลอง ระบบยังไม่สมบูรณ์ดีนัก เช่น ความเสถียรของตัวแอป หรือการที่หน้าจอบางส่วนยังเป็นภาษาจีน เป็นต้น ส่วนสาขาที่เอสซีจี เอ็กซ์พีเรียนซ์ เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 เดือนจึงจะเปิดให้บริการได้
ต้นกำเนิดจากเซี่ยงไฮ้
รายงานข่าวจากวงการค้าปลีก เปิดเผยว่า สำหรับร้านบิงโกบอกซ์ (BingoBox) เป็นหนึ่งในเชนร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมงแบบไร้พนักงาน ที่ก่อตั้งขึ้นช่วงปี 2560 ที่กระแสของเทคโนโลยีนี้กำลังบูมในแดนมังกรด้วยความร่วมมือระหว่างสตาร์ตอัพจีนกับบริษัท Auchan จากฝรั่งเศส เปิดสาขาแรกในกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2560 จนปัจจุบันมีสาขาประมาณ 500 แห่งทั่วจีนแผ่นดินใหญ่ และเดินหน้าขยายออกนอกประเทศ โดยเปิดสาขาแล้วในไต้หวัน เกาหลีใต้ มาเลเซีย รวมถึงไทย ซึ่งจับมือกับเอสซีจี และมีแผนรุกญี่ปุ่นกับออสเตรเลียต่อไป
“ซิหลิน เฉิน” ซีอีโอบิงโกบอกซ์ กล่าวว่า โดยเฉลี่ยใช้พื้นที่เล็ก 14 ตร.ม. มีสินค้า 200 ชนิด รวม 400-800 ชิ้น ขึ้นกับทำเล โดยลูกค้าจะต้องสแกนคิวอาร์โค้ดผ่านแอปบิงโกบอกซ์เพื่อเปิดประตูเข้าไปในร้าน ส่วนการซื้อเพียงวางสินค้าบนเครื่องสแกนเพื่อคำนวณราคาและจ่ายเงินด้วยวีแชตหรืออาลีเพย์ ซีอีโอบิงโกบอกซ์ ระบุว่า ด้วยเทคโนโลยีที่ไม่มีความซับซ้อนจะช่วยให้การขยายสาขาเร็ว คล่องตัวและโดยใช้เวลา 40 นาทีในการรีสต๊อกสินค้า ตัวร้านถอดประกอบ-ย้ายทำเลได้ง่าย รักษาความปลอดภัยด้วยระบบจดจำใบหน้าและกล้องวงจรปิดที่เชื่อมต่อกับศูนย์รักษาความปลอดภัย และส่งโปรโมชั่นผ่านออนไลน์ไปยังลูกค้าได้ โดยสาขาในจีนมียอดขายเฉลี่ย 150-300 เหรียญสหรัฐต่อวัน คืนทุนได้ใน 5 เดือน
เซเว่นฯ สหพัฒน์ JD มาแน่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในประเทศไทยยังมีผู้ประกอบการไทยและต่างชาติทดลองเปิดร้านค้าปลีกไร้แคชเชียร์คึกคัก อาทิ เจดี ดอทคอม ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาตลาดและกฎหมาย อาจจะเปิดในไทยปีหน้า
ขณะที่เครือสหพัฒน์จับมือกับทรู บิสซิเนสฯ พัฒนาระบบร้านไร้แคชเชียร์ Unmanned Store และนำร้านตัวอย่างของ His & Her Smart Shop มาเปิดทดลองใช้ในงานสหกรุ๊ปแฟร์ปี 2562 ขณะเดียวกัน สถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์แห่งจุฬาฯจับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ Sasin Scan N”Go Powered by SCB ร้านขายของที่ระลึกแบบไร้แคชเชียร์ ส่วนเซเว่นอีเลฟเว่นเริ่มทดลองระบบจ่ายเงินด้วยการสแกนใบหน้าที่สาขาทรู ดิจิทัล พาร์ค สุขุมวิท 101 เช่นกัน