เปิดใจ ลุงสองแถว ใส่สายให้อาหารทางจมูกขับรถ กัดฟันสู้ 13 ชม. เห็นใจคนช่วยถูกโจมตี

เปิดใจ ลุงสองแถว ใส่สายให้อาหารทางจมูกขับรถ กัดฟันสู้ ขับรถ 13 ชม. แม้ป่วยหนัก เผยเป็นมะเร็งในช่องปาก ปวดฟันไปหาหมอเลยรู้ความจริง เห็นใจคนช่วยถูกโจมตี ขอบคุณคนที่บริจาค

ลุงสองแถว หลังจากที่มีหญิงสาวคนหนึ่ง นำภาพของลุงขับรถสองแถวที่ใส่สายให้อาหารทางจมูกขับรถ เพราะมีอาการป่วยอย่างหนัก จนมีการแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง รวมถึงสาวผู้โพสต์ก็ได้เข้าไปช่วยเหลือ เปิดรับบริจาคให้ลุงคนดังกล่าว

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ก.ย. นายสมาน ทองสุขเสนี อายุ 55 ปี หรือ ลุงหมาน และ นางลัดดา แฉล้มรัมย์ อายุ 52 ปี หรือ ป้าดา ภรรยาลุงหมาน เปิดใจกับ “ข่าวสดออนไลน์” หลังจากที่ป่วยเป็นมะเร็งในช่องปาก ต้องให้อาหารทางสายยางผ่านจมูก แต่สู้ชีวิต ออกมาขับรถสองแถวเพื่อหาเงินเป็นค่ารักษาพยาบาล

นายสมาน กล่าวว่า ตนป่วยเป็นมะเร็งในช่องปากมา 6 เดือนแล้ว เป็นตั้งแต่ช่วงปีใหม่ ต้องกินอาหารทางสายยาง ซึ่งตนขับรถสองแถวมาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น หลังจากไปผ่าตัดรักษาอาการป่วยหมอบอกว่าไม่ให้ทำงาน ขอให้พักไปก่อน แต่ตนต้องใช้เงินในการรักษาตัวเอง เลยตัดสินใจสู้ ออกมาขับรถสองแถว พี่สาวก็เป็นห่วง ปั่นอาหารให้ แล้วใส่ถุงไปให้กินในรถ โดยเริ่มขับตั้งแต่เวลา 06.00-19.00 น. ได้เงินมาประมาณ 300-400 บาท

จนกระทั่งมีพลเมืองดีมาเห็น ให้เงินมา 100 บาท เป็นค่ารถ แล้วก็เดินไปเลย จึงไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร มารู้อีกทีคือเขาตามหาตน ช่วยเหลือตน ซึ่งตนไม่มีหมายเลขบัญชี ก็เลยให้เลขบัญชีพี่สาวไป คิดว่าไม่มีปัญหาอะไร สุดท้ายคนที่ช่วยเหลือตนกลับโดนโจมตี ทั้งนี้ ตนขอขอบคุณทุกคนที่บริจาคเงินมาช่วยเหลือ ขอบคุณมากๆ ขอให้อายุของท่านยิ่งยืนนาน ร่ำรวยๆ ไปเรื่อยๆ

ขณะที่ นางลัดดา กล่าวว่า เริ่มแรกเดิมทีลุงปวดฟัน ตนก็พาไปถอนที่คลินิกหมอฟันแต่ไม่สามารถถอนได้ เลยให้ไปที่โรงพยาบาลกาญจนา จนตรวจพบว่าลุงมีเนื้อร้ายในช่องปากหรือมะเร็งในช่องปาก และจะต้องผ่าตัดแต่ลุงไม่มีเงิน มีคุณหมอใจดีช่วยในการรักษาพยาบาลและผ่าตัดรวมถึงดูแลมาถึงปัจจุบัน แต่จะต้องย้ายบ้านจากที่หนองแขม เนื่องจากมีน้ำเน่าเสียมีแมลงวันเยอะ ทำให้บางครั้งแมลงวันบินเข้าปากก็มี จึงจำเป็นจะต้องใช้ผ้าปิดปาก ระหว่างนี้ต้องรอคุณหมอนัด ซึ่งไม่ทราบว่าจะทำอะไรต่อ แต่กังวลเรื่องเหล็กที่ปาก ที่โผล่ออกมา ซึ่งวันศุกร์นี้ตนจะต้องพาลุงไปหาหมอ

นางลัดดา กล่าวอีกว่า ที่ออกไปทำงานก็รู้สึกเหนื่อย ที่ทำงานเพราะจะต้องใช้จ่ายเรื่องของการเดินทางไปหาหมอ สาเหตุที่ลุงต้องออกไปทำงานเนื่องจากตนไม่ได้ทำงาน ลุงจึงต้องออกไปทำงานแทน ซึ่งลุงแกลุกขึ้นสู้และไม่รู้คิดยังไง เพราะจะได้เอาเงินมารักษาตัวเขาเอง โดยไม่ต้องไปเดือดร้อนใคร ตอนนี้ตนก็อยู่กับลุงตลอด 24 ชั่วโมง เนื่องจากกลัวลุงเป็นอะไรไป ใหม่ๆ ก็เครียดแต่ตอนนี้สู้ไม่ถอย ต้องสู้เพราะโรคนี้มันไม่ได้ติดตัวมาตั้งแต่เกิด ซึ่งมันเพิ่งมาเป็นเราต้องสู้ให้หายจากโรคนี้ให้ได้

“จนมาเจอนางฟ้าคนนี้ที่เป็นคนโพสต์เรื่องราวให้ในโลกโซเชียล ตนไม่ทราบว่านางฟ้าคนนี้เห็นลุงได้อย่างไร ค่ารถแค่ 5 บาท แต่ให้เงินมา 100 บาท ตั้งแต่ขับรถมาไม่มีใครใจดีขนาดนี้ ก็วอนขออย่าไปโจมตีนางฟ้าคนนี้เลย เพราะว่าคนนี้เข้ามาช่วยเหลือเรา ขอให้หยุด เขาเป็นคนดีจริงๆ ขอให้มองคนนี้ในด้านดีบ้าง” นางลัดดา กล่าว