ผู้เขียน | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 28 ตุลาคม ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.แพร่ ว่ามีการตัดไม้สักทองขนาดใหญ่อายุกว่า 100 ปี บริเวณสองข้างทางหลวงหมายเลข 11 ระหว่างด่านป่าไม้ที่ พร. 21 บ้านปากปาน ต.ไทรย้อย อ.เด่นชัย ไปจนถึงแยกปางเคาะ ระยะทางกว่า 17 กม. ไม้สักขนาดใหญ่ถูกตัดล้มกว่า 500 ต้น การตัดไม้ดังกล่าวเป็นโครงการขยายทางหลวงหมายเลข 11 จากสองช่องทางจราจรเป็นสี่ช่องทางจราจร ตามแผนขยายแนวเส้นทางรอบๆ รับการเจริญทางเศรษฐกิจและประชาคมอาเซียน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตัดไม้ดังกล่าวมีประชาชนจำนวนมากที่ผ่านเส้นทางแห่งนี้ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะประชาชนในชุมชนไม่พอใจที่ทางราชการตัดต้นสักขนาดใหญ่ออกไปจากบริเวณดังกล่าว ซึ่งเป็นแหล่งไม้สักพันธุ์ดีที่ราชการเคยนำต้นสักบริเวณนี้ไปทำเสาชิงช้าที่หน้าวัดสุทัศนเทพวราราม โดยมีพิธีพราหมณ์ที่จัดขึ้นเป็นพิธีศักดิ์สิทธิ์ ทำให้บริเวณดังกล่าวกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ศึกษาธรรมชาติ และเป็นที่จำหน่ายสินค้าชุมชนของชุมชนปางเคาะ ชุมชนไทรย้อย
น.ส.ชยาภรณ์ แก่นภักดี นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านภาคเหนือ กล่าวว่า เห็นการตัดไม้ถึงกับเศร้าใจและได้ลงมาดูต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกตัด ตนเป็นคนไทยที่ไปทำงานอยู่ในสวีเดน เห็นบ้านเมืองในยุโรปทุกประเทศให้ความสำคัญกับต้นไม้มากทั้งทางราชการและประชาชน แต่กลับมาบ้านเมืองไทยมาเที่ยวภาคเหนือ เห็นการตัดไม้ขนาดใหญ่รู้สึกเสียใจมาก ในประเทศอังกฤษมีต้นไม้ขนาดใหญ่ในสองข้างทาง ทั้งรัฐบาลและประชาชนต่างเห็นความสำคัญและพากันอนุรักษ์ แม้ว่าจะขยายถนนไม่ได้ก็หาเส้นทางใหม่เพราะถือว่าต้นไม้สำคัญที่สุด แต่เมื่อมาเห็นที่ จ.แพร่ รู้สึกเสียใจมากกับการกระทำของทางราชการไทยที่ตัดต้นไม้ขนาดใหญ่และขนาดเล็กโดยไม่เห็นความสำคัญกับต้นไม้เหล่านี้เลย
นายอำนวย พลหล้า ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.แพร่ กล่าวว่า การตัดไม้ดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่าใจหาย แม้ว่าแขวงการทางแพร่ได้ทำการขออนุญาตตัดอย่างเป็นทางการ โดยให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เข้ามาตัดและนำไปจำหน่ายตามระเบียบราชการ เท่าที่ไปพบเห็นมีการตัดทั้งต้นสักขนาดใหญ่และต้นสักและไม้อื่นๆ ที่มีขนาดที่นำไปสู่การขยายพันธุ์ได้ก็ถูกตัดจนหมดเพื่อการสร้างทาง ในจังหวัดแพร่มีการประท้วงเรื่องการตัดไม้มาหลายครั้ง แต่แขวงการทางก็มิได้ถือปฏิบัติในการนำต้นไม้มีค่าออกจากแนวสร้างทาง ภาพที่เห็นประชาชนทั่วไปไม่พอใจและอยากอนุรักษ์ต้นไม้เหล่านี้ไว้ ก็สุดแล้วแต่ทางราชการที่ขณะนี้มีอำนาจเต็มในการบริหาร จะทำอะไรก็ได้หรือเปล่า ถ้ารัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมองเห็นความสำคัญของไม้ขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญมากก็คงต้องเร่งให้แขวงการทางระงับโดยด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การตัดไม้ดังกล่าวกรมทางหลวงได้มอบให้งานสวนป่าเด่นชัย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตแพร่ เป็นผู้ดำเนินการทำไม้สองข้างทางหลวงหมายเลข 11 ตรง กม.370+065 ถึง กม.387+ 575 ตามใบอนุญาตกรมป่าไม้ที่ 1.ใบอนุญาตทำไม้สักเล่มที่ 083 ฉบับที่ 01 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2559 2.ใบอนุญาตทำไม้กระยาเลย เล่มที่ 1055 ฉบับที่ 63 ลงวันที่ 14 มิถุนายน 2559 ระยะเวลาดำเนินการ 11 กรกฎาคม ถึง 12 เมษายน 2560 3.ผู้รับผิดชอบคืองานสวนป่าเด่นชัย องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้เขตแพร่ โครงการดังกล่าวเป็นการตัดไม้สักขนาดใหญ่บริเวณแหล่งไม้สักพันธุ์ดีที่นำไปทำเสาชิงช้าในปัจจุบัน ซึ่งประชาชนต่างไม่พอใจเนื่องจากเป็นแหล่งพันธุ์ไม้สักที่เคยเข้าสู่พิธีบวงสรวงโดยพราหมณ์หลวงมาก่อนแล้ว โดยต้องการให้มีการตัดให้น้อยที่สุด และพยายามอนุรักษ์ต้นไม้ทุกชนิดโดยการเคลื่อนย้ายมากกว่าการตัดทิ้ง