คาดส่งออกไทยปี’62 หดตัว -0.64% ติดลบในรอบ 4 ปี พิษสงครามการค้า

มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยคาดส่งออกไทยปี’62 หดตัว -0.64% ติดลบในรอบ 4 ปี พิษสงครามการค้า

คาดส่งออกปี’62 หดตัวรอบ4ปี  – นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ศูนย์ได้ทำการวิเคราะห์ทิศทางการส่งออกไทยปี 2562 และการส่งออกไทยครึ่งหลังของปี 2562 โดยคาดว่ามูลค่าการส่งออกทั้งปี 2562 ของไทย จะมีมูลค่าเท่ากับ 251,338 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือหดตัว -0.64% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบ 4 ปี

อย่างไรก็ตาม ในครึ่งหลังของปี 2562 คาดว่ามูลค่าการส่งออกจะสามารถขยายตัวได้ 1.6% มีมูลค่าการส่งออกเท่ากับ 128,367 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยหากจะให้การส่งออกในปีนี้ไม่ติดลบหรือเติบโตในระดับ 0% นั้นจะต้องทำให้มูลค่าการส่งออกของไทยที่เหลือแต่ละเดือนมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 21,664 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 670,000 ล้านบาท คิดเป็น 2.9% ต่อเดือน

อย่างไรก็ตาม การส่งออกของไทยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงและประเด็นที่ต้องติดตาม เช่น ทิศทางเศรษฐกิจโลกที่มีแนวโน้มชะลอลงจากสงครามการค้าจีนและสหรัฐที่ยังยืดเยื้อ ด้านค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง คาดเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 30-31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 6 ปี ซึ่งจะกระทบการส่งออกโดยเฉพาะสินค้าหมวดยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ผลิตภัณฑ์ยาว มันสำปะหลัง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณปรับลดดอกเบี้ย ราคาน้ำมันโลกผันผวน

ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทต่อวัน ทำให้ค่าแรงของไทยสูงขึ้นเป็นอันดับ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์และบรูไน โดยค่าจ้างที่เปลี่ยนแปลงไป 1% คาดจะส่งผลกระทบให้การส่งออกลดลง 0.06% ซึ่งการขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 400 บาทเท่ากับมีการปรับค่าจ้างเพิ่มขึ้นประมาณ 30% จะส่งผลกระทบให้การส่งออกลดลง 1.8.% หรือมีมูลค่าประมาณ 4,524 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

“สงครามการค้าจีน-สหรัฐ ที่ยืดเยื้อส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจโลก ซึ่งการส่งออกของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็หดตัวลงเช่นเดียวกับไทย โดย 5 เดือนแรกของปี 2562 อินโดนีเซียส่งออกหดตัวถึง -9.5% เกาหลีใต้ -7.4% และญี่ปุ่น -6.2% สิ่งที่อยากให้รัฐบาลใหม่จัดทำเร่งด่วน คือ เร่งผลักดันตลาดส่งออกใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เพียงจีนและสหรัฐ เช่น อินเดีย แอฟริกา เอเชียกลาง เป็นต้น พร้อมจัดกิจกรรมชวนช็อปชิมในประเทศต่างๆ”นายอัทธ์ กล่าว