ที่มา | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“อนุทิน” ยันนโยบายกัญชายึดหลักทางการแพทย์ ไม่เคยพูดใช้สันทนาการ ย้อนเหล้า-บุหรี่ยังควบคุมได้ ระบุ หากผลักดันได้ดีจะเป็นประโยชน์ทางเศรษฐกิจด้วย
เมื่อเวลา 08.40 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีกระทรวงยุติธรรมออกมาระบุถึงอนุสัญญาเดี่ยวว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ ค.ศ.1961และอนุสัญญาว่าด้วยวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ค.ศ.1971 ที่ยินยอมให้ใช้กัญชาทางการแพทย์หรือในทางวิทยาศาสตร์เท่านั้นว่า
ตอนนี้เราก็ต้องเริ่มจากการรักษาก่อน ซึ่งในทางการแพทย์นั้นทำได้อยู่แล้ว แต่เรายังไม่พูดถึงเรื่องทางการค้า ทั้งนี้ตอนที่หาเสียงพรรคภูมิใจไทยไม่เคยพูดถึงเรื่องสันทนาการ แต่เรื่องนี้เป็นผลพลอยได้ คงไม่มีพรรคไหนจะไปบอกว่าขอทำกัญชาให้เสรี สูบกันสนุกสนานเต็มที่ ไม่ใช่
นายอนุทิน กล่าวว่า เราเห็นคุณค่าของกัญชา กัญชง สารสกัดจากกัญชา (CBD) และสารออกฤทธิ์จากกัญชา (CHT) ใช้ในการรักษาโรค ผลิตยา ทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ เราจึงผลักดันเรื่องนี้ และหากทำได้อย่างดีก็จะมีประโยชน์ในการสร้างเศรษฐกิจต่อบ้านเมือง
ขณะที่พืชกัญชงเราก็สามารถไปทำเป็นวัตถุดิบของอุตสาหกรรมต่างๆได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องส่วนผสมอาหาร เครื่องสำอางต่างๆ และสามารถขยายผลไปเป็นผลิตภัณฑ์ทางการค้าต่างๆ นี่คือขั้นตอนต่อไปที่เราจะทำ แต่ต้องเริ่มจากทางการแพทย์ก่อน เพื่อให้เห็นว่ามันไม่มีโทษอะไรมากมาย ภายใต้ปริมาณที่จำกัด ต้องเริ่มตัวอย่างให้คนเห็น และสามารถใช้ประโยชน์จากตรงนั้นได้อย่างไร
เมื่อถามว่า แนวคิดที่จะให้ปลูกบ้านละ 6 ต้นนั้น จะสามารถควบคุมได้อย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ทำไมเราถึงคุมเหล้า เบียร์ บุหรี่ได้ ทำไมเราถึงรู้ว่าต้องกินยาพารา ครั้งละ 1 เม็ด ทำไมไม่กินทีเดียว 20 เม็ด ใช่หรือไม่ มันต้องอยู่ที่การให้ความเข้าใจของผู้ปกครอง ต้องช่วยกันดูแลลูกหลาน ทั้งนี้ในส่วนของกัญชานั้นพบว่ามีการออกฤทธิ์ที่ดีที่สุดกับผู้ที่มีอายุ 25 ปีขึ้นไป และจะต้องมีกฎหมายด้วยว่าใครอายุต่ำกว่า21 ปี ไม่สามารถใช้ได้ ซึ่งการควบคุมดูแลก็เหมือนกับการที่ห้ามเด็กไม่ให้สูบบุหรี่ ดื่มเหล้า เบียร์
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม การจะครอบครองต้องมีการแจ้งอย่างเป็นทางการ ยังไม่สามารถซื้อขายกันได้อย่างเสรี ทั้งนี้ ตนพึ่งเข้ามาทำงานจะให้เสร็จทุกอย่างเลยคงเป็นไปไม่ได้ ต้องปลดล็อกทีละล็อก กฎหมายห้ามไว้เยอะแยะ ต้องประสานไปที่หน่วยงานอื่นๆ โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)