จับตามติครม.ไฟเขียวประกันรายได้เกษตรกร พณ.ดันปาล์ม-ยางพารา ก่อนข้าว

จับตามติครม.ไฟเขียวประกันรายได้เกษตรกร พณ.ดันปาล์ม-ยางพารา ก่อนข้าว

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า กรมได้เตรียมพร้อมสำหรับการวางแนวทางปฎิบัติและหลักเกณฑ์ภายใต้โครงการประกันรายได้ให้กับเกษตรกรแล้ว หลังรัฐบาลเสร็จสิ้นการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาผ่านพ้นไป ซึ่งสินค้าเกษตรที่จะใช้โครงการประกันรายได้ก่อนคือปาล์มน้ำมันและยางพารา ที่จะประชุมทันที หลังจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ(กนป.)เรียบร้อยแล้วโดยจะเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนและมีรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน คาดว่าจะประชุมได้ภายในต้นเดือนสิงหาคมนี้

นายวิชัย กล่าวว่า ซึ่งกระบวนการตัดสินใจกำหนดเกณฑ์ประกันรายได้ของพืช 5 ชนิดเป้าหมาย คือ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน จะต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการนโยบายแห่งชาติด้านเกษตรชุดใหญ่ก่อน แล้วค่อยเรียกประชุมคณะกรรมการกำกับของพืชแต่ละชนิดที่มีคณะกรรมการดูแลอยู่แล้ว ซึ่งในการประชุมหารือและพิจารณากรอบและเงื่อนไขการดูแล แม้ในโครงการประกันรายได้เกษตรกรจะต้องมีการกำหนดเกณฑ์ราคาอ้างอิง กำหนดจำนวนพื้นที่(ไร่)ที่ให้แต่ละครัวเรือน ระบบการจดทะเบียนและยังเกี่ยวข้องกับการใช้งบประมาณ ซึ่งต้องผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบและ หาข้อสรุปร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งตัวแทนภาครัฐ ภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ผู้ประกอบการล้ง ผู้แปรรูปและเกษตรกร

“หลังจากหาข้อสรุปแนวทางประกันรายได้ให้กับปาล์มน้ำมันและยางพาราแล้ว ข้าวจะเป็นสินค้าตัวต่อไป เนื่องจากผลผลิตข้าวนาปีจะเริ่มทยอยออกมามากในช่วงเดือนพฤศจิกายนของปี และจากนั้นก็เป็นข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และมันสำปะหลัง ซึ่งผลผลิตจะออกต่อจากนั้น ” นายวิชัย กล่าว

นายวิชัย กล่าวว่า ส่วนราคาประกันรายได้ของพืชแต่ละชนิด คงต้องดูประกอบกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะแล้งจะกระทบต่อราคาตลาดของพืชแต่ละชนิดในขณะที่จะใช้มาตรการแค่ไหน และเงื่อนไขที่จะช่วยเหลือว่าจะกำหนดพื้นที่ให้การช่วยเหลืออย่างไร ไม่อาจระบุได้ตอนนี้ว่าจะเป็นเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้หลายสินค้าราคาดีขึ้น ส่วนหนึ่งจากพื้นที่เพาะปลูกได้ผลผลิตลดลงจากภัยแล้ง และตลาดแย่งกันซื้อเพื่อส่งมอบในช่วง 1-2 เดือนนี้ โดยภายในเดือนสิงหาคมนี้ จะเห็นความชัดเจนเงื่อนไขในการช่วยเหลือเกษตรกรมากขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ประกาศนโยบายใช้การประกันรายได้เกษตรกร เป็นมาตรการหนึ่งเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับเกษตรกรและกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก ซึ่้งในช่วงหารเสียงพรรคประชาธิปัตย์ประกาศว่าจะผลักดันราคายางพาราไม่ให้ต่ำกว่า 60 บาทต่อกิโลกรัม(กก.) ผลปาล์ม 4 บาทต่อกก. ข้าวเปลือกเจ้าตันละ10,000 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลิตันละ15,000 บาท แต่ราคาจะออกมาเป็นเท่าไหร่กันแน่ จะต้องพอการประชุมร่วมกับตัวแทนเอกชนและเกษตรกร และต้องรอให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้พิจารณาสุดท้าย ทั้งนี้ โครงการประกันรายได้เกษตรกรที่ผ่านมา ใช้วิธีการคำนวณส่วนต่างที่รัฐจ่ายชดเชยรายได้ให้เกษตรกรเมื่อราคาขายตอนนั้นต่ำกว่าราคาอ้างอิงที่รัฐกำหนด โดยยึดราคาอ้างอิงของกรมการค้าภายใน ส่วนจำนวนพื้นที่ให้การช่วยเหลือเกษตรกรต่อราย ที่ผ่านมา อย่างข้าวกำหนดพื้นที่ไม่เกิน 10-15 ไร่ต่อราย ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไม่เกิน 15- 20 ไร่ต่อราย ขณะที่มันสำปะหลังไม่เกิน 100 ตัน/ราย ส่วนปาล์มน้ำมันรัฐบาลที่ผ่านมายังไม่เคยใช้มาตรการ