อยากขายของที่ “ตลาดถนอมมิตร” ต้องทำยังไง แล้วค่าเช่าเท่าไหร่?

หนึ่งในตลาดสด ขึ้นชื่อว่าเป็นทำเลค้าขายย่านรามอินทรา มีสินค้าให้เลือกจับจ่ายใช้สอยหลากหลาย ครบ จบในที่เดียวคงต้องนึกถึง “ตลาดถนอมมิตร” ที่เปิดให้บริการมายาวนาน 12 ปี

คุณศุภกร กิจคณากร ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการ ทายาทรุ่นสอง ตลาดถนอมมิตร เล่าว่า ตลาดถนอมมิตรเปิดให้บริการมายาวนาน 12 ปี จากรุ่นพ่อรุ่นแม่ที่ช่วยกันบริหารงาน จนในปี 2554 ตนผู้เป็นทายาทจึงได้เข้ามารับช่วงต่อ

“เมื่อก่อนพ่อกับแม่ของผมทำตลาดมาหลายที่ เช่น ตลาดบางกะปิ ตลาดประชานิเวศน์ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นตลาดที่สร้างบนที่ของ กทม. ภายหลังหมดอายุสัมปทาน กทม. ก็รับไปบริหารต่อ เหลือก็แต่ตลาดถนอมมิตรที่ยังคงเปิดให้บริการ รวมพื้นที่ราว 8 ไร่” คุณศุภกร เล่า

ในปี 2554 ที่คุณศุภกร เข้ามาดูแล เรียกว่าเป็นช่วงขับขัน เพราะเป็นปีที่น้ำท่วมหนัก หลายพื้นที่ในกรุงเทพฯถูกพัดไปกับมวลน้ำ

“ปี 54 เกิดวิกฤตน้ำท่วม เลยเข้ามาช่วยดูแล โชคดีที่น้ำไม่ท่วม เหลืออีกแค่ 5 เซ็นต์ ช่วงนั้นแม่ค้าขายของไม่ได้ มีปัญหาเพราะต้องไปซื้อของจากตลาดขายส่งมาขาย เช่น ตลาดไท ซึ่งแถวนั้นก็ท่วม เลยจัดรถสิบล้อพาพ่อค้าแม่ค้าออกไปซื้อของ เสร็จก็นำรถสิบล้อลุยเข้าไปในชุมชนรอบๆ เพื่อรับส่งคนเข้าตลาด” คุณศุภกร เล่าถึงช่วงน้ำท่วม

ใช้รถสิบล้อรับส่งคนเข้าตลาดช่วงน้ำท่วมอยู่เกือบเดือน ทำให้คุณศุภกรเห็นว่าตลาดยังมีปัญหาให้ต้องแก้อีกมาก จึงรับช่วงต่อมาถึงปัจจุบัน แบ่งเวลาจากการดูแลธุรกิจอสังหาฯ มาดูแลตลาดร่วม 8 ปี

คุณศุภกร เล่าว่า ธุรกิจตลาดสดเป็นสิ่งที่อยู่สังคมไทยมานาน มีอยู่ในทุกชุมชนกลืนกันจนเป็นวิถีชีวิต แม้ว่าช่วง 10-20 ปี หลังมานี้ ตลาดสดจะได้รับผลกระทบจากโมเดิร์นเทรดน้อยใหญ่ อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายๆ อย่างที่ตลาดสดมี แต่โมเดิร์นเทรดไม่มี คือ เสน่ห์ของการค้าขาย ลูกค้าจะได้ซื้อของกับเจ้าของร้านโดยตรง เรื่องคุณภาพ การต่อรอง การให้บริการจึงทำได้ดีกว่าการซื้อของจากโมเดิร์นเทรดที่จ้างพนักงานมาขาย ความใส่ใจเรื่องการบริการจึงแตกต่างกัน

“ตลาดสดมีเสน่ห์แตกต่างจากโมเดิร์นเทรด แต่ยังมีคนมองภาพตลาดสดว่า เฉอะแฉะ ของไม่ได้มาตรฐาน เป็นอีกสิ่งที่ต้องปรับตัวกับทัศนคติของผู้บริโภคที่มีต่อตลาดสดเช่นกัน”

ปัจจุบัน ตลาดถนอมมิตร มีแผงค้าราว 1,000 แผง ซึ่งมีแผงค้าหมุนเวียนอยู่เรื่อยๆ เก่าไปใหม่มาอยู่ตลอด หากพ่อค้าแม่ขายสนใจอยากเปิดแผงขายของ คุณศุภกร ระบุว่า สามารถเข้ามาลงทะเบียนที่ตลาดได้เลย โดยมีข้อมูลที่ต้องกรอกคร่าวๆ คือ ขายอะไร สินค้าราคาเท่าไหร่ หากเป็นของกินให้นำตัวอย่างมาให้ชิมจะดีมาก

“เมื่อก่อนเราไม่ได้คัดเลือกแผงค้ามากขนาดนี้ พอมาแล้วไม่ใช่เจ้าของร้านตัวจริง ขายไม่ได้อยู่ไม่นานก็ไป ผู้ที่มาลงทะเบียนหลายคนก็งง ว่าทำไมเรื่องเยอะ เราจะคุยแต่แรกว่าขอทราบข้อมูลรายละเอียด เพื่อที่จะได้ไม่เสียเวลากันทั้งสองฝ่าย บางคนมาขายของต้องย้ายบ้านจากต่างจังหวัดมาอยู่ กทม. เราเสียเวลาในการหาแผงค้าใหม่ ส่วนคุณเสียเวลาย้ายเข้าย้ายออก”

 

โดยค่าเช่าแผง เริ่มที่ 2,500 บาท พื้นที่ขนาด 4-5 ตารางเมตร

ช่วงท้ายถามถึงกลยุทธ์ “ลูกค้ามาก่อน เราต้องพยายามคิดว่า ทำไมลูกค้าถึงต้องมาที่ตลาดเรา ที่เหลือคือแนวทางการทำงาน การพัฒนา จะตามมาเอง” คุณศุภกร กล่าวทิ้งท้าย

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก ตลาดถนอมมิตร