ยโสธรแล้งจัด ลำน้ำชีแห้ง ข้าวอ่อนยืนต้นตาย 500 ไร่ ชาวบ้านขอรัฐช่วยด่วน

ยโสธรแล้งจัด ลำน้ำชีแห้ง ข้าวอ่อนยืนต้นตาย 500 ไร่ ชาวบ้านขอรัฐช่วยด่วน

วันที่ 20 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์ภัยแล้งลามทั่ว จ.ยโสธร ล่าสุดปริมาณน้ำในลำน้ำชีแห้งขอด จนเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ที่ ชาวบ้านคุยตับเต่า หมู่ที่ 5 ต.ขุมเงิน อ.เมืองยโสธร จ.ยโสธรไม่สามารถสูบน้ำจากลำน้ำชีเข้าพื้นที่ทำนาได้ เนื่องจากปริมาณน้ำมีน้อย หรือถ้าสูบได้ต้องรอบ่อน้ำซึมใต้ผิวดินไหลมาสมทบแต่ต้องรอ 2-3 วัน จึงส่งผลให้ต้นข้าวอ่อนที่กำลังเจริญงอกงามสูงเลยผิวดิน ขนาด 30 เซนติเมตร เหี่ยวแห้งตายกว่า 500 ไร่ จากนาข้าวทั้งหมด 1,600 ไร่

ชาวบ้านคุยตับเต่า กล่าวว่า ปกติเดือนกรกฎาคม ปริมาณน้ำจุดหลังวัดบ้านคุยตับเต่า จะอยู่ที่ระดับ 5-6 เมตร ปีนี้ปริมาณน้ำในลำน้ำชีเหลือ 30 เซนติเมตรเท่านั้น และสามารถเดินข้ามได้ ลำบากมากปีนี้ กระทบมากในการทำนา และอาชีพหาปลา

นายสมคิด ประสมศรี ผู้ใหญ่บ้านบ้านคุยตับเต่าหมู่ที่ 5 ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองยโสธร กล่าวว่า มีราษฎรจำนวน 145 ครอบครัว ส่วนใหญ่ประชาชนมีอาชีพทำนา และหาปลาขายส่งตลาดในตัวเมืองยโสธร ลูกบ้านที่มีที่นาอยู่ใกล้คลองส่งน้ำก็พอจะสูบน้ำไปหล่อเลี้ยงต้นข้าวได้แต่ก็พอประทัง ส่วนนาข้าวที่ไม่มีคลองส่งน้ำผ่านขณะนี้แห้งตายหมดแล้ว

ด้าน นายประหยัด เรวัน อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 105 บ้านคุยตับเต่า หมู่ที่ 5 ตำบลขุมเงิน อำเภอเมืองยโสธร กล่าวว่า ต้องการให้ทางจังหวัดยโสธร ตั้งงบประมาณซ่อมแซมคลองส่งน้ำ ที่ชำรุดที่พังเสียหาย และตั้งงบประมาณจัดซื้อน้ำมันเพื่อสูบน้ำที่พอสูบได้ 2-3 วันต่อครั้ง ก็จะเป็นการดี ส่วนภัยแล้งปีนี้ทั้งแต่ตนเกิดมายังไม่เคยเห็นจะแล้งหนักขนาดนี้ น่าจะแล้งในรอบ 60 ปี เลยทีเดียว

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าพื้นที่ทำนาในลุ่มน้ำชี ประกอบด้วย อำเภอเมืองยโสธร อำเภอคำเขื่อนแก้ว อำเภอมหาชนะชัย และอำเภอค้อวัง จังหวัดยโสธร ที่อาศัยสูบน้ำจากลำน้ำชีเพื่อการเกษตร ปีนี้จะลำบากเพราะภัยแล้ง น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติ เช่น ห้วยหนองคลองบึงที่ขุดลอกไว้รองน้ำฝน หน้าฝนปีนี้ล้วนเหือดแห้ง