“สนธิรัตน์” เผยผู้ใช้แรงงานเตรียมเฮ ทุกพรรครัฐบาลเห็นพ้อง ขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท

“สนธิรัตน์” เผยผู้ใช้แรงงานเตรียมเฮ ทุกพรรครัฐบาลเห็นพ้อง ขึ้นค่าแรงเป็น 400 บาท

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 12 ก.ค. ที่ชั้น 14 ที่สำนักงานใหญ่ทีโอที แจ้งวัฒนะ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวภายหลังการประชุมจัดทำนโยบายรัฐบาลร่วมกับตัวแทน 19 พรรคการเมือง ว่า การประชุมในวันนี้เป็นการนำนโยบายของที่ละพรรคเสนอเพื่อผลักดันมาบรรจุลงในนโยยายของรัฐบาลได้ข้อยุติแล้วหลักจากที่ได้ฟังจากทุกฝ่าย และร่วมกันพิจารณาในแต่ละประเด็น ซึ่งร่างนโยบายของรัฐบาลนั้นครอบคลุมทุกด้าน

โดยหลังจากนี้จะนำไปปรับปรุงเพียงเล็กน้อย คาดว่าจะแล้วเสร็จในวันที่ 13 ก.ค. และจะสามารถนำส่งถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ภายใน 1-2 วันนี้ ทั้งนี้เนื้อหาร่างนโยบายรัฐบาล จะมีเนื้อหาทั้งนโยบายที่สำคัญและเร่งด่วนที่รัฐบาลต้องทำในช่วง 1 ปีแรก อาทิ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชน การลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ประชาชนรอคอยให้รัฐบาลเร่งดำเนินการแก้ไข ขณะเดียวกันก็จะบรรจุเรื่องที่เป็นนโยบาย 4 ปี ที่เป็นการสร้างความยั่งยืนของประเทศในทุกมิติ

นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า การทำนโยบายของรัฐบาลได้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งบริบทด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งเเวดล้อม และด้านอื่นๆ สำหรับนโยบายที่แต่ละพรรคการเมืองได้ใช้ในช่วงที่มีการหาเสียงเลือกตั้งที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นการพูดถึงเรื่องมาตราการ

แต่นโยบายของทุกพรรคก็มีเป้าหมายเดียวกัน คือการยกระดับราคาสินค้าเกษตร ที่ทำให้เกษตรกรอยู่รอดและเติบโตต่อไปได้ ส่วนรายละเอียดของมาตราการต่างๆ ก็ต้องพิจารณาตามประเภทของผลผลิตทางการเกษตรนั้นๆ รวมถึงจะต้องดูระยะสั้น และระยะยาว โดยเราจะนำมาตราการที่แต่ละพรรคเคยประกาศไว้ในช่วงหาเสียง มาพิจารณาแล้วปรับใช้ร่วมกัน เพื่อจัดทำเป็นมาตราการของรัฐบาลต่อไป

เมื่อถามว่า มาตราการที่รัฐบาลที่จะทำออกมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นของพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เมื่อจัดทำมาเป็นมาตราการของรัฐบาลแล้ว ไม่มีคำว่าเป็นมาตราการของพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะถือว่าเป็นมาตราการของรัฐบาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกพรรคต้องร่วมกันคิดและพูดคุยกัน

ต่อข้อถามต่อว่า เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะถูกบรรจุอยู่ในนโยบายของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องนี้ยังเป็นสิ่งที่ต้องหารือกันถึงรายละเอียดบางประเด็นกันอีกครั้ง ซึ่งเชื่อว่าจะจบลงอย่างเรียบร้อยดีในเร็วๆนี้

เมื่อถามอีกว่า ร่างนโยบายรัฐบาลจะต้องให้นายกฯตัดสินอีกครั้งหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า นายกฯไม่ได้มาเป็นผู้ตัดสิน เพียงแค่มาร่วมพูดคุยกับพวกเรา

เมื่อถามย้ำว่า นายกฯระบุว่าจะนำนโยบายของพรรคฝ่ายค้านมาบรรจุด้วย นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ในการหารือวันนี้ (12 ก.ค.) ได้พูดคุยในเรื่องดังกล่าวด้วย เราได้นำนโยบายของพรรคฝ่ายค้าน มาพิจารณาและสังเคราะห์ในส่วนที่ดีและมีประโยชน์มาใช้ ซึ่งเราไม่อยากให้คิดว่าเป็นนโยบายของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง แต่เรามองว่านโยบายที่ดีจะต้องเป็นสิ่งที่ตอบสนองความต้องการของประชาชน และสามารถนำไปปฎิบัติให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้

เมื่อถามว่า ทางรัฐบาลจะหารือกับพรรคฝ่ายค้านเพื่อพูดคุยหารือถึงรายละเอียดการปฎิบัติตามนโยบายนั้นๆ ด้วยหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ถ้ามีโอกาสก็ดี เพราะถ้ารัฐบาลสามารถนำแนวคิดที่ดีจากทุกฝ่ายมาใช้ประโยชน์ได้ ตนคิดว่าน่าจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เรายินดีหากมีโอกาสได้มาพูดคุยกัน ทั้งนี้ขอให้การทำนโยบายของรัฐบาลโดยร่วมเสร็จสิ้นก่อน แล้วจึงจะพิจารณาว่าจะเชิญฝ่ายค้านมาร่วมพูดคุยกันหรือไม่

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การจัดทำนโยบายรัฐบาลได้คำนึงถึงกรอบวงเงินของรัฐบาลด้วยหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราต้องคิดถึงเรื่องดังกล่าวเเน่นอน เพราะการทำนโยบายและมาตราการต่างๆจะต้องผูกพันกับเรื่องของงบประมาณ ต้องอยู่บนพื้นฐานวงเงินงบประมาณที่สามารถจัดสรรได้ แต่ตอนนี้ยังไม่สามารถระบุตัวเลขวงเงินงบประมาณได้

เมื่อถามถึงนโยบายการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 400 บาท นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ทุกพรรคเห็นตรงกันว่าควรต้องปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำให้เป็นอัตราที่เพียงพอต่อผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเห็นได้ว่าทุกพรรคมีนโยบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ ที่มีเป้าหมายว่าจะให้เป็น 400 บาทต่อวัน ส่วนวิธีการจะเป็นอย่างไรนั้น จะมีการกำหนดลงไปในนโยบายและมาตราการของรัฐบาลอีกครั้ง

เมื่อถามว่า บางโครงการที่รัฐบาลจะสานต่อจากรัฐบาลชุดเดิม จะถูกเปลี่ยนชื่อโครงการจากประชารัฐเป็นอย่างอื่นหรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เราอย่าไปยึดเรื่องชื่อ แต่ขอให้ยึดเรื่องของหลักการ ขอย้ำว่าวันนี้เราเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งหมดเป็นผลงานของรัฐบาล และทุกฝ่ายได้มีส่วนร่วมในการดำเนินการ

ต่อข้อถามว่า การแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา ได้มีการขอเวลาไว้ 3 วันใช่หรือไม่ นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่คณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) จะหารือและกำหนดระยะเวลา

ทั้งนี้เรื่องการแถลงนโยาบายรัฐบาลควรจะมีระยะเวลาให้ทุกฝ่ายได้พิจารณาและแสดงความคิดเห็น ซึ่งตนไม่ได้กังวลว่าจะเป็นเวทีที่ฝ่ายค้านจะนำไปใช้เป็นเครื่องมือหรือประโยชน์ทางการเมือง เพราะตนคิดว่าทุกฝ่ายต้องทำร่วมกันแสดงความคืดเห็นเพื่อประโยชน์ของประเทศ ซึ่งทางรัฐบาลเองก็พร้อมรับฟังประเด็นที่มีการติติ่งมาด้วย

เมื่อถามถึง กระเเสข่าวที่ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะมากำกับดูแลกระทรวงพลังงาน นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ไม่เคยทราบเลย ตนก็เพิ่งได้ยินตอนนี้ แต่หากจะมากำกับดูแลจริง ตนก็สามารถทำงานร่วมกับพล.อ.ประวิตร ได้อยู่แล้ว

ข้อมูลจาก ข่าวสด